กษัตริย์จิกมี พร้อมด้วยพระราชินีแห่งภูฏาน เสด็จฯถวายอาลัย ทรงก้มกราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขณะที่พสกนิกรหลั่งไหลต่อแถวเข้าถวายสักการะจนล้นสำนักพระ ราชวังออกมาเต็มรอบท้องสนามหลวง ท่าม กลางสายฝนโปรยปราย ศตส.เตรียมปรับแผนจราจรรองรับประชาชนเดินทาง จัดรถฟรี 4 จุด เพิ่มที่ลงนาม 2 จุด พศ.ตั้งศูนย์ประสานจัดบำเพ็ญกุศลทั่วโลก เผยรายชื่อวัดจัดทั่วไทย สื่อนอกเผยไทยร่ำไห้ทั้งแผ่นดิน ต่างชาติตะลึง ความจงรักภักดี เฟซบุ๊กสั่งปิดโฆษณาสำหรับ ผู้ใช้ในไทยไม่มีกำหนด เพื่อร่วมถวายอาลัย

สมเด็จพระเทพฯถวายฉันเช้า

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 16 ต.ค. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และวัดราชสิทธารามราชวรวิหารสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ จำนวน 8 รูป ในการนี้ทรงถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรมด้วย โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คณะบุคคลเฝ้าฯรับเสด็จในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ตลอด 100 วัน จะมีพระพิธีธรรมจากวัดพระอารามหลวงในกรุงเทพฯ ผลัดเปลี่ยนมาสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท วันละ 9 รอบ ระหว่างเวลา 06.00-21.00 น. โดยแต่ละรอบมีพระพิธีธรรมจำนวน 8 รูปขึ้นสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ

กษัตริย์จิกมีก้มกราบร่วมอาลัย

ต่อมาเวลา 09.48 น. สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เสด็จฯพร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก มาทรงถวายความอาลัยและถวายพวงมาลาสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรภูฏานทรง ก้มกราบถวายหน้าพระบรมโกศ ก่อนที่ทั้งสองพระองค์จะเสด็จฯไปทรงลงพระนามา ภิไธยถวายความอาลัยในสมุดหลวง และเสด็จฯ กลับในเวลา 10.17 น. ท่ามกลางประชาชนชาวไทยเฝ้าฯรับเสด็จสองข้างทาง บางคน ชูภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เคียงข้างพระ บรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี

ด้านเฟซบุ๊กทางการของสมเด็จพระราชา ธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน โพสต์พระบรมฉายาลักษณ์กษัตริย์และราชินีแห่งภูฏานขณะเข้าถวายราชสักการะแด่พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และข้อความจากลายพระหัตถ์ที่ทรงลงพระนามาภิไธยถวายอาลัย พร้อมระบุข้อความว่า “สำหรับพระองค์ผู้ทรงหาที่เปรียบมิได้และพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นอัญมณีที่ล้ำค่าที่สุด พระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย ผู้เสด็จปรินิพพาน ข้าพเจ้าขอถวายความเคารพสูงสุด และการสวดภาวนาด้วยใจจริง ขอพระองค์เสด็จ พระราชสมภพเป็นพระธรรมราชาตลอดไป เพื่อประโยชน์ของสรรพชีวิตทั้งปวง”

สมเด็จพระบรมฯ เสด็จฯค่ำ

เวลา 10.50 น. มีพระพิธีธรรมรับพระ ราชทานฉันเพล และพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และประโคมย่ำยาม โดยพล.ต.ม.จ. จุลเจิม ยุคล ทรงเป็นประธานถวายภัตตาหารเพล แด่พระพิธีธรรมจากวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดพระเชตุพน วิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารที่สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ

ในเวลา 15.00 น. พระเจ้าหลานเธอ พระ องค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ
เวลา 18.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ, ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, พระเจ้าหลานเธอ พระองค์ เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระ บรมศพ โดยมีพระพิธีธรรมจากวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร สวดพระอภิธรรม ในการนี้ คุณพลอยไพลิน เจนเซน พร้อมด้วย คุณสิริกิติยา เจนเซน ธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมในพระราชพิธีด้วย

จากนั้นเวลา 21.00 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และประโคมย่ำยาม

ต่อแถวรอบสนามหลวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศบริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง ถนนหน้า พระลาน ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดมีประชาชนจำนวนมากนั่งรอเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามถวายบังคมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระ บรมโกศ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง และมีจำนวนมากที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดปักหลักพักค้างคืนที่สนามหลวงเพื่อจะได้เข้าร่วมถวายความอาลัยตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีประชาชนจำนวนมากที่มาเข้าแถวรอจนต้องปัดแถวเข้าไปในท้องสนามหลวงเพื่อป้องกันการจราจรติดขัด โดยหางแถวยาวจนวนรอบสนามหลวง และยังมีประชาชนหลั่งไหลเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่สำนักพระราชวัง ได้จัดเตรียมพื้นที่เพื่อให้ประชาชนเข้า โดยประกาศให้ตั้งแถวตอนเรียง 6 บริเวณหน้ากรมศิลปากร ฝั่งตรงข้ามประตูวิเศษไชยศรี เป็นแถวยาวเหยียดไปวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ และจะเปิดให้ร่วมลงนามได้ตั้งแต่เวลา 08.30 น.

ฝนถล่มก็ไม่มีใครย่อท้อ

ทั้งนี้ในช่วงเช้าผู้ที่มาร่วมพิธีได้ร่วมตักบาตรพระสงฆ์ที่ออกบิณฑบาตเนื่องในวันออกพรรษา ที่บริเวณประตูวิเศษไชยศรี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลาสหทัยฯ ว่า เวลา 11.00 น. มีสายฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ประชาชนที่มารอลงนามถวายอาลัย ก็ยังคงยืนต่อแถวอย่างไม่ย่อท้อด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มิได้หวั่นเกรงสายฝนแต่อย่างใด โดยประชาชนบางคนได้นำร่มขึ้นมาบดบังสายฝน และแบ่งให้กับผู้อื่นแม้ว่าจะไม่รู้จักกัน แต่ด้วยใจที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีฝนตกลงมาหนักขึ้นเรื่อยๆ สำนักพระราชวังตัดสินใจตัดแถวประชาชนด้านนอกวังที่ยังคงยืนรออยู่หลายพันคน ด้วยเกรงว่าประชาชนจะเปียกฝนหนัก กระทั่งเวลา 13.13 น. สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้ามาลงนามถวายความอาลัยอีกครั้ง ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายประชาชนยังต่อแถวเพื่อลงนามถวายความอาลัยอย่างไม่ขาดสาย

วางดอกไม้รอบพระบรมมหาราชวัง

ขณะเดียวกันบริเวณโดยรอบพระบรมมหา ราชวัง มีประชาชนนำดอกไม้ มาวางเพื่อถวายความอาลัย บางส่วนยังนั่งสวดมนต์ภาวนา และก้มลงกราบที่พื้นด้วยความเศร้าสลด
ด้านการรักษาความปลอดภัยประชาชนที่มาร่วมงานมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่ทหาร เทศกิจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนมากกระจายกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนที่มาร่วมพิธี

ในส่วนประชาชนที่นำน้ำและอาหารมาแจกจ่ายให้กับผู้มาร่วมงาน มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อวันที่ 15 ต.ค. และมีนักเรียนนักศึกษาเดินช่วยเก็บขยะในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มรถจยย.ที่ต้องการทำดีถวายพ่อหลวง รวมกลุ่มรับ-ส่งประชาชนที่มาร่วมงานฟรี พร้อมกันนี้มีหน่วยงานภาคเอกชนนำทีวีจอยักษ์มาติดตั้งในท้องสนามหลวง เพื่อถ่ายทอดสารคดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศให้ผู้ร่วมงานได้รับชมพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน

ให้ถวายสักการะรอบละ 70 คน

ต่อมาเวลา 08.30 น. ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวังได้ดำเนินการเปิดให้ประชาชนได้ถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงเพื่อถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีประชาชนสวมชุดดำเดินทางมาต่อแถวบริเวณหน้าประตูวิเศษไชยศรีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดให้ประชาชนเข้ามาภายในศาลาสหทัยสมาคม รอบละประมาณ 70 คน

นางประนอม อึ้งมณีภรณ์ อายุ 70 ปี พสกนิกรที่นั่งรถเข็นมาร่วมลงนามถวายความอาลัย พร้อมด้วยบุตรชาย นายประวิตร อึ้งมณีภรณ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายสมาชิก และเครือข่ายสัมพันธ์ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ อายุ 43 ปี และหลานสาววัย 5 ขวบ ชาว จ.สุพรรณบุรี
นางประนอม กล่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อทราบข่าวว่าในหลวงสวรรคตก็น้ำตาไหลในทันที พอได้ทราบว่าสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนมาลงนามถวายความอาลัย ก็อยากที่จะมาแม้ว่าสภาพร่างกายจะไม่ไหวก็ตาม

ขณะที่ลูกชายเปิดเผยว่า แม่ตื่นเต้นนอนหลับๆ ตื่นๆ เพราะปลาบปลื้มใจที่ลูกพามา ที่ศาลาสหทัยสมาคม โดยมาถึงตั้งแต่ 6 โมงเช้า ครอบครัวเราตั้งใจที่จะต่อแถวเพื่อให้ได้ เข้ามาถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับเป็นบุญของครอบครัวที่ได้เกิดมาอยู่ใต้ร่มโพธิสมภารของพระองค์ท่าน

ดาราต่อแถวพรึบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้มีดาราชื่อดังมาร่วมต่อแถวลงนามถวายอาลัยเป็นจำนวนมาก อาทิ เจมส์ จิ นายจิรายุ ตั้งศรีสุข, ชมพู่ น.ส.อารยา เอ. ฮาร์เก็ต, ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ น.ส. ฝนทิพย์ วัชรตระกูล, เดี่ยว-สุริยนต์ นายสุริยนต์ อรุณวัฒนกูล ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีทั้งดารา ศิลปิน จำนวนมากมาเป็นจิตอาสา ร่วมกับประชาชนนำอาหาร และเครื่องดื่ม ผ้าเย็น และเสื้อสีดำ นำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ และร่วมถวายอาลัย

นายศรสุทธา กลั่นมาลี หรือ ถั่วแระเชิญยิ้ม นายกสมาคมศิลปินตลกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตนเดินทางมาในวันนี้พร้อมศิลปินตลกอีกหลายคน มาร่วมเป็นจิตอาสา ทำทุกอย่างที่เป็นความดี ทั้งเก็บขยะรอบบริเวณพื้นที่ สนามหลวง แจกน้ำ อาหาร รวมถึงการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ที่เดินทางมาร่วมลงนามถวายอาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทางศิลปินดาราเดินทางมาถึง ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทางศิลปินตลก นำโดยถั่วแระ เชิญยิ้มได้นั่งลงกับพื้นถนน หันหน้าไปทางพระบรมมหาราชวัง ก้มลงกราบเพื่อเป็นการถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เป็นภาพที่ประทับใจสร้างความปลื้มใจให้กับประชาชนที่พบเห็นที่เดินผ่านไปมา

ศตส.เตรียมปรับแผนจราจร

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการ ศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) แถลงภายหลังการประชุมศตส. ว่า ที่ประชุมหารือถึงการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในส่วนพื้นที่กทม.ได้ดำเนินการเพิ่มเติมทั้งติดตั้งเต็นท์ที่ท้องสนามหลวง โดยประสานงานกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้อำนวยความสะดวกกรณีฝนตกหนักให้ประชาชนสามารถเข้าไปหลบฝนในพื้นที่มหาวิทยาลัยได้

