จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก social hunter ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ รปภ. คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านแฮปปี้แลนด์ ได้ต่อยกับลูกบ้าน พร้อมข้อความระบุว่า “เรื่องมีอยู่ว่า ลูกบ้านเสื้อสีขาว มีอาการคล้ายคนเมาได้ขับรถมาจอดที่คอนโด แล้วพี่ รปภ. ก็ได้ไปโบกให้แต่ลูกบ้าน อยากจอดอีกที่หนึ่ง แล้วถอยหลังเข้าแล้วเกิดชนยางกั้น จึงเกิดโวยวาย ด่า รปภ.ด่าหยาบคาย ด่าพ่อด่าแม่ มีอยู่คำหนึ่งที่ด่าว่า เงินเดือนมึงยังน้อยกว่าราคารองเท้าของกูข้างหนึ่งเลย แล้วมีการท้าต่อย จนเกิดเหตุการณ์ตามคลิปเลยครับ ขอบคุณครับ”

ล่าสุดตรวจจุดเกิดเหตุที่คอนโดฯแห่งหนึ่ง ย่านแฮปปี้แลนด์ ซึ่งพบนายพบสุข แสนรักษ์ หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย ที่ได้พาทีมข่าวเดินดูยังจุดเกิดเหตุ บริเวณหน้าคอนโดฯ ซึ่งเป็นจุดที่ลูกบ้านและรปภ.ได้ทะเลาะวิวาทกัน ทางด้านนายพบสุข บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางลูกน้องตนที่เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ได้เล่าให้ตนฟังว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 02.00 น. ซึ่งลูกบ้านที่สวมชุดสีขาวภายในคลิป ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นโปรดิวเซอร์รายการทางทีวีช่องหนึ่ง มีอาการคล้ายคนเมาได้ขับรถมาจอดรถที่คอนโดฯ แล้ว รปภ.ได้ไปโบกรถให้ แต่ลูกบ้านคนดังกล่าวกลับอยากไปจอดอีกที่หนึ่ง ก่อนจะถอยรถยนต์ไปชนกับยางกั้น และแสดงท่าทางโวยวายแถมยังด่า รปภ. ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย

โดยมีคำพูดอยู่คำหนึ่งที่ด่าว่า “เงินเดือน รปภ. ยังน้อยกว่าราคารองเท้าของตัวเองข้างหนึ่งเลย” ไม่เพียงแค่นั้น ลูกบ้านคนดังกล่าวยังได้ด่ารปภ.ถึงบุพการี ทำให้ รปภ.คนดังกล่าวโกรธ

ฝ่าย รปภ.จึงพูดว่า “พ่อแม่ตนเกี่ยวอะไรด้วย” โดยตอนที่ทะเลาะกัน รปภ.พยายามหลีกเลี่ยง แต่ลูกบ้านพยายามจะเอาเรื่องจนมีการลงมือลงไม้ตามที่ปรากฏในคลิป และลูกบ้านมีการพูดอีกว่า จะไปแจ้งความ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าลูกบ้านคนดังกล่าวได้ไปแจ้งความหรือไม่ แต่สำหรับตน ตนคิดว่ารปภ.ของตนใจเย็นที่สุดแล้ว

เมื่อถามว่าปกตินิสัยของลูกบ้านคนนั้นเป็นอย่างไร จึงได้รับคำตอบว่า ถ้าหากเวลาลูกบ้านคนดังกล่าวไม่เมาก็จะเป็นคนนิ่ง สุขุม แต่เวลาเมาจะชอบก่อความรำคาญและความวุ่นวายให้กับลูกบ้านคนอื่น ส่วนรปภ.คนดังกล่าว ขณะนี้แค่โดนทัณฑ์บน แต่ยืนยันว่าไม่มีการไล่ออกอย่างแน่นอน

ส่วนนายเอ (นามสมมติ) รปภ.อีกรายที่อยู่ในเหตุการณ์เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ ทางลูกบ้านได้มามองหน้า ทางเพื่อน รปภ.แล้วถามว่า “มองหน้ากูทำไม” พร้อมกับได้ถ่มน้ำลาย และด่าถึงบุการี แล้วได้ท้าต่อย รปภ. พวกตนจึงสงสัยว่าทำไมถึงไม่พูดจาด้วยกันดีๆ ยิ่งลูกบ้านมาพูดว่า “เงินเดือนซื้อรองเท้ากูข้างหนึ่งไม่ได้” ตนรู้สึกว่าเหมือนโดนดูถูก ซึ่งตนคิดว่า อาชีพ รปภ. ไม่มีใครอยากให้มาดูถูก แล้วการพูดจาเช่นนี้ ตนรู้สึกว่าดูถูกกันเกินไป พฤติกรรมของลูกบ้านคนดังกล่าว ชอบด่า รปภ. แต่หากวันไหนที่ลูกบ้านคนดังกล่าวไม่เมาจะเป็นคนนิ่งๆ ไม่พูดจากับใคร

นายเกม (นามสมมติ) ลูกชายรปภ.ที่มีเรื่องกับลูกบ้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ทางพ่อตนไม่พร้อมจะให้สัมภาษณ์กับทางสื่อ แต่หากถามตนว่า พ่อของตนเป็นคนนิสัยอย่างไร ตนยอมรับว่าพ่อเป็นคนสนุกสนาน พูดจากับลูกบ้านทุกคนดีหมด ส่วนวันที่เกิดเหตุ คุณพ่อบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจลงมือกระทำเช่นนั้น แต่เป็นเพราะลูกบ้านคนดังกล่าวเคยมาหาเรื่องพ่อตนหลายครั้ง หากนับได้ก็ประมาณ 7-8 ครั้ง ซึ่งพ่อคงหมดความอดทน

โดยหากดูภาพจากคลิปเหตุการณ์ ยอมรับว่า ตนผู้เป็นลูกยังน้อยใจ และตนคิดว่าคนที่เป็นรปภ.เมื่อได้ดูคลิปดังกล่าวต้องรู้สึกเหมือนพ่อตนอย่างแน่นอน และตนคิดว่าไม่ว่าใครจะทำอาชีพใดก็ตาม ก็ไม่ควรเอามาเปรียบเทียบกับรองเท้า และหากถามว่าตนจะให้อภัยกับลูกบ้านหรือไม่ นายเกม บอกว่า คนเรามีโอกาสได้รับการอภัย แต่ต้องรอทางพ่อเป็นผู้ตอบคำถามดังกล่าว

ภายหลังทีมข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายเฟรม (นามสมมติ) ผู้ชายเสื้อสีขาวที่อ้างว่าเป็นโปรดิวเซอร์รายการหนึ่ง ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนทะเลาะกับ รปภ.คนดังกล่าว เพราะเรื่องที่จอดรถ ซึ่งตนเคยมีปัญหากับ รปภ.เรื่องที่จอดรถมา 2-3 ครั้ง จนสุดท้ายกลับทะเลาะกันจนเรื่องราวบานปลาย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นายเฟรม ยอมรับว่า ตนเป็นผู้ผิดเอง ตนจึงอยากออกมาขอโทษ รปภ. รวมถึงครอบครัวด้วย เนื่องจากไม่ได้คิดที่จะทำร้ายร่างกาย และไม่คิดจะดูถูกในอาชีพการงานของ รปภ.คนดังกล่าว แต่ทุกสิ่งเกิดขึ้นเพราะตนขาดสติ เหมือนคนบ้าเพราะสุรา หลังจากนี้ตนจะไม่คิดจะดื่มสุราอีก

ส่วนที่นายเฟรมพูดว่าเป็นโปรดิวเซอร์ช่องหนึ่งนั้น นายเฟรมชี้แจงว่า ตนไม่ได้เป็นโปรดิวเซอร์ตามที่ได้กล่าวอ้างไปตามที่เห็นแบบในคลิป แต่พูดไปเพื่อพูดข่มรปภ. ตอนนี้ตนไม่กล้าออกไปเจอหน้าใคร ตนอยากตาย

หนุ่มรายนี้ยังร่ำไห้ เสียงสั่นเครือ พร้อมบอกว่า จริงๆแล้วตนเป็นพ่อค้า ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตนทำไปเพราะขาดสติ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากเรื่องที่จอดรถ ซึ่งตนเคยมีปัญหากับ รปภ. คนดังกล่าวมาหลายครั้งแล้ว ทั้งนี้ตนขอโทษทุกๆคนที่เกี่ยวข้อง และอยากจะขอโทษ รปภ. คนดังกล่าว แต่ตนยังไม่พร้อม เพราะตนกลัว เนื่องจากมีคนมาคอมเมนต์ข่มขู่กันเป็นจำนวนมาก

 

ขอบคุณที่มา ทุบโต๊ะข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน