ลูกชายมิน ออง หล่าย โปรยเงินแจก หลังพ่อรัฐประหารสำเร็จ ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ!
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา หม่อง ซาร์นี นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชาวพม่า ผู้มีชื่อเสียงในเรื่องการต่อต้านความรุนแรงในรัฐยะไข่และวิกฤตผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา ได้โพสต์คลิปที่แสดงให้เห็นถึงภาพของบุตรชายของพลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่า กำลังโปรยเงินแจกผู้คน
ภายในวิดีโอดังกล่าวจะแสดงให้เห็นว่า อ่อง แพ โซน (Aung Pyae Sone) กำลังโปรยธนบัตรจำนวนมาก ให้กับพนักงานและผู้คนทั่วไป เพื่อฉลองชัยชนะของบิดาหลังจากที่เขาสามารถทำการรัฐประหารได้สำเร็จทำให้โลกออนไลน์ร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง
คนในและนอกประเทศเมียนมาก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม “ฉันไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้ ทั้งที่คนกว่าครึ่งประเทศยังคงจนอยู่” “ฉันไม่อยากจะเชื่อ” “ผู้คนกำลังรอที่จะแก้แค้น” “ฉันรังเกียจลูกชายของเขาเหลือเกิน ไม่เหมาะสม” “รอเวลาที่เขาอยู่ในคุก อีกไม่นาน” “อำนาจของเงิน” “น่าอับอาย” “เงินของประชาชน”
ทั้งนี้ที่ผ่านมานั้นครอบครัวของพลเอกอาวุโสมิน ออง หล่าย มักถูกวิจารณ์มาโดยตลอดว่า ใช้บารมีของตนเองเพื่อเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจต่าง ๆ ให้กับสมาชิกในครอบครัวที่ประกอบธุรกิจอย่างหลากหลาย ซึ่งอ่อง แพ โซน เป็นเจ้าของธุรกิจนำเข้าอาหาร ยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์
ที่ผ่านมาเขาถูกจับตามอง และถูกวิจารณ์อย่างหนัก จากการทำธุรกิจร้านอาหารและแกลเลอรีหรู ใกล้กับเจดีย์ชเวดากอง ซึ่งเขาได้สิทธิ์เช่าอาคารในทำเลที่ดีที่สุดในราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และยังได้รับใบอนุญาตโดยไม่ต้องประมูลแข่งกับธุรกิจอื่น ๆ
และร้านอาหารแห่งนี้ยังให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้ว่าจะมีข้อห้ามในสัญญากับคณะกรรมการพัฒนาเมืองย่างกุ้ง (YCDC) ก็ตาม นอกจากนี้ลูกชายผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมายังเป็นเจ้าของรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่ถูกสังคมวิจารณ์ว่า ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างจากพรรคพวกใกล้ชิดกับกองทัพ รวมทั้งยังได้สัมปทานจากกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวในการสร้างโรงแรมที่เมืองมรัค-อู อีกด้วย
#Myanmar coup-leader Min Aung Hlaing’s son throwing $$$ as a symbolic act of his father’s victorious coup while the public are reeling from the shock of #myanmarmilitarycoup. His #mytel telecom is being boycotted nationwide. @nslwin @saifuddinabd @PavinKyoto @pipob69 @hk_watch pic.twitter.com/X2BBGZNMcc
— maung zarni (@drzarni) February 4, 2021
