ใครอดไม่ต้องตกใจ 8 ก.พ.ลงทะเบียนอีกรอบ เปิดทบทวนสิทธิ ‘เราชนะ’ ให้คนตกงานปี 63 เพื่ออัพเดตข้อมูลใหม่ หลังใช้ฐานข้อมูลภาษีปี 2562 เป็นหลัก
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า สำหรับวันที่ 5 ก.พ.เป็นวันแรกที่กระทรวงการคลัง โอนเงินโครงการ เราชนะ ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน จำนวน 13.8 ล้านคน และเปิดให้ประชาชนทั่วไปตรวจสอบสิทธิของตัวเองว่าได้รับสิทธิเราชนะหรือไม่
- อ่าน เริ่มแล้ว! คลังโอนเงิน เราชนะ ให้กลุ่มแรกใช้วันนี้ เปิดกลุ่มอื่นเช็กสิทธิ์ได้
- อ่าน เราชนะ รับเงินได้เมื่อไหร่ เปิดไทม์ไลน์ วันลงทะเบียน เช็คสิทธิ รับเงิน
- อ่าน ขั้นตอนเช็กสิทธิ “เราชนะ” กลุ่มคนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน ได้รับเงินหรือไม่!
ปรากฏว่ามีผู้ว่างงานในปี 2563 ไม่ได้รับสิทธิจำนวนมาก เนื่องจากเป็นผู้มีรายได้พึงประเมินเกิน 300,000 บาท ที่ตรวจสอบจากฐานข้อมูลภาษีปี 2562 เป็นหลัก ดังนั้นขอให้ผู้ว่างงานที่ไม่ได้รับสิทธิ ไปลงทะเบียนทบทวนสิทธิของตัวเองในวันที่ 8 ก.พ.2564 เพื่ออัพเดตข้อมูลใหม่
กระทรวงการคลังต้องยึดข้อมูลภาษีปี 2562 เป็นหลัก เพราะเรามีข้อมูลแค่นี้ แต่หากปีนี้ตกงาน และไม่ได้เป็นลูกจ้างตามมาตรา 33 ให้มาลงทะเบียนรอบทบทวนสิทธิ ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือทุกกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ขอให้มาลงทะเบียนและมาแจ้งสิทธิตัวเองด้วย เมื่อมีข้อมูลแล้วจะได้รับการช่วยเหลือแน่นอน
นายอาคม กล่าวว่า ส่วนการลงทะเบียนของกลุ่มเปราะบางที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่มีสมาร์ตโฟนนั้น สามารถลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทยสาขาใกล้บ้าน ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เพื่อให้ธนาคารเก็บข้อมูล และจัดหาแนวทางในการดำเนินการช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้รูปแบบการช่วยเหลือใกล้ชัดเจนแล้ว เพียงแต่รอดูว่ามีผู้มาลงทะเบียนจำนวนเท่าใด
สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 นั้น ต้องรอให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เร็วที่สุดภายในสัปดาห์หน้าหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ถือว่าแนวทางการช่วยเหลือชัดเจนในระดับหนึ่งแล้ว เหลือเพียงรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งถ้าเสนอครม.เมื่อใด จะเห็นรายละเอียดเมื่อนั้น ขอให้เชื่อว่ารัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาแน่นอน
ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาในโครงการ เราชนะ รัฐบาลจะช่วยเหลือราว 41 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.8 ล้านคน กลุ่มผู้ใช้แอพพลิเคชั่นเป๋าตัง จำนวน 17 ล้านคน และผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 9 ล้านคน และกลุ่มอื่นๆ อีก 1.2 ล้านคน