เนื่องใน ‘เทศกาลโกรีฮับบา’ ชาวอินเดียพร้อมใจตักมูลวัวขึ้นมาปั้น และโยนใส่กันอย่างสนุกสนาน บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ เชื่อช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

หลายคนคงเคยเห็นภาพที่ผู้คนเข้าร่วม “เทศกาลปามะเขือเทศ” ในสเปน ที่ต่างคนต่างปามะเขือเทศใส่กันอย่างสนุกสนาน เช่นเดียวกันกับอินเดียก็มีเทศกาลที่จัดขึ้นคล้ายกัน แต่สิ่งที่เขาใช้ปากัน มันดันเป็น “มูลวัว” และเป็นพิธีกรรมที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่โบราณ

ภาพความสนุกสนานของชาวอินเดียในชายแดนรัฐทมิฬนาฑู – กรณาฏกะ ปามูลวัวใส่กันเนื่องในเทศกาลโกรีฮับบา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลดีปาวลี หรืองานปีใหม่ของชาวฮินดู ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญของอินเดีย แต่ที่น่าเศร้าเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในปีนี้ทางตำรวจ และรัฐบาลอนุญาตให้จัดงานเทศกาลนี้โดยมีผู้เข้าร่วมเพียง 100 คนเท่านั้น

เทศการนี้จะถูกจัดขึ้นหลังจากผ่านวัน ดีปาวลี มาแล้วสามวัน พิธีกรรมนี้เกิดจากบรรพบุรุษของพวกเขาสังเกตเห็นเลือดที่ไหลออกมาจาก “ศิวะลึงค์” ที่ถูกซ่อนอยู่ในกองมูลวัว โดยชาวบ้านจะรวบรวมมูลวัวมากองไว้ในหมู่บ้าน และพื้นที่ใกล้เคียง ไปรวมไว้ด้านหลังวิหารศิวะเจ้า ผู้ชายที่เข้าร่วมพิธีกรรมนี้จะเข้าไปในวิหาร และชำระล้างร่างกาย ก่อนเดินขบวนออกไปยังนอกวิหาร และทำพิธีตรงมูลวัวกองพะเนินเทินทึก

ก่อนเริ่มการเฉลิมฉลอง โดยการลงไปเหยียบหรือกระโดดเล่นบนกองมูลวัว บ้างปั้นเป็นก้อนปาใส่กันอย่างสนุกสนาน หลายคนก็เอาตัวไปเกลือกกลิ้งกับมูลวัว โดยไม่แสดงความรู้สึกรังเกียจแม้แต่น้อย ในขณะเดียวนักดนตรีก็บรรเลงเพลงด้วยกลอง และปี่เป่าดังไปทั่วเมือง สร้างความคึกคักครื้นเครงให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ซึ่งหลังจากผ่านไปได้หนึ่งชั่วโมง ผู้เข้าร่วมทุกคนก็ทยอยไปอาบน้ำในถัง และเริ่มสวดมนต์ที่วิหารจากนั้นเทศกาลนี้ก็สิ้นสุดลง

ชาวบ้านเหล่านี้เชื่อว่า ‘พระศิวะ’ เทพเจ้าตามความเชื่อของฮินดูเคยแบ่งภาคมาเกิดอยู่ใน มูลวัว มาก่อน และชาวฮินดูส่วนหนึ่งเชื่อว่าวัว และทุกสิ่งที่ออกมาจากวัวเป็นสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ และการเข้าร่วมเทศกาลดังกล่าวยังจะช่วยรักษาผู้คนจากความเจ็บไข้ได้ป่วยอีกด้วย ซึ่งเทศกาลปาขี้วัวจัดติดต่อกันมายาวนานกว่า 300 ปีแล้ว

“มูลวัวนั้นมากจากธรรมชาติ และมีประโยชน์ทางยามากมาย แม้บางคนจะพูดว่าการที่เราโยนมูลวัวใส่กันนั้นจะนำมาซึ่งการติดเชื้อ หรือติดโรคบางอย่าง แต่เราเชื่อมั่นในพระเจ้าของเรา ‘องค์ศิวะเทพ’ ท่านทำให้พวกเราที่กำลังสนุกสนานกับมูลวัวนั้นไม่เป็นอะไรไป” คำพูดจากชาวบ้านรายหนึ่ง

ทั้งชาวอินเดียในชนบทยังใช้ประโยชน์จากมูลวัวได้อย่างมากมาย วัวของที่นี่เป็นวัวพันธุ์พื้นเมือง คล้าย ๆ วัวไทย แต่ตัวไม่ใหญ่โตนัก มูลของวัวพันธุ์พื้นเมืองไม่เหม็นเหมือนวัวพันธุ์ผสม ซึ่งวัวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินเดีย และถือกันว่าเป็นชาติสุดท้ายก่อนที่จะเกิดเป็นมนุษย์

ชาวชนบทของอินเดียส่วนใหญ่มีวิถีการเกษตร วัวจึงเป็นสัตว์ที่ช่วยในการทำเกษตรทั้งยังมีภูมิปัญญามากมายที่นำ “ของเสียวัว” มาใช้ประโยชน์ อย่างความเชื่อด้านการรักษาโรคก็จะมีความเชื่อที่ว่า ปัสสาวะของลูกวัวที่เกิดใหม่เป็นยาอายุรเวช ,ปัสสาวะใหม่ของวัวแก่ใช้แต้มสิวก่อนนอน ,ผสมมูลวัวกับน้ำแล้วทาบริเวณที่เป็นโรคผิวหนัง ช่วยบรรเทาอาการคัน และผสมมูลวัวกับใบสะเดาบดทาที่ผิวหนัง รักษาผื่นบนผิวหนัง

ทั้งยังมีการนำมูลวัวมาใช้ร่วมในชีวิตประจำวันมากมาย อย่างการนำมูลวัวไปตากแห้งเป็นแผ่น ๆ ใช้เป็นเชื้อเพลิง ,มูลวัวกับโคลนและน้ำใช้ทาพื้นในบ้านดิน ทำให้พื้นแน่น ไม่เกิดความชื้น ,มูลวัวผสมดินหรือโคลนช่วยทำให้อิฐแข็งแรงยิ่งขึ้น ,ขี้เถ้ามูลวัวผสมปูนขาวมีสรรพคุณเหมือนซีเมนต์ ,มูลวัวแห้งผสมน้ำมันใช้ทำความสะอาดภาชนะ ,ขี้เถ้ามูลวัวผสมมะขามขัดภาชนะทองเหลืองให้เงางาม และขี้เถ้ามูลวัวนำมาเป็นผงสีฟัน

ที่มา : thehindu

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน