แอมมี่ The Bottom Blues เปิดใจชีวิตหลังแสดงออกทางการเมือง โดนคดีติดตัวถึง 11 คดี ลั่นไม่หวั่นโดนติดคุกอีกรอบ ขอพลีชีพเพื่ออุดมการณ์
ถือเป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิงที่ออกมาแสดงอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างชัดเจน สำหรับ นักร้องและนักดนตรีหนุ่มสุดติสท์ แอมมี่ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ The Bottom Blues ที่เจ้าตัวขอยืนหยัดเคียงข้างกลุ่มคณะราษฎร และสนับสนุนกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย แม้ก่อนหน้านี้จะเคยนอนคุกก็ตาม
ล่าสุด แอมมี่ The Bottom Blues ออกมาเปิดใจผ่านรายการแฉว่า สาเหตุที่ตัดสินใจออกมาร่วมชุมนุม เนื่องจาก ส่วนตัวมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องการเมือง และตอนเรียนหนังสือชื่นชอบเรื่องประวัติศาสตร์ แต่สิ่งที่ทำให้ต้องออกมาอย่างเต็มตัว เพราะ คิดว่าเป็นโอกาสเดียวในชีวิต ที่จะเรียกร้องเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคมที่พวกเราทนมานาน และในการชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้เป็นม็อบที่ถูกจัดตั้ง แต่เป็นพลังบริสุทธิ์ของทุกคนที่ออกมาร่วมชุมนุมเพื่ออนาคตที่ดีของเราในวันข้างหน้า
ซี่งเรามักจะได้ยินคำพูดเสมอว่า นักแสดง นักร้อง ห้ามยุ่งกับการเมือง เพราะว่าสังคมของเรามีการคาบเกี่ยวกันระหว่าง สังคมของชนชั้นกลาง ชนชั้นล่าง และชนชั้นบน แต่ส่วนตัวคิดว่าคือการพลีชีพ ทั้งเสียวิชาชีพ อิสรภาพที่ต้องไปติดคุก และสวัสดิภาพในความไม่ปลอดภัย โดยตนเป็นตัวอย่างของคนที่มีต้นทุนในสังคม ชื่อเสียงหรือเงินทอง ถ้าออกมาเป็นปากเป็นเสียง ช่วยน้องๆ ได้ก็ยินดี
ส่วนในเรื่องของคดีความนั้น แอมมี่ เผยว่า เมื่อวานนี้ (26 พฤศจิกายน 2563) มีคดีเพิ่มอีก 3 คดี เกี่ยวกับการคดีชุมนุมหน้าเวสต์เกต ซึ่งรวมๆแล้วน่าจะ 11 คดี แต่ถ้าวันหนึ่งต้องติดคุก หรือ สูญเสียอิสรภาพอีกครั้งแต่สามารถรักษาอุดมการณ์ได้ ตนก็ยินดี
จากนั้น มดดำ ถามถึงเรื่องที่ คุณปารีณา และคุณสิระ เคยพูดว่า อดทนรออีก 2 ปีก็จะถึงวันเลือกตั้ง เพราะ ทั้งคู่ก็มาจากการเลือกตั้งเหมือนเดิม ด้าน แอมมี่ ให้ความเห็นว่า ภาพใหญ่เราเห็นอยู่แล้ว อย่าให้ค่ากับคนแบบนี้ ซึ่งอีก 2 ปีข้างหน้าอาจจะเป็นพรรคเขาที่พร้อมจะส่งลงไปทุกเขตก็เป็นได้ เพราะ เราได้เห็นแล้วว่าเขาสั่งขังได้แม้กระทั่งนักร้อง คนวิกลจริต นักศึกษา โดยทุกวันนี้เรากำลังต่อสู้กับสิ่งที่ชั่วร้าย
ส่วนเรื่องที่มีเหตุปะทะหลังการชุมนุมที่ SCB นั้น แอมมี่ ยอมรับว่า วันนั้นไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะ หลังปราศัยเสร็จได้กลับบ้านเลย ซึ่งส่วนตัวมีความสนิทสนมกับการ์ดอาชีวะอยู่แล้ว โดยทางเราควรให้เกียรติทางฝั่งอาชีวะได้ออกมาชี้แจง ใช้สัจจะยืนพื้น ถ้าผิดก็ยอมรับผิด
นอกจากนี้ แอมมี่ ชี้แจงเรื่องที่หลายคนสงสัยว่า ม็อบคณะราษฎรมีเวที สเตจ โปรดักชั่นต่างๆดูดีแสดงว่าม็อบมีเบื้องหลังนั้น เจ้าตัว ยืนยันว่า ตนกับเพนกวินปราศรัยกันเสร็จก็เรียบแกร็บกลับบ้าน ด้านแสง สี เสียง เป็นการเนรมิตจากมวลชน และเงินมาจากมวลชน
ด้านกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมที่แอมมี่นำสีไปสาดตำรวจและสถานที่ต่างๆนั้น แอมมี่ กล่าวว่า สีเป็นสันติวิธี ก่อนที่จะเข้าไปสำราญราษฎร์มันเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ที่เขาจับน้องชายผมต่อหน้าลูกต่อหน้าเมีย จับนักศึกษา ซึ่งตนทนไม่ได้ และหลังจากที่เกิดเหตุการณ์วันนั้น แอมมี่ ชดเชยค่าเสียหายทันที แต่เงินที่ให้ไปไม่ถึงตำรวจชั้นผู้น้อยหรือเปล่า
พร้อมกันนี้ แอมมี่ ยังทิ้งท้ายตอนสัมภาษณ์ว่า ในฐานะของแกนนำหลายๆ คน อาจไม่มีโอกาสมาพูด ซึ่งบางคนอาจจะวางตัวเองเป็นกลาง หากอยากเห็นสังคมที่เปลี่ยนแปลงก็ต้องออกมา และสำหรับคนที่เห็นต่างกับเราให้เกียรติกัน ขอบคุณรายการ แฉ
