นักศึกษาพยาบาล ปี2 เปิดใจมหาวิทยาลัย เรียกเก็บค่าแล็บเพิ่ม 2 แสน อ้างมีเอกสารแจ้งแต่นศ.ไม่อ่านเอง รับอยากย้ายที่เรียน แม้จะกลัวแต่อยากทำสิ่งที่ถูกต้อง
จากกรณีที่นักศึกษาพยาบาล มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีที่มหาวิทยาลัยเรียกเก็บค่าเทอมเพิ่มอีก 200,000 บาท เพิ่มจากค่าเทอมจากเดิมที่แจ้งไว้ก่อนสมัครเข้าเรียนในปี 2562 ตลอดหลักสูตร 520,000 บาท รวมไปถึงค่าหอพัก ค่าน้ำค่าไฟ ค่ารถรับส่งฝึกงาน หากจ่ายช้าหรือไม่จ่ายจะมีค่าปรับและไม่สามารถลงทะเบียนเรียนได้ ตามที่ได้นำเสอนข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว นศ.พยาบาล โวย มหา’ลัยดัง หลอกลวง จู่ๆ ขึ้นค่าเทอมเพิ่ม 200,000 บาท
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2563 น.ส.ไหม (นามสมมติ) นักศึกษาพยาบาล ชั้นปีที่ 2 คณะพยาบาลศาสตร์ เจ้าของโพสต์ เปิดเผยว่า ตนเป็นชาวจ.สุรินทร์ และมีใจรักที่จะเรียนทางด้านพยาบาล ได้เห็นการประชาสัมพันธ์หลักสูตรพยาบาลของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ซึ่งได้เปิดรับเป็นรุ่นแรกผ่านทางอินเตอร์เน็ต จึงได้เข้าไปศึกษาดูและสนใจที่จะมาสมัครเรียน
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เนื่องจากตนเป็น นศ. ซิ่วมาจากมหาวิทยาลัยอื่น เคยยื่นคะแนนเข้าสอบพยาบาลมาแล้วหลายแห่งแต่คะแนนไม่ถึง ซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งนี้สามารถสมัครเข้าเรียนได้เลย ในตอนแรกที่เห็นค่าใช้จ่ายก็คิดว่าสูงพอสมควรแต่ครอบครัวเข้าใจและสนับสนุน จึงตัดสินใจจากบ้านมาศึกษาอยู่ที่ จ.ลำปาง
น.ส.ไหม กล่าวต่อว่า จากเดิมในใบโฆษณาได้ว่าเขียนไว้ว่าค่าเทอมตลอดหลักสูตร 520,000 เมื่อสอบถามว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม และกู้ กยศ.เรียนได้ เท่ากับต้องจ่ายค่าเทอม เทอมละ 65,000 บาท แต่เมื่อเรียนไปกลับได้รับแจ้งว่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 200,000 บาท เป็นค่าแล็บฝึกงาน ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าซึ่งเงินส่วนนี้ไม่รู้ว่าเอาไปจ่ายให้ใคร และทำไมต้องจ่ายเงินในส่วนนี้
ก่อนหน้านี้มีเพื่อนนักศึกษาท้วงติงไปเรื่องนี้ไปแล้วตั้งแต่เรียนปี 1 ซึ่งตอนนั้นก็ได้รับการยกเว้นค่าใช้จ่ายดังกล่าวไป 1 ปี แต่ปีต่อมากลับต้องจ่ายเหมือนเดิม ซึ่งคิดว่าทางมหาวิทยาลัยควรจะแจ้งให้นศ.รุ่นต่อไปทราบว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ แต่ปรากฏว่าทางมหาวิทยาลัยก็ไม่แจ้ง และทำแบบเดิมคือมาเรียกเก็บเพิ่มทีหลัง ซึ่งเรื่องนี้ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง เหมือนถูกหลอกให้มาเรียน
น.ส.ไหม กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กไป ทางอาจารย์และคณบดีก็ได้เรียกเข้าไปพบและสอบถามถึงเหตุผลที่โพสต์แบบนั้น ทำไมไม่ปรึกษากับทางอาจารย์ก่อน แต่ตนเคยเรียกร้องไปแล้ว แต่ทางมหาวิทยาลัยไม่สามารถแก้ปัญหาให้ได้ จึงยืนยันไปว่าขอทำสิ่งที่ถูกต้อง เพราะนักศึกษาไม่ได้รับความยุติธรรม
ซึ่งทางมหาวิทยาลัยควรจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนไหนบ้าง เมื่อตนท้วงติงไปกลับอ้างว่ามีเอกสารแจ้งแล้วแต่นักศึกษาไม่อ่านเองจึงไม่รู้ หากมีเอกสารแจ้งจริงตนจะต้องเห็นก่อนที่จะตัดสินใจเข้าเรียนแล้ว
“ถ้าถามว่าการทำแบบนี้กลัวผลกระทบกับตัวเองไหม บอกตามตรงว่ากลัว ถ้าจะออกก็ขอทำสิ่งที่ถูกต้องก่อน เพราะถ้าเราไม่ทำ เรื่องแบบนี้ก็จะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ รุ่นน้องต่อ ๆ ไปจะไม่ได้รับความยุติธรรม ตอนนี้ความรู้สึกคือไม่อยากเรียนที่นี่แล้ว จากตอนแรกที่ตั้งใจอย่างมากที่จะมาเรียนที่นี่เพราะเห็นว่าเป็นสถาบันที่มีคุณภาพ แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้ หากเป็นไปได้อยากจะขอให้ส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ จะเทียบโอนย้ายไปมหาวิทยาลัยอื่นที่มีคณะเดียวกันได้หรือไม่” น.ส.ไหม กล่าว
