ปลา อัจฉรา เจ้าของร้านอาหารดัง เตือน กทม. รอบคอบ ประกาศไทม์ไลน์ หลังโดนประกาศผิดสองรอบซ้อน ทำธุรกิจปั่นป่วน ลั่นอย่าทำลายธุรกิจ

ไทม์ไลน์ผู้ป่วยโควิด ทำเอาป่วน หลังจากไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์สับสน เนื่องจาก กทม. ระบุไทม์ไลน์ผู้ป่วยหลายรายว่า ไม่ให้ข้อมูล แต่ผู้ป่วยกลุ่มนี้ออกมายืนยันว่า ให้ไทม์ไลน์ไปอย่างละเอียดแล้ว และบางรายได้เปิดเผยไทม์ไลน์ตัวเองก่อนที่ กทม. จะมีไทม์ไลน์ออกมาด้วย ทำเอาประชาชน ก็สับสนว่า ตกลงแล้วความจริงเป็นอย่างไร ซึ่ง โฆษก. กทม. ได้แถลงว่า ไม่ให้ข้อมูล กับอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ก็เหมือนกันนั้น

ล่าสุด ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ เจ้าของร้านอาหาร เครื่องดื่มและไอศครีมที่ฮอตฮิตหลายต่อหลายร้าน ออกมาฟาดอีกรอบถึง การทำงาน ของ กทม. ซึ่งทำให้ผู้ประกอบธุรกิจได้รับความเสียหาย หลังจาก มีการระบุว่า ผู้ป่วยบางรายเข้ามาใช้บริการที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งของเธอ ทำให้ต้องปิดร้าน ส่งพนักงานทั้งหมด ไปตรวจหาโควิด และสร้างความตกใจให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ และไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ กทม. เพื่อขอความชัดเจนได้

แต่ต่อมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กลับเข้าไปตรวจอีกสาขา และสุดท้ายพบว่า ไทม์ไลน์นั้น ประกาศผิด และก็เกิดเหตุการณ์เดิมขึ้นซ้ำ จนเธอลงท้ายโพสต์ว่า “เรื่องที่มันผิดแล้ว … มันกู้ยาก Timeline ต้องไม่ทำลาย สุดท้าย ใครรู้จัก คุณ เอิร์ธ พงศกร ขวัญเมือง ช่วยไปบอกนางที”

โดยโพสต์ทั้งหมด ระบุว่า ““Timelineผิด ชีวิตเปลี่ยน” วันนี้ขอระบายความในใจอะไรนิดนึงเกี่ยวกับ Timeline ของกรุงเทพมหานครเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อโควิด เมื่อสองวันที่แล้วมีการประกาศว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด รายที่ 632 มาทานที่ร้านโรงสี ลุมพินี (หลังสวน) ผู้ประกอบการอย่างเราก็ได้ตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก ทำการปิดร้าน และทำความสะอาดร้าน

วันรุ่งขึ้นส่งพนักงานทั้งร้านไปตรวจหาเชื้อ เกือบ50 ชีวิต แถมที่ออฟฟิศ ยังรับสายโทรศัพท์กันไม่หวั่นไม่ไหว ลูกค้าที่มาใช้บริการในวันเดียวกันโทรเข้ามากันมากมายสายแทบไหม้กันเลยทีเดียว ถามว่า นั่งตรงไหน มากี่โมง. แต่ทางเราก็ไม่สามารถตอบลูกค้าได้ว่าใครคือคนที่ป่วยแล้วนั่งตรงไหน เพราะว่าเราติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ของศูนย์ประชาสัมพันธ์ก็ติดต่อไม่ได้เลย ก็ได้แต่ส่งพนักงานทั้งร้านไปตรวจให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไป

ปลา ไอเบอร์รี่

วันต่อมา เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข เข้ามาที่สาขาโรงสีนางลิ้นจี่ (อีกสาขาหนึ่ง) ผู้จัดการร้านถึงกับตกใจว่ามาผิดสาขาหรือเปล่า สรุปว่าเจ้าหน้าที่เข้ามาที่ สาขานางลิ้นจี่ก็โทรศัพท์เช็คกันไปมา สรุปเค้าคอมเฟิร์มถูกต้องแล้ว แต่ว่า timeline ประกาศผิดสาขา แบบนี้ได้ด้วยเหรอคะ

สำหรับร้านอาหาร การมีชื่ออยู่บน timeline ว่ามีคนป่วยโควิด มาทานเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก เหมือนโดนทิ้งระเบิด แล้วก็เดินจากไป มันทำให้ลูกค้าหวาดผวา และหลีกเลี่ยงที่จะมาทานที่ร้านอีก อย่างน้อยก็เป็น 1-2 สัปดาห์ ธุรกิจของปลาเป็นเครือร้านอาหารที่อยู่ในห้างเป็นส่วนใหญ่ลำพังที่จะดำเนินธุรกิจในช่วงนี้ให้ผ่านไปได้ก็ลำบากเต็มทน ทำไมยังต้องมารับมือกับเรื่องชุ่ยๆของการทำงานที่ผิดพลาดแบบนี้อีก มันส่งผลเสียหายรุนแรงมากๆ

ยังไม่พอ วันนี้ก็มีการประกาศ timeline ออกมาอีกครั้ง ผู้ป่วยรายที่ 660 แต่เอ๊ะ ก็ยังคง ประกาศ โรงสี เขตปทุมวันอีกแล้วค่ะ (ลูกค้า รายนี้มาทานข้าวพร้อมกันกับคนก่อน ที่โรงสี นางลิ้นจี่) สรุปคือ ประกาศผิด ครั้งที่ 2 คุณพระ อะไรจะชุ่ยซ้ำแล้วซ้ำอีก (เปรียบเสมือน ฆ่ากันให้ตายไปแล้วยังไม่พอ ขุดหลุมขึ้นมาฝังใหม่อีกรอบ

พระเจ้า ถ้าชุ่ยขนาดนี้ ช่วยไปทำงานอย่างอื่นดีกว่า มั้ยคะ อย่ามาทำลายชีวิตของคนอื่นแบบนี้เลย มันไม่สนุกนะคะ ข้อเสนอแนะ จากคนทำร้านอาหารอย่างเรา 1. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจก่อน ที่จะมีประกาศออกไปแก่สาธารณะ 2. ควรแจ้งให้ทางร้านรับทราบ และเช็คกับทางร้านก่อนว่า บุคคลนี้มาใช้บริการจริงๆหรือไม่ วันที่ระบุตรงรึเป่า เพื่อที่เราจะได้ตรวจสอบกับกล้องวงจรปิดย้อนหลัง ให้ชัดเจนว่าข้อมูลนั้นถูกต้องและรู้แน่ชัดว่าลูกค้าคนดังกล่าวนั่งบริเวณไหนใครเป็นผู้ให้บริการบ้าง

3 น่าจะมีการให้ความรู้กับประชาชนว่า หากมีการทำความสะอาด และตรวจสุขภาพของพนักงานอย่างถูกต้องถูกวิธีแล้ว ร้านนี้ปลอดภัยและสามารถเปิดให้บริการแก่ลูกค้าได้ตามปกติ (ปล. ผู้ป่วยทั้งสองราย ที่กล่าวมาแล้ว มาทานที่ สาขา นางลิ้นจี่พร้อมกัน ห้องส่วนตัว ชั้น 2 ในวันที่ 16 มกราคม) ผ่านมาแล้วเป็นเวลา 13 วัน

ทุกๆ วันตั้งแต่ต้นปี ทางเรามีมาตรการการทำความสะอาดร้านด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ทุกบริเวณผิวสัมผัส วันละไม่ต่ำกว่าวันละ 4 รอบ หลังมื้ออาหารที่ลูกค้าทานเสร็จทุกครั้ง ในทุกๆวัน มีการตรวจอุณหภูมิและทั้งลูกค้าและพนักงานทุกคน ปล. ในขณะนี้ พนักงานทุกคนในร้าน สุขภาพเป็นปกติดี คะ

เขียนมาทั้งหมดยืดยาวนี้ รู้ทั้งรู้ว่าอาจจะไม่เป็นผลดีเพราะว่าคนที่ไม่ทราบเรื่องว่ามีลูกค้าติดโควิดก็อาจจะทราบกันวันนี้ แต่ที่เรายอมเขียนเพราะเรารู้สึกว่า ความผิดพลาดของการประกาศ timeline ที่ผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก มันเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรง ส่งผลความรู้สึกหวาดผวาของลูกค้า พนักงาน และผู้ประกอบการ ไม่อยากให้เค้าทำแบบนี้อีก ในเคสต่อๆไป มันควรจะต้องได้รับการแก้ไข ผู้ประกอบการทุกๆคน รับความผิดพลาดแบบนี้ไม่ไหว

เรื่องที่มันผิดแล้ว … มันกู้ยาก Timeline ต้องไม่ทำลาย สุดท้าย ใครรู้จัก คุณ เอิร์ธ พงศกร ขวัญเมือง ช่วยไปบอกนางที”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน