พนักงานกวาดถนน พบเก๋ง จอดใต้บีทีเอส เช้าแล้วเคาะไม่ตอบ ตามกู้ภัยเปิด ก่อนเจอเหตุสลด กอดรูปลูกเมียจบชีวิต พบทำงานสถานบันเทิง โดนปิดนาน มีปัญหาการเงิน
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 26 ม.ค. ร.ต.อ.อภิวัฒน์ พวกอินแสง รอง สว.(สอบสวน) สน.ตลาดพลู ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตในรถยนต์ บริเวณใต้บีทีเอสตลาดพลู ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อม แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บนฟุตปาธใต้บีทีเอสตลาดพลู พบรถยนต์ฮอนด้า บริโอ สีขาว จอดล็อคอยู่ เมื่อมองเข้าไปภายในรถฝั่งคนขับพบร่างชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นายกฤติกร มีมังคละ อายุ 40 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขาสามส่วน นอนเอนเบาะไปข้างหลัง บนตักมีกรอบรูปวางคว่ำหน้าอยู่ พบอุปกรณ์เตาถ่านข้างเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงใช้อุปกรณ์เปิดประตู เพื่อให้ตำรวจทำการตรวจสอบ
จากการสอบถามนางสิทธิสา มาตมงคล อายุ 54 ปี พนักงานทำความสะอาดของกรุงเทพมหานคร เล่าว่า ในขณะที่ตนมากวาดพื้นอยู่บริเวณใต้บีทีเอสตลาดพลูก็เห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ แต่ตอนนั้นฟ้ายังมืดจึงมองด้านในรถไม่เห็น กระทั่งเช้าฟ้าเริ่มสว่างมาดูอีกรอบ เพราะตำรวจจะมาไล่เนื่องจากเป็นที่ห้ามจอด จึงเรียกลูกชายให้มาช่วยกันเคาะเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ เลยโทรแจ้งตำรวจ
ต่อมา น.ส.ทาริดา วัฒนมงคล อายุ 27 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมให้การว่า ตนอยู่กินกับนายกฤติกร มาประมาณ 5 ปี มีลูกชายด้วยกันอายุ 3 ขวบ นายกฤติกร ทำงานที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง แต่ก็ปิดมานานตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงมีปัญหาด้านการเงิน ไม่มีเงินส่งรถ อีกทั้ง ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ก็มีปัญหาครอบครัวทำให้ทะเลาะกันตลอด จนต้องแยกห้องกันแต่ยังอยู่ในคอนโดเดียวกัน โดยสามีจะมาหาลูกชายเป็นประจำ ล่าสุด เมื่อวานนี้สามีได้พาตนและลูกชายไปกินเลี้ยงวันเกิดกัน ก่อนแยกย้าย พอกลับมาที่พักก็ไม่พบตัว จนทราบว่ามาเสียชีวิตอยู่ในรถตอนเช้า
จากการสอบสวนเพิ่มเติมทราบว่า ก่อนหน้านี้ นายกฤติกรเคยมีแฟน 2 คน ซึ่งเคยก่อเหตุทำร้ายตัวเอง มา 2 ครั้ง แต่กู้ภัยช่วยได้ทัน จนมาก่อเหตุอีกครั้ง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ตายน่าจะเกิดความเครียดจากปัญหาในครอบครัว ประกอบกับปัญหาด้านการเงิน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำญาติอย่างละเอียดอีกครั้ง และรอผลชันสูตรจากแพทย์ เพื่อสรุปหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนาต่อไป