นายสุวพันธุ์กล่าวว่า นอกจากนั้น กทม. ยังติดตั้งจอมอนิเตอร์ขนาด 4X6 เมตร 6 จอ เพื่อให้ประชาชนได้ติดตามการถ่ายทอด พระราชพิธีต่างๆ นอกจากนี้ยังเพิ่มไฟฟ้าส่องสว่างเพื่อความปลอดภัยในช่วงค่ำคืน และได้รับความร่วมมือจากกรมแพทย์ทหารบก ส่งแพทย์สนามจำนวน 60 คน เพื่อประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขดูแลประชาชนในเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้อย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังมีปัญหาด้านการจราจรที่ต้องปรับแผนอยู่เล็กน้อย จึงขอความร่วมมือประชาชนที่จะเดินทางเข้าในพื้นที่ตรวจสอบเส้นทาง และยานพาหนะที่ให้บริการให้ชัดเจน โดยเวลา 15.30 น. จะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที นอกจากนี้ในต่างจังหวัดผวจ.ทุกจังหวัดยังได้เข้ามามีส่วนร่วมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ถวายความอาลัยในจังหวัดตนเองสะดวกมากขึ้น

สุวพันธุ์วอนร่วมใจฝ่าอุปสรรค

นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ขณะที่ผู้นำจากประเทศต่างๆได้ทยอยแสดงความเสียใจร่วมกับชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง อยากเรียนกับประชาชนว่าเวลานี้คนไทยควรจะร่วมมือร่วมใจกันช่วยให้ประเทศชาติได้เดินฝ่าฟันอุปสรรคต่อไปข้างหน้า ซึ่งในวันอังคารที่ 18 ต.ค.นี้ คณะรัฐมนตรีจะประชุมตามปกติเพื่อดำเนินการขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าทั้งด้านเศรษฐกิจ และการแก้ไขปัญหาน้ำดูแลเกษตรกร โดยช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานด้านเศรษฐกิจยังคงปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม แม้จะเป็นช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าแต่ประเทศต้องขับเคลื่อนต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงการดูแลรักษาความปลอด ภัยในพื้นที่ซึ่งมีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังเหตุระหว่างวันที่ 25-30 ต.ค. นายสุวพันธุ์ ว่า เรื่องดังกล่าวรวมอยู่ในแผนของการรักษาความปลอดภัยทั้งการจัดสายตรวจ และจัดกำลัง เจ้าหน้าที่ครอบคลุมทุกเรื่อง เป็นการเฝ้าระวัง ในระดับเข้มข้นสูงสุด ที่จะดูแลอย่างเต็มที่ไปก่อนเวลานี้ ส่วนระดับการดูแลจากนั้นจะ ปรับความเข้มข้นตามสถานการณ์ ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยสิ่งบอกเหตุข้อมูลการข่าว ที่จะมารายงานสถานการณ์ให้ฟัง

กศน.ทั่วประเทศย้อมผ้าดำให้ฟรี

นายสุวพันธุ์กล่าวอีกว่า ผลการประชุมในช่วงบ่ายมีทบทวนปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ของการปฏิบัติงานในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และทำให้งานพระราชพิธีดำเนินไปได้อย่างราบรื่น มีประเด็นสำคัญดังนี้ 1.มีการปรับการดำเนินการด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วม ที่โรงพยาบาลกลาง และหน่วยที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง ที่ท้องสนามหลวงและเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า 2.ปรับเชื่อมการรับทราบปัญหาข้อขัดข้อง ให้แก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างรวดเร็วขึ้น โดยมีศูนย์อำนวยการร่วมทำหน้าที่แก้ไขปัญหา 2 จุด คือ ศูนย์อำนวยการร่วมดูแลการจราจร และดูแลความเดือดร้อนประชาชน ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับศูนย์อำนวยการร่วม เพื่อให้บริการของกทม. ส่วนศตส.จะทำหน้าที่ประสานงานให้การแก้ปัญหารวดเร็วขึ้น

เลขาฯศตส.กล่าวว่า 3.การให้การบริการด้านคมนาคมขนส่งและการจราจร ซึ่งเมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา บก.จร.ประกาศปิดการจราจรโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่สะพานผ่านพิภพลีลา หน่วยบัญชาการกำลังสำรอง และถนนสราญรมย์ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. วันที่ 17 ต.ค.เป็นต้นไป แต่จะมีจุดให้บริการรถขนส่งมวลชนเข้าไปส่งประชาชนได้จนถึงโรงแรมรัตนโกสินทร์ โดยวันที่ 17 ต.ค. เวลา 09.00 น. จะประชุมประเมินผลชี้แจงประชาชน รวมถึงผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และ 4.ให้สำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จัดบริการย้อมผ้าให้กับประชาชนทั่วประเทศฟรี ทั้งในระดับจังหวัด และระดับอำเภอ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.เป็นต้นไป

พศ.ประสานบำเพ็ญกุศลทั่วโลก

นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ตามที่มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติออกประกาศมหาเถรสมาคม เรื่อง แนวทางการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั้น ในส่วนของสำนักพุทธฯ ดำเนินการตั้งศูนย์ประสานงานเกี่ยวกับแนวทางประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามประกาศมติมหาเถรฯโดยวัดทั่วประเทศและทั่วโลกสามารถประสานงานนายสาโรจน์ กาลศิริศิลป์ โทร.06-1421-0638 นายสมบูรณ์ บุญครอบ โทร.08-1628-5769 นายลือชัย เสพล โทร.09-2862-9342 หรือโทร.0-2441-4500

นายพนมกล่าวต่อว่า ขณะนี้วัดไทยทั่วโลก ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ขณะที่วัดสำคัญในกรุงเทพฯ ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในเวลา 15.52 น. หรือตามเวลาที่เหมาะสมทุกวันแล้ว โดยวัดปากน้ำภาษี เจริญ เริ่มประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.เป็นต้นมา ในเวลา 15.52 น. ณ พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล ชั้นที่ 2 โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน ขณะที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร จัดพิธีดังกล่าวในเวลา 18.00 น. ของทุกวัน

เผยชื่อวัดจัดพิธีทั่วประเทศ

ผอ.สำนักพุทธฯ กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนภูมิภาคมีวัดที่เป็นศูนย์กลางประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมถวายพระบรมศพที่สามารถให้ประชาชนไปร่วมพิธีได้ แจ้งข้อมูลมายังสำนักพุทธฯ แล้ว 30 วัด ได้แก่ 1.วัดตานีสโมสร จ.ปัตตานี 2.วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา 3. วัดเพชรสมุทรวรวิหาร จ.สมุทรสงคราม 4.วัดสระแก้ว 5.วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม 6.วัดมหาธาตุวรวิหาร จ.ราชบุรี 7.วัดเจษฎาราม จ.สมุทรสาคร 8.วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร จ.สกลนคร 9.วัดสง่างาม จ.ปราจีนบุรี 10.วัดพระมหาธาตุวรวิหาร จ.นครศรีธรรมราช 11.วัดมณีบรรพตวิหาร จ.ตาก 12.พุทธมณฑลเชียงราย จ.เชียงราย 13.วัดอ่างทองวรวิหาร จ.อ่างทอง 14.วัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี 15.วัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี

นายพนมกล่าวต่อว่า 16.วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม 17.วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน 18.วัดศรีมงคลใต้ จ.มุกดาหาร 19.วัดบุพพารามสโมสร จ.บึงกาฬ 20.วัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา 21.วัดท่าหลวง จ.พิจิตร 22.วัดเนินพระ จ.ระยอง 23.วัดไทยชุมพล จ.สุโขทัย 24.วัดแก้วโกรวาราม จ.กระบี่ 25.วัดเสาธงทองวรวิหาร จ.ลพบุรี 26.วัดอุดมธานี จ.นครนายก 27.วัดมหาธาตุ จ.ยโสธร 28.วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม 29.วัดมหาธาตุ จ.เพชรบูรณ์ และ 30. วัดใหญ่อินทราราม จ.ชลบุรี ทั้งนี้หากมี รายชื่อวัดที่เป็นศูนย์กลางในส่วนภูมิภาค พศ.ก็จะแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง

จัดรถไปศาลาสหทัยฯฟรี 4 จุด

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว. การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขอแจ้งให้ประชาชนได้ทราบว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชน ได้ไปร่วมถวายอาลัยในจุดต่างๆ 3 จุดหลักดังนี้

1.สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บริการรถรับส่งฟรี สู่ท้องสนามหลวง เพื่อร่วมพิธีถวายอาลัย ณ ศาลาสหทัยสมาคมโดยมีรถบริการ 4 เส้นทาง 1.สนามศุภชลาศัย-สนามหลวง 2.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งร.พ.ราชวิถี)-สนามหลวง 3.สถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่-สนามหลวง 4.สถานีขนส่งสายใต้เก่า (ตลิ่งชัน)-สนามหลวง เริ่มบริการตั้งแต่ 17-24 ต.ค. เวลา 08.00- 15.00 น. มีรถออกทุกชั่วโมง

เพิ่มจุดลงนามอีก 2 จุด

2.สำหรับประชาชนในย่านรามคำแหงและพื้นที่ใกล้เคียงการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดเตรียมสถานที่ร่วมลงนามถวายอาลัย ในสมุดลงนามถวายอาลัย พร้อมทั้งเตรียมดำเนินการเชื่อมสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจถ่ายทอดพระพิธีธรรมสวดอภิธรรม ประจำวัน ตลอด 100 วัน ผ่านจอแอลอีดีขนาดใหญ่ 2 ฝั่ง ด้านหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา เพื่อให้ประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมในพระพิธีได้มีส่วนร่วมโดยพร้อมเพรียงกัน เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 ต.ค. ในเวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

3.ทั้งนี้เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหา กรุณาธิคุณ และร่วมถวายอาลัยส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย กรมพลศึกษา จึงขอเชิญชวนประชาชนที่อยู่บริเวณใจกลางเมืองย่านมาบุญครอง สยามสแควร์ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมถวายอาลัย ณ สถานที่จัดพระพิธี สามารถเดินทางมาร่วมลงนามถวายอาลัยบริเวณด้านหน้าสนามกีฬาศุภชลาสัยและรับชมถ่ายทอดสดพระพิธีธรรม ในแต่ละช่วงเวลา บริเวณด้านหน้าอาคารนิมิบุตร โดยสามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอสมายังสถานีสนามกีฬาแห่งชาติได้ซึ่งเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุด

สื่อนอกเผยไทยร่ำไห้ทั้งแผ่นดิน

ด้านสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า บรรดาพสกนิกรชาวไทยต่างพร้อมใจกันถวายความอาลัยด้วยการใช้สีดำเป็นสัญลักษณ์ทั่วประเทศ ความโศกเศร้าและการแสดงออก เชิงสัญลักษณ์อย่างพร้อมเพรียงของบรรดา พสกนิกรชาวไทยสร้างความประทับใจให้กับประชาคมโลก ที่ต่างยอมรับและให้ความเคารพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และยังสร้างความตกตะลึงให้กับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงนี้ ตลอดจนสะท้อนให้เห็นถึงความเทิดทูนและความจงรักภักดีของคนไทยที่มีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศด้วย

รายงานระบุว่า ความโศกเศร้าและการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างพร้อมเพรียงของบรรดาพสกนิกรชาวไทยส่งผลให้เสื้อผ้า และผ้าสีดำนั้นเริ่มขาดแคลน แม้บรรดาห้างสรรพสินค้าและพ่อค้าแม่ขายต่างเปลี่ยนมาจำหน่ายชุดดำกันอย่างรวดเร็ว อาทิ บริเวณประตูน้ำ ซึ่งเป็นตลาดขายเสื้อผ้าขนาดใหญ่ในราคาราว 150 ถึง 250 บาท ทำให้รัฐบาลทหารของไทย ระบุว่า จะประสานงานร่วมกับบรรดาผู้ผลิตเสื้อผ้าเพื่อไม่ให้ชุดดำเกิดภาวะขาดตลาด รวมทั้งจะปราบปรามผู้จำหน่าย ที่ฉกฉวยโอกาสปั่นราคาขายที่สูงเกินความสมควรอย่างเด็ดขาด

‘เฟซบุ๊ก’ร่วมถวายอาลัย

วันเดียวกัน เว็บไซต์แมชเอเบิล ระบุว่า เฟซบุ๊ก หนึ่งในแอพพลิเคชั่นเครือข่ายสังคมออนไลน์อันดับ 1 ของโลก ซึ่งมีคนไทยใช้บริการกว่า 37 ล้านคน ประกาศยุติการโฆษณาลงชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ในประเทศไทยอย่างไม่มีกำหนด เพื่อให้สอดคล้องกับอารมณ์โศกเศร้าและบรรยากาศการถวายความอาลัยแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ สร้างความประหลาดใจให้กับแวดวงไอที เนื่องจากถือเป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊กประกาศดำเนินการในลักษณะเช่นนี้

พสกนิกรภาคใต้ร่วมถวายอาลัย

สำหรับบรรยากาศถวายอาลัยในต่างจังหวัด นายธรรมรงค์ คงวัดใหม่ รอง ผวจ.สตูล พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นำชาวเลอูรักลาโว้ย บนเกาะหลีเป๊ะ หมู่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล ร่วมกิจกรรมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านเกาะอาดัง โดย มีพระสงฆ์มาสวดอภิธรรม พร้อมใจร่วม พิธีบำเพ็ญอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ จากนั้น นำร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ในปีนี้ชาวเลอูรักลาโว้ยงดกิจกรรมประเพณีลอย เปลี่ยนมาเป็นกิจกรรมทางศาสนาแทน

ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ. นำหน.ส่วนราชการและประชาชนกว่า 1,000 คน แต่งกายไว้ทุกข์ตักบาตร ที่หน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยมีพระเทพวินยาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 16 17 18 เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นำคณะสงฆ์รับบิณฑบาต โดยจะมีพิธีตั้งแต่ วันที่ 15-21 ต.ค.นี้

ที่ชายหาดแหลมสมิหลา จ.สงขลา พสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมกันจุดเทียนเป็นสัญลักษณ์รูปหัวใจจำนวน 2 ดวง และมีเลข 9 อยู่ภายในหัวใจ บริเวณชายหาดใกล้ๆ กับ รูปปั้นนางเงือก เพื่อน้อมรำลึกในพระมหา กรุณาธิคุณ ขณะที่หน้าศาลากลาง มีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมลงนามถวายความอาลัย

ส่วนชาวบ้านใน อ.เบตง จ.ยะลา ยังคงออกมาหาซื้อเสื้อดำกันจำนวนมาก โดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้ายังคงขายในราคาปกติ ขณะที่บางแห่งปรับลดราคาลงเพื่อร่วมถวายเป็นพระราชกุศล

ทั่วอีสานถวายอาลัย

ส่วนที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นคร ราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นคร ราชสีมา นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชนนับพันคน ทำบุญตักบาตรอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ โดยมีพระราชสีมาภรณ์ รักษาการเจ้าคณะจังหวัดนครราช สีมา เป็นประธานในพิธีสงฆ์ จากนั้นได้ทำบุญ ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 90 รูป พร้อมกับเปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมา ถือแนวปฏิบัติตามที่ส่วนกลางกำหนด ไม่ว่าเรื่องการประดับผ้าขาวดำไว้ทุกข์ตามสถานที่ราชการ วัด โรงเรียน หรือสถานประกอบการภาคเอกชน และกำหนดให้มีการบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมทุกวันไปตลอดจนครบ 100 วัน นอกจากนี้จะมีการจัดนิทรรศ การพระราชกรณียกิจการเสด็จพระราชดำเนิน จ.นครราชสีมา

ที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัด นายวิเชียรกล่าวว่าชาวจ.นครราชสีมา ขออนุญาตไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อจัดสร้างพระบรมรูปขึ้นเพื่อเป็นที่เคารพสักการะ รวมทั้งเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดี โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด

ส่วนพสกนิกรชาวชัยภูมิ พร้อมใจกันทำบุญตักบาตรในวันออกพรรษาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดต่างๆ ทั่ว จ.ขอนแก่น จัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตรและพิธีธรรมทางศาสนาเนื่องในวันออกพรรษา โดยพบว่าชาวขอนแก่นยังคงสวมใส่ชุดดำและชุดขาว ร่วมในการประกอบพิธีทำบุญตักบาตรด้วยข้าวสารอาหารแห้ง รวมทั้งถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระภิกษุสามเณร โดยมีชาวขอนแก่นร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า ส่วนที่ศาลากลางจังหวัด ได้จัดสถานที่ให้ประชาชนมาลงชื่อถวายอาลัย โดยมีการบันทึกเทปพิธีถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ วันที่ 16 ต.ค. พร้อมกัน 12 จังหวัด

ขณะที่ จ.อุดรธานีและบึงกาฬ ประชาชน ข้าราชการ ต่างร่วมกันทำบุญตักบาตรในวันออกพรรษา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

ผวจ.เชียงใหม่นำถวายอาลัย

ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยนางมลสุดา ชำนิประศาสน์ นายกเหล่า กาชาดจ.เชียงใหม่ นำหัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องประชาชน ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และถวายความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ โดยมีการจัดแถวเป็นรูปหัวใจ แสดงถึงความจงรักภักดี พร้อมบันทึกเทปโทรทัศน์นำเสนอโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ และเผยแพร่สาธารณะต่อไป

ส่วนที่วิหารหลวงวัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง ชั้นตรี ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ พระวินัยสาทร เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดพระแท่นศิลาอาสน์ นำ “ต้นไม้เงินต้นไม้ทอง” ทำจากทองคำแท้ 99.99% และเงินแท้ สูง 19 เซนติเมตร ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ ทรงถวายบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ เมื่อครั้งเสด็จฯมาทรงสักการะเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2501 หรือเมื่อ 48 ปีที่ผ่านมา ให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสกราบสักการะเป็นครั้งแรก เพื่อร่วมระลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

แรงงานต่างด้าวตักบาตรถวาย

ที่วัดเทพนรรัตน์ ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทร สาคร บรรดาแรงงานชาวเมียนมา พร้อมชาวบ้านกว่า 2 พันคน ยืนเข้าแถวริมถนนเป็นแนวยาวกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อรอทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุ 49 รูป เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้มาอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระองค์ท่านตลอดรัชสมัย ที่ผ่านมา ซึ่งในขบวนนั้น ก็นำหน้าด้วยพระพุทธรูป จากนั้นเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และตามด้วยคณะสงฆ์

ส่วนที่ศาลาการเปรียญวัดไผ่ล้อม อ.เมืองตราด พุทธศาสนิกชนชาวตราด ร่วมกันทำบุญเนื่องในวันออกพรรษาและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ด้านพระครูวิเชียร รองเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยอยากให้ชาวตราดทุกคนได้น้อมนำคำสอนของพระองค์นำไปใช้เป็นแบบอย่างในการทำงาน ในการครองตน ในการปฏิบัติธรรม พระเจ้าแผ่นดินทุกพระองค์โดยเฉพาะรัชกาลที่ 9 ท่านได้เป็นแบบอย่างในการทำงาน ปฏิบัติตัวที่ดีที่สุด หากปฏิบัติแล้ว จะทำให้มีบุญกุศลมาก จากนั้นได้ชวนให้ผู้มาร่วมทำบุญร่วมนั่งสมาธิเป็นเวลา 9 นาที เพื่ออุทิศบุญกุศลที่ได้กระทำในวันนี้ให้กับดวงพระวิญญาณของพระองค์ท่านด้วย

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานพยากรณ์อากาศว่า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกได้ในระยะนี้ ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑล มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาฯ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน