ตำรวจ เตรียมออกหมายเรียก ลุงพล มารับทราบข้อกล่าวหา หลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตรวจพิสูจน์ ครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าตัวลั่น ทำแล้วสบายใจก็เชิญ
วันที่ 21 มกราคม นายวีระ ใสแก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น) ภายหลังนำกำลังเจ้าหน้าที่ศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มห.2 (ดงหลวง) เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน สถานีตำรวจภูธรตำบลกกตูม และฝ่ายปกครอง อ.ดงหลวง ร่วมกันนำไม้มะค่าแต้ ความยาว 3.25 เมตร ความกว้าง 140 ซม. ซึ่งก่อนหน้านี้ลุงพล และชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นไม้ตะเคียนทอง ที่ได้ยึดไว้เป็นของกลางตามบัญชียึดทรัพย์ที่ 9/2564
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ในข้อหาครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ..2484 ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกกตูม เป็นคดีอาญาที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันยกท่อนไม้ดังกล่าวจากบริเวณศาลแม่ตะเคียนโสรภี ข้างบ้านของลุงพล ขึ้นรถยนต์กระบะบรรทุก หมายเลขทะเบียน บฉ.9704 นำไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ มห.2 (ดงหลวง)
หลังจากมอบหมายให้ นายนิ่ม เงินนาม ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลกกตูม เป็นผู้ดูแลรักษา โดยจะดำเนินการตามข้อกฎหมายด้วยการออกหมายเรียกลุงพลมารับทราบข้อกล่าวหาคดี พรบ.ป่าไม้
ด้านนายไชย์พล หรือลุงพล กล่าวภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้นำไม้มะค่าแต้ไปเก็บรักษาไว้ ว่า
“ขณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้เคลื่อนย้ายไม้ดังกล่าวออกไปจากศาลแม่ตะเคียนโสรภี ผมดูเหตุการณ์จากช่อง You Tube อยู่ที่บ้านไม่ได้ออกมาดูด้านนอก หากการกระทำดังกล่าวที่เขากำลังกระทำกับผมอยู่ เมื่อทำไปแล้วทำให้ครอบครัวเขาสบายใจ ทำให้เขาสูงขึ้นไปอีก ก็ขออนุโมธนาสาธุด้วย ก็ขอให้สิ่งที่เขาปรารถนาประสบความสำเร็จ”
ส่วนมีข่าวว่าผู้เชี่ยวชาญของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จะสรุปผลที่ได้จากการใช้เครื่องจับเท็จ แล้วส่งให้พนักงานสอบสวนในคดีน้องชมพู่ดำเนินคดีต่อไปนั้น ลุงพลกล่าวว่า หากทางพนักงานสอบสวนออกหมายจับตนเป็นผู้ต้องหา ก็เตรียมตัวต่อสู้คดีไว้แล้ว
โดยจะขอให้นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เข้ามาเป็นทนายว่าความต่อสู้คดีให้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้เคยพูดคุยกับทนายตั้มเพื่อให้มาเป็นทนายความไว้แล้ว หากได้ทนายตั้มเข้ามาดูแลคดีอย่างใกล้ชิดก็จะช่วยสร้างความมั่นใจและรู้สึกอบอุ่นมากยิ่งขึ้น
ส่วนทนายรัชพล ศิริสาคร ถือเป็นทนายจิตอาสาจะให้ช่วยว่าความในคดีมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองตามที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตำบลกกตูม
สำหรับกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องการทำงานของยูทูบเบอร์ว่ากีดกันทำการทำงานของผู้สื่อข่าวส่วนกลางนั้น ลุงพลกล่าวว่า ได้ทำความเข้าใจแล้ว ว่าสามารถแจ้งประเด็นที่ต้องการจะสัมภาษณ์ได้เลยพร้อมที่จะเหมือนในการตอบคำสัมภาษณ์ ส่วนทางยูทูบเบอร์ก็ติดตามถ่ายทอดสดได้ ไม่มีข้อจำกัดอะไร ขอให้ทำงานไปตามปกติ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ลุงพลทราบถึงระเบียบกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ 2484 ว่าด้วยการมีไม้ท่อนที่ยังไม่ได้ผ่านการแปรรูปที่ไม่มีรูปลอยดวงตาของรัฐไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะที่ลุงพลให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่เข้าใจข้อกฎหมายและไม่ได้นำมาครอบครองเพื่อตนเอง แค่นำมาให้ชาวบ้านที่นับถือ กราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเท่านั้น
ด้านการทำสำนวนคดีที่ลุงพลถูกแจ้งความในข้อหามีท่อนไม้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ป่าไม้พร้อมทั้งรวบรวมวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องในสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว คาดว่าน่าจะสามารถออกหมายเรียกลุงพลมารับทราบข้อกล่าวหาได้ภายในเร็ววันหน้านี้
