วันที่ 27 พ.ย.63 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยกรณีดัชนีความสามารถทาง ภาษาอังกฤษ ซึ่งจัดอันดับโดย Education First หรือ อีเอฟ ซึ่งเปิดเผยออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้เปิดเผยการจัดอันดับทั้ง 100 อันดับออกมาแล้ว โดยประเทศที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่อันดับ 1 ได้แก่ ประเทศ เนเธอร์แลนด์ ขณะที่ ประเทศไทย ตกลงมาอยู่ที่อันดับที่ 89 ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ ศธ.ต้อวหาทาแก้ไข
ทั้งนี้ศธ.ได้ตั้ง ศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ หรือ HCEC ขึ้นมา เพื่อพัฒนาครูแลพบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งคาดว่าภายในปี 2564 จะมีศูนย์ HCEC ทั่วประเทศ หรือการนำครูต่างชาติเข้ามาพัฒนาความรู้ภาษาให้นักเรียนซึ่งขณะนี้ติดปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด -19 เราไม่ได้จะแก้ตัว
แต่ ศธ.มีแนวทางที่จะแก้ไข และตนมุ่งมั่นที่จะแก้ไขเรื่องภาษาอังกฤษ และความรู้ด้านดิจิทัลเทคโนโลยี เพราะเรื่องเหล่านี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ และมีจำเป็นที่นักเรียนต้องเรียนรู้สำหรับเด็กไทยและครูในปัจจุบัน
ด้านนายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนมองว่าที่ผ่านมาเราสอนภาษาอังกฤษเด็กไทยแบบผิดธรรมชาติของภาษามาตลอด ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม กพฐ. เดือนธันวาคมนี้ เพื่อหารือในการยกระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษของคนไทย
ตนมองว่าการพัฒนาภาษาอังกฤษของนักเรียนจะต้องเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกหน่วยงานจะมาวางแผนหารือร่วมกันเพื่อพัฒนาระดับภาษาอังกฤษของเด็กไทยต่อไป
