สอบชัดเส้นทางหนี “ปู” นั่งคัมรี่จากกรุงไปอรัญฯ แล้วต่อกระบะออกชาย แดน รองผบก.น.5 คนขับพาหลบจากบ้าน สารภาพยิบ ตร.เด้งรูด 3 นาย พ.ต.อ.-พ.ต.ท.ยันด.ต.ร่วมทีม บิ๊กป้อมเผยรู้ตัวคนสั่งแล้ว ศรีวราห์รุดรายงาน “บิ๊กตู่” ถึงทำเนียบฯ ผบ.ทบ.ยันเรือเหาะคุ้มค่า วิษณุโต้วุ่นขายข้าวดีเป็นข้าวเน่า พธม.ถกเครียดใช้หนี้ยึดสนามบิน 522 ล้าน

คุม3ตร.สอบพา”ปู”หนี

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 22 ก.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้สอบปากคำ 3 ผู้ต้องสงสัย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ พร้อมรถยนต์ที่ตรวจพบในพื้นที่ จ.นครปฐม ซึ่งเป็น 1 ใน 2 คัน ที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิด ที่จ.สระแก้ว ที่สงสัยว่าจะเป็นรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีไปทางด่านอรัญ ประเทศ จ.สระแก้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อหญิงผู้ครอบครองรถเพื่อสอบปากคำในฐานะพยาน โดยเจ้าของรถมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ และได้ยกเลิกการใช้รถไปตั้งแต่ปี 2555

สำหรับผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยศดาบตำรวจ, สารวัตร และพ.ต.อ. ตำแหน่งรองผู้บังคับการ โดยทั้งหมดยังไม่พบว่ามีความผิดในฐานพยายามพาหลบหนี แต่จะผิดในข้อหาปลอม ใช้เอกสารทางราชการปลอมและใช้รถเลี่ยงภาษี หากรถมีการแจ้งหายไว้ จะเข้าฐานความผิด รับของโจร ซึ่งสำนวนคดีนี้จะให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เช็กคัมรี่พาหนีสวมทะเบียน

รายงานข่าวแจ้งว่า จากนั้นพล.ต.อ.ศรีวราห์ได้คุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน ซึ่งเป็นรอง ผบก. สังกัด บช.น. พร้อมสารวัตรและดต. สังกัดฝ่ายสืบสวน บก.ภ.จว.นครปฐม ลงมาชี้รถยนต์ โตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์ ทะเบียน ฌข 5323 กรุงเทพมหานคร หลังจากใช้รถคันดังกล่าวพาอดีตนายกฯ หลบหนีไปที่ จ.สระแก้ว โดยพบแผ่นป้ายทะเบียนปลอม 2 ชุด เพื่อไว้เปลี่ยนระหว่างทาง ประกอบด้วย ฌข 5323 กรุงเทพ มหานคร และ ฌย 2123 กรุงเทพมหานคร โดยจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ. ศรีวราห์ พร้อมด้วยพ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ คณะทำงานพิเศษ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ร่วมกันเก็บดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝง ภายในรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ ที่ตรวจพบ หลังสืบทราบว่าเป็นรถที่ไปรับตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์จากบ้านพักก่อนมุ่งหน้าไปทางมีนบุรี และปลายทางถึง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

สำหรับรถยนต์คันดังกล่าวมีผู้นำมาจอดทิ้งไว้ที่ จ.นครปฐม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเชิญตัวพยาน 3 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์และคดีมีความคืบหน้าชัดเจน อีกทั้งยังทราบว่า 1 ใน 2 เป็นผู้ใช้รถยนต์คันดังกล่าว อีกทั้งจากการขูดเลขตัวถังรถ ทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวผู้ใช้ได้สวมทะเบียนมาถึง 2 ครั้ง อีกทั้งยังเป็นรถยนต์ 1 ใน 2 ที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิดที่ จ.สระแก้ว และไม่ใช่รถที่ใช้ในราชการแต่อย่างใด

เผย 3 ตร.ให้การมีประโยชน์

ต่อมาเวลา 10.10 น พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำตำรวจ 3 นาย ว่า การดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ ทุกอย่างต้องว่าตามพยานหลักฐาน แต่ยืนยันทั้ง 3 นาย เกี่ยวข้องกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ส่วนจะเกี่ยวข้องในลักษณะใดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนรถคันที่ยึดได้สอดคล้องกับภาพวงจรปิดที่ปรากฏที่จ.สระแก้ว ก่อนหน้านั้น จากการตรวจสอบเป็นรถที่เจ้าของที่แท้จริงระงับการใช้งานตั้งแต่ปี 2555 ส่วนที่พบทะเบียนปลอม ได้ดำเนินคดีฐานปลอมเอกสาร มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีแล้ว ส่วนที่พบร่องรอยตราโล่ตำรวจที่ติดข้างประตูคนขับ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นรอยอะไร ที่ผู้สื่อข่าวเห็นอาจจะเป็นรอยอื่นก็ได้ อย่าไปสันนิษฐาน

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ตำรวจทั้ง 3 นาย ยืนยันยังไม่มีความผิดอาญาในการพาหนี เพราะขณะนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้มีหมายจับติดตัว ส่วนเจตนาว่าพาหนีหรือไม่อย่างไร จะเอาผิดทางวินัย หรือจะเสนอเรื่องให้พักราชการหรือไม่ เป็นอำนาจหน้าที่ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดเป็นผู้พิจารณา ซึ่งทราบว่าตำรวจทั้ง 3 นาย มีสังกัดที่บก.น.5 และบก.ภ.จว.นครปฐม อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ สำหรับเส้นทางหลบหนีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่ยืนยันว่าเปลี่ยนรถแล้วออกไปนอกประเทศไปทางสระแก้วหรือไม่ ถ้าพูดไปอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้

ศรีวราห์รุดรายงาน”บิ๊กตู่”

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 นาย ได้ปล่อยตัวไปเพราะตำรวจไม่มีอำนาจควบคุมตัวไว้ ยังไม่มีข้อหาที่ไปจะควบคุมเขาไว้ ส่วนจะเรียกมาสอบสวนอีกเมื่อไร ก็ต้องรอความชัดเจน ทำไปเรื่อยๆ ยืนยันคดีมีความ คืบหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม กำชับให้สืบสวนให้ได้ความว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าทั้ง 3 นาย รับน.ส.ยิ่งลักษณ์ จากที่ไหนไปที่ไหน รองผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่ขอตอบ ยืนยันว่ามีความเกี่ยวข้อง โดยเกี่ยวข้องทั้งรถและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ส่วนจะมีผู้ต้องสงสัยมากกว่า 3 คนนี้หรือไม่ จะต้องสืบสวนต่อไป ทุกอย่างว่าตามกฎหมาย

เมื่อถามว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวข้องกับตำรวจ 3 นายนี้หรือไม่ รองผบ.ตร. กล่าวว่า เดี๋ยวรอให้โรงพักเขาว่ากันไป ตามปกติก็เช็คอยู่แล้วว่าใครร่วมกระทำความผิดบ้าง

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ศรีวราห์ เดินทางเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ เป็นการส่วนตัวประมาณ 20 นาที เพื่อรายงานความคืบหน้าการสอบปากคำตำรวจ 3 นายที่เกี่ยวข้องกับการพาน.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนี ล่าสุดมีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รอง ผบก.น.5 มาปฏิบัติราชการประจำ ศปก.บก.น.5 แล้ว

พยานให้การเส้นทางหนี

รายงานข่าวจากตร. แจ้งว่า สำหรับคำให้การของบุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีพาน.ส. ยิ่งลักษณ์หลบหนี มีดังนี้ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รอง ผบก.น.5 บช.น. ให้การ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. เวลา 18.20 น. ได้ขับรถยนต์เก๋งสายตรวจยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีบรอนซ์เทา หมายเลขโล่ 09807 ไปจอดรอรับน.ส. ยิ่งลักษณ์ บริเวณลานจอดรถห้างโลตัส สาขาวัชรพล หลังจากนั้น 5 นาที มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยทราบว่าภายในรถเบนซ์ มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ นั่งอยู่ด้วย จากนั้นรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ ขับมุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านชัยพฤกษ์ วัชรพล จึงขับรถตามไป จนถึงหมู่บ้านชัยพฤกษ์ รถเบนซ์ได้เข้าไปทางป้อมยามของหมู่บ้าน เข้าไปในซอย 23 ส่วนตนจอดรออยู่ที่ปากซอย 23

พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ระบุว่า ต่อมา 2 นาทีได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์เทา มีซันรูฟ ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฌย 2123 กรุงเทพมหานคร ขับมาและขับนำรถยนต์คันที่ตนขับ ซึ่งตนก็ทราบว่าในรถคัมรี่ มีน.ส.ยิ่งลักษณ์นั่งมา โดยเป็นการเปลี่ยนรถยนต์นั่งของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จนถึงซอย 38 รถคัมรี่ได้ขับเข้าไปยังบ้านพักของตน ซึ่งอยู่ท้ายซอย และตนได้ขับรถเข้าไปจอดไว้ในบ้านพัก จากนั้นได้ขับรถคัมรี่ ซึ่งในรถมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ และเลขาฯ ที่เป็นผู้หญิงอีก 1 คนนั่งอยู่ (โดยทั้งสองใช้หน้ากากอนามัยหรือแมสก์สีดำปิดปากและจมูกไว้ และสวมหมวกแก๊ปสีเข้มทั้งสองคน) มุ่งหน้าออกจากหมู่บ้านชัยพฤกษ์ วัชรพล เลี้ยวซ้ายไปถนนรามอินทรา มุ่งหน้ามีนบุรี จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปถนนสุวินทวงศ์ มุ่งหน้าจ.ฉะเชิงเทรา

ส่ง”ปู”ที่อรัญประเทศ

พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ให้การต่อว่า พอผ่านตัวจ.ฉะเชิงเทรา ได้เลี้ยวซ้ายไปยังอ.พนมสาร คาม เพื่อถึงต.เขาหินซ้อน ได้เลี้ยวขวามุ่งหน้าจ.สระแก้ว และไปอ.อรัญประเทศ โดยถึงตัวอ.อรัญประเทศ เวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 23 ส.ค. จากนั้นได้ขับไปตามถนนสุวรรณศร เพื่อไปที่นัดหมายโดยมีรถมารอรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ห่างจากสถานีรถไฟอรัญประเทศประมาณ 1 ก.ม. ซึ่งบริเวณ ดังกล่าวไม่มีไฟส่องสว่างจากที่ใดๆ เมื่อไปถึง ตนเห็นรถยนต์กระบะสี่ประตูสีทึบ โดยไม่ได้สังเกตยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน จอดรออยู่ และมีชายลักษณะสูงประมาณ 180 ซ.ม. ซึ่งมองเห็นหน้าไม่ชัดว่าเป็นชายไทยหรือไม่ โดยรถกระบะคันดังกล่าวได้เปิดไฟกะพริบซ้ายขวาด้านหลังไว้ด้วย

พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ระบุว่า ตนได้จอดรถคัมรี่ต่อท้าย จากนั้นชายคนดังกล่าวได้เดินมารับน.ส.ยิ่งลักษณ์ และเลขาฯ หญิง ไปขึ้นรถกระบะคันดังกล่าวแล้วขับออกไป ส่วนตนได้ขับรถต่อไปอีก 500 เมตร จึงแวะจอดรถข้างทางเพื่อนอนพักชั่วคราว และตื่นขึ้นมาในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 24 ส.ค. จึงได้ขับรถยนต์กลับกทม. ตามเส้นทางเดิม ถึงบ้านพักที่หมู่บ้านชัยพฤกษ์ ในเวลา 16.00 น. วันที่ 24 ส.ค. โดยไม่ได้แวะพักที่ใด และได้จอดรถ คัมรี่คันดังกล่าวไว้ที่บ้าน

แยกชิ้นส่วนรถทำลายหลักฐาน

พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ระบุว่า จนเมื่อวันที่ 28 ส.ค. ตนได้ขับรถเก๋งคัมรี่คันดังกล่าว โดยได้เปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็น ฌข 5323 กรุงเทพมหานคร แล้วนำแผ่นป้ายทะเบียนเดิมห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ไปซุกซ่อนไว้ที่บริเวณที่เก็บยางอะไหล่ภายในกระโปรงท้ายรถยนต์คันดังกล่าว แล้วนำไปให้ ด.ต.พรพิพัฒน์ มากบุญงาม ที่จ.นครปฐม เพื่อนำไปยกชิ้นส่วนทำลายหลักฐาน ซึ่งด.ต.พรพิพัฒน์ เคยรับราชการและทำการร่วมกับตน สมัยที่เคยรับราชการอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามด้วยกันเมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ในวันต่อมา ตนโทรศัพท์ไปบอกด.ต.พรพิพัฒน์ ให้นำป้ายทะเบียนที่ซุกซ่อนไปทำลายด้วย

ด้านด.ต.พรพิพัฒน์ มากบุญงาม ผบ.หมู่ ฝอ.7 ภ.จว.นครปฐม ให้การว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค. พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ นำรถเก๋งคัมรี่ ติดป้ายทะเบียน ฌข 5323 กรุงเทพมหานคร มาให้และให้ช่วยติดต่อหาคนเพื่อนำไปแยกชิ้นส่วนทำลายหลักฐาน โดยนำมาที่ร้านอาหารแสงจันทร์ของตน ในตัวเมืองนครปฐม ตรงข้ามมหาวิทยาลัยศิลปากร และได้จอดไว้ที่ร้านอาหารของตนโดยยังไม่ได้ทำอะไรกับรถยนต์คันดังกล่าว ต่อมาวันที่ 30 ส.ค. ตนติดต่อให้ พ.ต.ท.สามมิตร ไชยอิ่นคำ สว.สส. ภ.จว.นครปฐม ซึ่งเป็นนักเรียนพลตำรวจรุ่นเดียวกัน นำรถยนต์ดังกล่าวไปแยกชิ้นส่วนทำลายหลักฐาน ซึ่งหลังจากนั้นตนไม่ทราบรายละเอียดว่าได้นำไปแยกชิ้นส่วนหรือไม่อย่างไร

โดนเรียกสอบก่อนลงมือ

ด.ต.พรพิพัฒน์กล่าวว่า หลังจากที่พ.ต.อ. ชัยฤทธิ์ นำรถยนต์ดังกล่าวมาจอดไว้ที่ร้านอาหารของตนแล้วได้โทรศัพท์มาบอกให้ตนนำแผ่นป้ายทะเบียนอีกชุดหนึ่งซึ่งซุกซ่อนอยู่ในที่เก็บยางอะไหล่ในกระโปรงท้ายรถยนต์ไปทำลาย จึงได้นำไปเก็บไว้ในร้านอาหารของตนก่อนจะมอบรถยนต์ให้กับ พ.ต.ท.สามมิตร ไป ซึ่งแผ่นป้ายทะเบียนชุดดังกล่าวมีกระดาษหนังสือพิมพ์ห่อไว้

ด.ต.พรพิพัฒน์กล่าวว่า ต่อมาวันที่ 21 ก.ย. พ.ต.ท.ชัยฤทธิ์โทรศัพท์มาสอบถามเกี่ยวกับรถยนต์คันดังกล่าว และมีผู้บังคับบัญชาได้นำตัวมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรถคันดังกล่าว และซักถามถึงแผ่นป้ายทะเบียนชุดดังกล่าว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบที่ร้านอาหารของตน จึงทราบว่าแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ฌย 2123 กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าวเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ตร.เผยเช็กจนรู้รถต้องสงสัย

ขณะที่พ.ต.ท.สามมิตร ไชยอิ่นคำ สว. สส.ภ.จว.นครปฐม ให้การว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ด.ต.พรพิพัฒน์ได้ติดต่อมาให้ช่วยนำรถยนต์คัมรี่ ติดป้ายทะเบียน หมายเลข ฌข 5323 กรุงเทพมหานคร ไปแยกชิ้นส่วนทำลายหลักฐาน จากนั้นได้นำรถคันดังกล่าวจากร้านอาหารแสงจันทร์ของด.ต.พรพิพัฒน์ไปจอดไว้ใต้ต้นไม้บริเวณบ้านของ ด.ต.ธนรักษ์ ชาวสวนแก้ว ผบ.หมู่งานสืบสวน ภ.จว.นครปฐม ผู้ใต้บังคับบัญชาของตน โดยยังไม่ได้นำไปแยกชิ้นส่วนแต่อย่างใด กระทั่งวันที่ 21 ก.ย. ด.ต.พรพิพัฒน์ และผู้บังคับบัญชาของตนได้โทรศัพท์สอบถามเกี่ยวกับรถคัน ดังกล่าว และให้นำรถคันดังกล่าวมามอบให้เจ้าหน้าที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมาให้ปากคำเพื่อให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรถคัน ดังกล่าว

ด้านพ.ต.ท.ทนงศักดิ์ คำมาตย์ รองผกก.6 ทล. ให้การว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ได้รับคำสั่งจากพล.ต.อ.ศรีวราห์ให้สืบสวนรวบรวมข้อมูลรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นคัมรี่ 3.5 Q ตนกับพวกจึงร่วมกันตรวจสอบข้อมูลทั้งจากข้อมูลในระบบ POLIS ที่เชื่อมโยงกับกรมการขนส่งทางบก และได้ตรวจสอบกับบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย เริ่มตั้งแต่ 2549 จำนวน 283 คัน ซึ่งมีข้อมูลสี หมายเลขตัวถัง ปีที่จดทะเบียนทั้ง 283 คัน ซึ่งเมื่อตรวจดูแล้วพบว่ารถเก๋งคัมรี่ ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฌข 5323 กรุงเทพมหานคร (เดิมติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ฌย 2123 กรุงเทพมหานคร) มีหมายเลขตัวถังไม่ตรงกับรถยนต์ที่ได้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยทั้ง 283 คัน แต่ตรวจสอบพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวระบุตัวถังคือ MR053BK4107001933 หมายเลขเครื่องคือ 2AZ1197836

“ป้อม”ขออุบชื่อคนสั่งพาหนี

วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตำรวจอาจมีส่วนเกี่ยวข้องพาน.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รายงานว่าจากการสอบสวน รอง ผบก. รับสารภาพว่าได้รับน.ส. ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยเลขาฯอีก 1 คน ขับรถไปส่งให้รถที่มารับช่วงต่อ ซึ่งเรายังหารถคันนั้นไม่เจอ เชื่อว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกทางด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว แน่นอน แต่ยังไม่ทราบออกทางช่องไหน เนื่องจากมีหลายช่อง

เมื่อถามว่ามีความเชื่อมโยงถึงนายตำรวจอื่นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขาบอกแค่ว่าเป็นคนรับคำสั่งมา แต่ตนยังไม่บอกสื่อ ซึ่งคนสั่งอยู่ในประเทศ ส่วนจะเชื่อมโยงไปยังอดีต ผบช.น. ที่รองผู้การฯ มีความสนิทสนมและเคยทำงานร่วมกันหรือไม่นั้น ขอรอผลการสอบสวนให้ละเอียดกว่านี้ ขณะนี้ตั้งข้อหารองผู้การฯ คือปลอมแปลงรถ เนื่องจากรถขโมยมา ส่วนข้อหาพาน.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนี จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน ขณะนี้สั่งให้รอง ผบก.คนดังกล่าว หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน

บิ๊กเจี๊ยบเผยอรัญออกได้หลายจุด

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวนสารวัตรและด.ต. ทั้ง 2 คนได้รับมอบหมายให้นำรถคันที่ พ.ต.อ.ขับพาน.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีไปทำลายหลักฐานทิ้ง แต่ทั้ง 2 ยังไม่ทันได้ทำลาย ก็ถูกสอบสวนเสียก่อน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นได้สอบสวนถึงผู้ที่สั่งการว่าเป็นอดีตนายพลตำรวจยศ พล.ต.อ.

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวถึงการติดตามตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ช่องทางธรรมชาติบริเวณอ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีคลองลึกที่มีความกว้างประมาณ 1 เมตร 50 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าใช้ข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านได้ทุกจุด ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่ คาดว่าถ้ามีความชัดเจน เขาจะมาชี้แจงรายละเอียดให้ทราบต่อไป ขอให้รอ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเป็นฝ่ายชี้แจง เพื่อป้องกันความสับสน

บิ๊กตู่แจงเหตุพูดคุยนักการเมือง

วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนว่า รัฐบาลยังมีความจำเป็นและเห็นความสำคัญอย่างมากในการลงพื้นที่ทุกภูมิภาคเพื่อพบปะกับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับทราบปัญหา อย่ามองว่าไปเพื่อจะไปทำงานการเมือง ไปทำประชานิยม ไปเรียกคะแนนเสียง

“สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นคือผมได้มีโอกาสพบกับบรรดานักการเมือง จากพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีความยินดีที่มีการพบปะพูดคุยกัน นั่นคือเรียกว่า การปรองดอง คือไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาเป็นพวกกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน เรายังไม่ไปพูดถึงตรงนั้นเลย เพียงแต่จะร่วมมือกันได้อย่างไรในวันหน้า เพราะว่าท่านเหล่านั้นก็เป็นนักการเมืองอาชีพ ทุกคนก็อยู่ในกระบวน การบริหารราชการแผ่นดินมาทุกพรรค เราก็ยินดีที่จะพบปะพูดคุย เว้นแต่บางท่านหรือบางพรรคไม่อยากคุยด้วย ผมก็ไม่ทราบจะทำอย่างไรเหมือนกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ตนพยายามลดข้อขัดแย้งที่หลายๆ คนเรียกร้องว่ารัฐบาลไม่พูด ไม่คุย ไม่ฟังใคร ไม่ฟังนักการเมือง ตนก็ฟังแต่พอฟังเสร็จก็หาว่าจะพยายามดึงมาเป็นพวกอีก ซึ่งไม่ใช่ ดึงมาพูดคุยกัน เพื่อให้เข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่ เมื่อเข้ามาบริหารประเทศเห็นว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่รัฐบาลนี้ทำไว้ดีแล้วก็น่าจะรับไปสานต่อให้สำเร็จ

วิษณุโต้ขายข้าวดีเป็นข้าวเน่า

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาล 8 แห่ง หลังได้รับเรื่องร้องเรียนนำข้าวดีไปประมูลเพื่อแปรรูปเป็นอาหารสัตว์ และส่วนผสมของปุ๋ยในภาคเกษตรว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานผลการตรวจสอบโกดังแต่ละพื้นที่เป็นลายลักษณ์มาให้ นายกฯ และตนทราบเป็นระยะ ซึ่งยังไม่พบอะไรที่ผิดปกติหรือนำข้าวดีไปขายเป็นข้าวเน่า และไม่พบว่ามีโกดังใดบ้างถูกงัด แต่พบอย่างอื่นที่ตนให้เขาไปตรวจสอบเพิ่มเติม อาทิ มีการใช้สารเคมีในโกดังข้าวหรือไม่ มีข้าวที่ถูกผสมกับอะไรบางอย่างซึ่งตนสั่งให้ไปตรวจสอบว่าอะไรเป็นมูลเหตุจูงใจ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ไปสุ่มตรวจหลังจากประมูลขายข้าวด้วยว่าถูกนำไปทำเป็นอาหารสัตว์จริงหรือไม่

นายวิษณุกล่าวว่า ยืนยันว่าการตรวจสอบเสร็จทัน 30 วัน ตามกรอบที่นายกฯกำหนด โดยพล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบติดตามและกำกับดูแลการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ได้รายงานมาทุกวัน และตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องเรียกประชุมคณะกรรมการตรวจสอบฯ แต่หากได้ข้อมูลมามากจนก็อาจนัดประชุมกันต่อไป

เมื่อถามว่านายกฯ เคยระบุอาจไม่มีการทำผิดในกระบวนการประมูลข้าว แต่ไม่แน่ใจว่าภาคเอกชนจะเอาข้าวที่ประมูลไปแยกข้าวดี-ข้าวเสียอีกครั้งหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่มีการรายงานในส่วนนี้ แต่เจ้าหน้าที่รับทราบโจทย์ต่างๆ ในการตรวจสอบอยู่แล้ว

ผบ.ทบ.ชี้ใช้เรือเหาะขรุขระบ้าง

ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวถึง การปลดประจำการเรือเหาะตรวจการณ์ของกองทัพบกว่า เป็นการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพบกตามปกติ เพื่อเป็นเครื่องมือให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในขณะนั้นสถานการณ์มีการสูญเสียเจ้าหน้าที่ทหารและพลเรือน จึงจัดซื้อเรือเหาะเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงาน ดูแลความปลอดภัยของประชาชน และใช้ตรวจการพื้นที่สำคัญ 3 พื้นที่ในตัวเมืองหลัก และสนับสนุนการปฏิบัติการทางยุทธวิธี เช่น การปิดล้อมตรวจค้น

พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า การจัดหาเป็นไปตามขั้นตอนปกติ เมื่อรับมาใช้งานในระยะหนึ่ง ได้รับการร้องเรียน ไม่มีการตรวจสอบการจัดหาและราคาและทางป.ป.ช. ก็ตรวจสอบก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ เริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งเรือเหาะเป็นยุทโธปกรณ์ที่เราไม่เคยใช้งานมาก่อน แต่แนวความคิดในการใช้งาน ถือว่าตอบโจทย์ ซึ่งด้วยความเป็นยุทโธปกรณ์ใหม่จึงเกิดความขรุขระในการใช้งานและมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง

ยันมีความคุ้มค่า

พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ในปี 2556 ประสบอุบัติเหตุเนื่องจากสภาพอากาศ ซ่อมไปในระยะหนึ่งและนำกลับมาใช้งานต่อ ขณะนั้นตนเป็นผู้ช่วยผบ.ทบ. ได้ลงไปตรวจสอบการใช้งาน ซึ่งสถิติในการใช้งานน้อยลงไปมาก จึงให้ตรวจสอบรายละเอียด พบว่าประสบปัญหาในการใช้งาน จึงตั้งคณะกรรมการพิจารณาความคุ้มค่าในการใช้งาน หรือการส่งซ่อม และคณะกรรมการได้พิจารณาว่า การชำรุดของผืนผ้าใบเป็นไปตามห้วงระยะเวลา ไม่คุ้มค่าสำหรับการส่งซ่อม ต้องจำหน่ายเรือเหาะ มูลค่า 66 ล้านบาท จากมูลค่ารวม 340 ล้านบาท ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมสถิติการใช้งานเรือเหาะตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการปฏิบัติงานทุกครั้งมีการจดบันทึกเอาไว้ บางปีใช้งาน 30 ครั้ง ถ้าเป็นช่วงแรกของการใช้งานก็มีจำนวนมาก

“ผมคิดว่าเรือเหาะมีความคุ้มค่าในการใช้งาน ทำให้สถิติการปฏิบัติการของฝ่ายตรงข้ามลดลง จนมาถึงในปัจจุบัน ซึ่งเรือเหาะอาจเป็นส่วนหนึ่งของยุทโธปกรณ์ป้องปรามแต่ต้องสรุปตัวเลขอีกครั้ง ซึ่งผมพร้อมชี้แจงกับสำนัก งานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถือเป็นประสบ การณ์ในการทำงาน เหมือนเราไปซื้อของในห้างแล้วคิดว่าดี แต่เมื่อนำมาใช้งานก็ไม่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ใช้งานได้” พล.อ.เฉลิมชัยกล่าว

เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้อนุมัติจัดซื้อในสมัยนั้น พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุย ซึ่งการจัดหายุทโธปกรณ์เป็นเรื่องของกองทัพ ไม่ใช่ตัวบุคคลและตนมาเป็นผบ.ทบ.ในขณะนี้ ก็ต้องรับผิดชอบในการดำเนินการต่อไป

เรืองไกรยื่นปปช.สอบมาร์คแล้ว

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อประธาน ป.ป.ช. ผ่านนายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักการข่าวและกิจการพิเศษ ขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ครม.สมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ กรณีที่ ประชุมครม.ขณะนั้นมีมติอนุมัติให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2552 งบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อจัดหาระบบเรือเหาะพร้อมกล้องตรวจการณ์ วงเงิน 350 ล้านบาท เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่

โดยระบุเหตุผลว่า เนื่องจากไม่ได้อนุมัติในหลักการก่อนตามหลักเกณฑ์ของวงเงินงบที่เกินกว่า 100 ล้านบาท ส่วนที่เรือเหาะใช้การไม่ได้ตามวัตถุประสงค์และมีการยกเลิกไปแล้วนั้น เป็นข้อเท็จจริงว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้จำเป็นเร่งด่วน จึงอาจเข้าข่ายก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ จึงขอให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ

ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. กล่าวกรณีนายเรืองไกรยื่นคำร้องขอให้ป.ป.ช.ตรวจสอบนายอภิสิทธิ์ กรณีอนุมัติงบกลางจัดซื้อเรือเหาะว่า ป.ป.ช. ชุดที่แล้วเคยวินิจฉัยกรณีถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ไม่ควบคุมดูแลกองทัพบกในการใช้งบจัดซื้อเรือเหาะอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งได้ยกคำร้องไปแล้ว แต่ถ้านายเรืองไกรมีพยานหลักฐานใหม่ที่ไม่ใช่ประเด็นเดิมที่ป.ป.ช.เคยมีมติไปแล้ว ก็ต้องพิจารณาว่าอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะนำมาพิจารณาได้หรือไม่ หากเป็นเรื่องเดียวกันก็ไม่สามารถดำเนินการได้

พธม.ถกเครียดใช้หนี้ 522 ล้าน

นายสุริยะใส กตะศิลา อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โพสต์เฟซบุ๊กถึงคำสั่งศาลฎีกาที่ให้อดีตแกนนำพันธมิตรฯ 13 คน ชดใช้ค่าเสียหายแก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เป็นเงิน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี กรณีปิดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อปี 2551 ว่า มีคำถามมาเยอะว่า 13 คนจะดำเนินการอย่างไรต่อ ตนพยายามสอบถามความเห็นจำเลยบางส่วนและทีมทนายหลายคน มีความเห็นเบื้องต้น 1.ในส่วนของจำเลยทั้ง 13 คนไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางคดีหลังคำพิพากษาศาลฎีกาออกมา คือ ต้องรอทางการท่าอากาศยานฯ ในฐานะโจทก์เรียกคุยในฐานะเจ้าหนี้กับลูกหนี้ว่าจะชดใช้อะไรหรือไม่อย่างไร จะคุยกันหรือไม่ คุยแล้วจะได้ความหรือไม่ก็ยังไม่รู้

2.ขั้นตอนนี้คงต้องใช้เวลาสักระยะพอสมควร ถ้าไม่เป็นผล การท่าฯ ไม่พอใจ เขาก็จะร้องกรมบังคับคดีเพื่อดำเนินการสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์จำเลย ถ้าไม่พอชำระอีก หรือไม่เป็นที่พอใจก็สามารถฟ้องล้มละลายได้ต่อไป 2 ขั้นตอนนี้อยู่ที่การท่าฯ เป็นคนเดินเรื่องในฐานะเจ้าหนี้ แต่ในฐานะจำเลย ก็มีความเห็นที่ยังไม่ได้ข้อยุติ บางส่วนบอกจะขอเจรจาจ่ายเท่าที่จ่ายได้ ตามกำลังความสามารถ เราไม่มี และไม่หนี แต่ก็น้อมรับคำพิพากษาศาล ขึ้นกับการท่าฯ ว่าจะยอมหรือไม่

“ขณะที่จำเลยบางท่านบอกไม่ต้องทำอะไร ไม่มี ไม่หนีและไม่จ่าย ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย เพราะเรายืนยันในความบริสุทธิ์ใจของเราว่ากระทำไปเพื่อประโยชน์สาธารณะไม่ใช่เรื่องส่วนตัว อีกความเคลื่อนไหวหนึ่งที่มาแรงมากๆ มีการเสนอตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาคดีนี้โดย การรับบริจาคจากผู้ร่วมอุดมการณ์ร่วมทุกข์ร่วมสุขต่อด้วยกันมา เพื่อร่วมรับผิดชอบช่วยจำเลยทั้ง 13 คนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะยังมีอีก 2 คดีแพ่งคือ คดีที่วิทยุการบินเป็นโจทก์ฟ้อง 14 จำเลย 102 ล้าน ยังไม่รวมดอกเบี้ย ศาลแพ่งชั้นต้นและอุทธรณ์ตัดสินให้จำเลยต้องชดใช้ ค่าเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างศาลฎีกา” นายสุริยะใสกล่าว

นายสุริยะใสกล่าวว่า คดีที่การบินไทยเป็นโจทก์ฟ้องแพ่งจำเลย 36 คน เรียกค่าเสียหายอีก 575 ล้าน แต่คดีผู้พิพากษาให้ชะลอเพื่อรอคดีอาญา (คดีก่อการร้าย) แต่ในวันที่ 26 ต.ค.นี้ ศาลเรียกจำเลยไปสอบถามความคืบหน้าในคดีอาญา ฉะนั้นถ้าจะทำกองทุนระดมเงินกันจริงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเงินก้อนโตมากๆ และเป็นภาระมวลชน ที่สำคัญก็มีความเชื่อว่าเราไม่ผิดจะยอมเสียเงินกันอีกทำไม จะฟ้องล้มละลายก็ว่าไปเลย เฉพาะคดีการท่า 522 ล้านรวมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีก็ตกไปประมาณ 867 ล้านบาทแล้ว ทั้งหมดที่ประมวลมาก็เป็นเหตุให้ต้องใช้เวลาในการพิจารณากันให้ละเอียดเพราะแต่ละคดีล้วนเชื่อมโยงกัน อย่างไรก็ตามแนวทางข้างต้นคาดว่าคงได้ข้อยุติที่เป็นทางการเร็วๆนี้ จะแจ้งให้ทราบอีกทีครับ

ปปช.เร่งคดี”เมียเนวิน”ใช้งบฯ

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้กำลังเร่งสรุปสำนวนคดีทุจริตของท้องถิ่นที่ใกล้หมดอายุความให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเอาผิดผู้บริหารท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต

“ซึ่งคดีที่มีการกล่าวหานางกรุณา ชิดชอบ นายก อบจ.บุรีรัมย์ กับพรรคพวก มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ เบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ 20 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถือเป็นการใช้เงินงบประมาณที่ไม่ถูกต้องนั้น คณะอนุกรรมการไต่สวนพิจารณาคืบหน้าไปกว่า 75 เปอร์เซ็นต์แล้ว คาดว่าไม่เกินสิ้นปีนี้จะสรุปสำนวนเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ป.ป.ช. และชี้มูลได้ว่านางกรุณา มีความผิดหรือไม่”

พม.จ่ายเยียวยาม็อบปี”56-57

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายณรงค์ คงคำ โฆษกพม. เผยว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง พ.ศ.2556-2557 ครั้งที่ 3

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ตามที่ครม.มีมติ เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2558 เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง พ.ศ.2556-2557 และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2558 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงิน 120,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และมอบหมายให้พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ รับผิดชอบให้ความช่วยเหลือและเบิกจ่ายเงินเยียวยาฯ เงินฟื้นฟูสมรรถภาพและเงินยังชีพ

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า กระทรวงได้เปิดรับคำร้องจากผู้ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ถึงวันที่ 17 มี.ค. 2559 มีจำนวนผู้ยื่นคำร้องทั้งสิ้น 820 คน คณะอนุกรรมการช่วยเหลือเยียวยาฯ พิจารณาคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ครบถ้วนแล้วมีผู้ผ่านการพิจารณาได้รับการช่วยเหลือรวม 328 ราย ปี 2559 จัดพิธีมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา 2 ครั้ง มีผู้ผ่านการพิจารณา 301 คน ปี 2560 พิจารณาผู้ผ่านเกณฑ์ครั้งที่ 3 รวม 21 ราย ประกอบด้วย 1) กรณีบาดเจ็บสาหัส 4 ราย 2) กรณีบาดเจ็บ 1 ราย และ 3) กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย 16 ราย เป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 686,800 บาท และอยู่ระหว่างรอการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณอีก 6 ราย

“รัฐบาลโดยพม. และคณะอนุกรรมการช่วยเหลือเยียวยาฯ ตรวจสอบคุณสมบัติด้วยความรอบคอบ เพื่อให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาตามหลักเกณฑ์อย่างทั่วถึง เป็นธรรมและต่อเนื่อง โดยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองคุ้มครองสวัสดิภาพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต พส. โทร.0-2659-6536 หรือสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 บริการ 24 ชั่วโมง และทางเว็บไซต์ www.dsdw.go.th” พลตำรวจเอกอดุลย์กล่าว

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน