สุดช็อก พระเกจิดังที่สกลนคร ถูกค้อนทุบหัวเป็นศพคากุฏิ พระลูกวัดและลูกศิษย์มาพบตอนเช้าถึงกับตะลึง แจ้งตร.ตรวจสอบ เบื้องต้นคาดคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะหลวงปู่ มักจะมีลูกศิษย์มาให้ฝากถือวัตถุมงคล เงินทอง เพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนมารับคืนไป โดยก่อนหน้านี้ก็มีกลุ่มคนมา ขอเงิน แต่หลวงปู่ ก็ชี้แจงไม่ใช่ทรัพย์สินของตนเอง แต่ก็ให้เงินไปบ้างครั้งละร้อยสองร้อย เผยเป็นคนลาว ข้ามฝั่งมาอยู่ไทยเมื่อใดไม่ปรากฏ มีชื่อเสียงเรื่องทางปฏิบัติ ส่วนเครื่องรางของขลังที่โด่งดังก็คือ เหรียญ”หมื่นยันต์ มหาอุตม์” รุ่นแรก ด้านตร.ล็อกตัวลูกศิษย์วัดที่มีพยานเห็นอยู่กับหลวงปู่ครั้งสุดท้ายสอบเครียด

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 25 ก.ย. ร.ต.อ. ณัฐวัฒน์ พันธ์สวรรค์ ร้อยเวรสภ.ตาดโตน อ.เมือง จ.สกลนคร รับแจ้งจาก ศูนย์ 191 ตาดโตน มีเหตุพระเถระผู้ใหญ่ ถูกฆ่า ในวัด สุมังคลาราม บ้านพังขว้างกลาง ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร จึงพร้อมด้วยชุดกู้ชีพ พังขว้าง และแพทย์ร.พ.สกลนคร ร่วมชันสูตรพลิกศพพบศพ หลวงปู่บู่ กิตฺติญาโณ อายุ 90 ปี สภาพศพมรณภาพบริเวณเตียง ในสภาพนั่งพิงพนักขอบโต๊ะ เลือดนองพื้นในกุฏิ ตรวจสอบโดยละเอียดพบที่กลางศีรษะถูกทุบด้วยของแข็งจนยุบสองครั้ง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

สอบสวนพระในวัดทราบว่า ช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.30 น. หลวงปู่บู่จะให้ลูกศิษย์ในวัด มารับบาตรเพื่อนำไปตั้งไว้ที่ศาลาภายในวัดรวมกับพระอื่น เพื่อให้ญาติโยมที่มาทำบุญใส่บาตร เป็นประจำทุกวัน โดยเช้าวันเกิดเหตุ เมื่อพระลูกวัดพร้อมโยมที่ดูแลในวัด เดินไปที่กุฏิเพื่อจะนำบาตรมาที่ศาลา พบว่าหลวงปู่บู่นั่งพิงพนักเตียง จึงเดินเข้าไปดูพบว่าที่ศีรษะมีเลือดไหลหยด คล้ายถูกทำร้าย จึงมาบอกให้โยมที่กำลังมาใส่บาตร และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาเพื่อตรวจที่เกิดเหตุ พบว่าหลวงปู่บู่มรณภาพแล้ว

ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบว่าด้านหลังกุฏิพบค้อนปอนด์ขนาด 2 ปอนด์ เปื้อนเลือด ตกอยู่ 1 อัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนทรัพย์และของใช้หลวงปู่บู่และของมีค่าในวัดยังปกติ คาดว่าคนร้ายที่มาทำร้ายน่าจะเคยมาพบและมาขอเงิน หรือของดี แต่หลวงปู่ บอกว่าไม่มีจึงทำร้ายด้วยค้อนขนาด 2 ปอนด์ที่เตรียมมา และช่วงระหว่างก่อเหตุคนร้ายเกรงว่าจะมีผู้มาพบจึงหลบหนีไปก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุม ตัวนายต๋อม อายุประมาณ 40 ปี ที่เคยเข้าออกวัดเป็นประจำมาสอบสวน เนื่องจากมีผู้พบว่าครั้งสุดท้ายว่าอยู่กับหลวงปู่บู่ แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ

สำหรับประเด็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งไปที่เพื่อชิงทรัพย์ เนื่องจากหลวงปู่บู่มักจะพก พระเครื่องหรือเงินที่มีโยมมาฝากให้ถือไว้ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะมาขอ รับคืน เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเคยมาขอเงิน แต่หลวงปู่บอกว่าไม่ใช่เงินของท่าน และเคย ให้ไป ครั้งละร้อย สองร้อย ซึ่งครั้งนี้กลุ่มคนร้ายอาจไม่พอใจที่ขอเงินแล้วหลวงปู่บอกไม่มี จึงใช้ค้อนที่เตรียมมาทุบเข้ากลางศีรษะจนมรณภาพ จากนั้นนำศพไปพิงไว้ที่ขอบเตียงเพื่ออำพราง

สำหรับประวัติหลวงปู่บู่ เป็นคนชาติลาวมาแต่กำเนิด มาอาศัยในแผ่นดินไทยเมื่อไร ไม่ปรากฏชัดเจน การอ่านเขียนหนังสือนั้น ไม่ค่อยเก่ง เพราะท่านมุ่งปฏิบัติดูจิตอย่าง เดียว มีแต่คนเฒ่าคนแก่มีอายุ 70-80 ปี เล่า ให้ฟังว่าเคยเห็นท่านเมื่อตอนหนุ่มๆ เป็นอยู่อย่างไรทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนี้ ไม่เห็นท่านแก่เลย ยังคงมีสุขภาพแข็งแรง ทุกวันนี้หน้าตาท่านสดใส

ส่วนการออกบวชนั้นทราบจากพระครูสุวรรณสิริชัย เจ้าคณะตำบลพังขว้างเล่าว่า ท่านออกบวช 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกไม่ทราบ ครั้งที่ 2 บวชเมื่อปี พ.ศ. 2524 ถ้าจะไปถามเอาข้อมูลประวัติจากท่านไม่ได้อะไรดอก มีคนไปถามอายุหลวงปู่ ว่าหลวงปู่อายุกี่ปีแล้ว บวชมากี่พรรษาแล้ว ท่านก็จะตอบเท่าไหร่ตามแต่ท่านจะตอบ หรือไม่สนใจตอบไปเลยก็มี ก็เลยไม่ทราบข้อมูลแน่ชัด เพราะหลวงปู่ท่านไม่ยึดติด กับอายุที่เป็นเพียงสมมติตัวเลข ท่านอยู่กับปัจจุบันดีกว่า ดูๆไปท่านเหมือนหลวงปู่สรวง แห่งเมืองศรีสะเกษที่ไม่ทราบอายุเท่าไหร่กันแน่ ทุกวันนี้ท่านยังออกรับบิณฑบาตโยมทุกวันตามปกติ สุขภาพร่างกายแข็งแรงเดินจงกรมได้สะดวก ฉะนั้นประวัติหรืออายุของหลวงปู่บู่ จึงไม่ทราบชัดได้ ชาวบ้านบางคนก็ว่า 80 ปีบ้าง 90 ปีบ้าง 100 ปี บ้าง ก็เลยไม่รู้จะเชื่อใครดี แม้ไปถามหลวงปู่ท่านก็ไม่บอก

ด้านวัตถุมงคลนั้น มีเป็นที่นิยมเสาะหา ในหมู่นักสะสมพระเครื่อง ได้แก่ เหรียญ “หมื่นยันต์ มหาอุตม์” รุ่นแรก เหรียญเหล็กน้ำพี้ รูปหล่อชูชกรับทรัพย์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีญาติโยมเข้าไปพบทุกวันเพื่อรับวัตถุมงคล บางคนได้ฝากเงินหรือวัตถุมงคลให้ท่านถือเก็บ เพื่อแผ่เมตตาจิต ก่อนที่จะมารับคืนในภายหลัง โดยท่านจะมัดไว้รอบเอวหรือในอังสะ ถือไว้ตลอดเวลาจนกว่าเจ้าของจะมารับคืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน