ฮือฮา! พบแหล่งน้ำแร่โซดา รสหวานซ่า ตรวจแล้วปลอดภัย ผสมเครื่องดื่มได้ทันที อธิบดีชี้มีเหลือเฟือไม่มีวันหมด เตรียมทำระบบกระจายน้ำแจกจ่าย 11 หมู่บ้านแก้แล้ง

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. นายเกรียงศักดิ์ ภิระไร ผอ.สำนักสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้สำรวจแหล่งน้ำบาดาลแร่ในพื้นที่บ้านทุ่งคูณ หมู่ 12 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี พบแหล่งน้ำพุธรรมชาติที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งไม่เคยพบที่ใดมาก่อนในประเทศไทย คือ มีรสซ่าคล้ายน้ำโซดา และมีรสชาติออกหวานนิดๆ สามารถนำไปผสมเครื่องดื่มแทนน้ำโซดาได้เลย

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า พื้นที่พบแหล่งน้ำแร่โซดานี้พบบริเวณที่เป็นรอยแตกของชั้นหินแปร ที่อยู่ลึกลงไปจากพื้นดิน 303 เมตร เมื่อเจาะลงไปถึง พบน้ำดังกล่าวผุดขึ้นมาเองทันที โดยพุ่งขึ้นมาในปริมาณมากกว่า 50 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง คุณสมบัติของน้ำตรวจสอบเบื้องต้น โดยห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ตรวจสอบน้ำบาดาลของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลที่จ.สุพรรณบุรี พบว่า มีค่าพีเฮช หรือค่าความเป็นกรดด่างอยู่ที่ 6.75 คุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำธรรมดามาก ไม่เจอสารพิษใดๆ ปนเปื้อน นอกจากนี้ยังพบปริมาณไบคาร์บอเนตสูง คุณสมบัติดังกล่าวนี้ตรวจสอบพบว่า เป็นผลดีกับผู้ป่วยเบาหวาน หากดื่มในปริมาณที่พอเหมาะสม

“เราพบน้ำแร่โซดาที่มีลักษณะเดียวกันนี้ 2 บ่อในบริเวณที่ใกล้กัน สาเหตุที่น้ำมีลักษณะและรสชาติดังกล่าว เป็นเพราะบริเวณที่เก็บกักนั้น น่าจะมีหลายองค์ประกอบ เช่น หินอัคนี หรือหินร้อน ที่เป็นตัวทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้นคือ มีอุณหภูมิอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังมีหินปูน ซึ่งเมื่อหินปูนโดนความร้อนก็จะคายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาสะสมในน้ำ เมื่อไปเจาะน้ำจึงพุ่งขึ้นมาได้เอง รวมทั้งมีรสซ่า อมหวาน เหมือนน้ำโซดาที่บรรจุขวดขาย สามารถนำไปผสมกับเครื่องดื่มและดื่มได้ทันที ชาวบ้านในพื้นที่ข้างเคียง เมื่อทราบว่าเราเจาะน้ำบาดาล ที่มีรสชาติคล้ายโซดา ต่างพากันสนใจ มาทดลองชิมกันจำนวนมาก”นายเกรียงศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะจัดการกับแหล่งน้ำบาดาลโซดาตรงนี้อย่างไร นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า เวลานี้เจ้าหน้าที่จะเฝ้าสังเกตดูอัตราการไหลพุขึ้นมาของน้ำก่อนว่ามีลักษณะการไหลเป็นอย่างไร การพุหรือไม่พุขึ้นมานั้นไม่มีความสำคัญ เพราะในที่สุดแล้ว สามารถเจาะลงไปสูบน้ำขึ้นมาใช้ได้ หลังจากนี้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะทำระบบการกระจายน้ำ เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ได้นำไปอุปโภคบริโภค และใช้สำหรับการเกษตร เพราะตรวจสอบแล้วพบว่าปริมาณน้ำมีมากพอสำหรับการแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงใช้ในช่วยฤดูแล้ง

เมื่อถามว่าน้ำที่มีรสซ่าและหวานสามารถใช้ในการเกษตรได้หรือ นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า สามารถใช้ได้ เพราะอย่างที่บอกไปตอนแรกคือ ค่าความเป็นกรดด่างอยู่ที่ 6.75 ซึ่งใกล้เคียงกับน้ำดื่มปกติมาก ทั้งนี้ในเรื่องของความซ่าจะเหมือนกับโซดาบรรจุขวดทั่วไปคือ เมื่อพุออกมาจากแหล่งใหม่ๆความซ่าจะมีอยู่ แล้วจะค่อยๆลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

ด้านนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า อ.ห้วยกระเจานั้นถือเป็นพื้นที่แห้งแล้งอย่างมาก มีชื่อติดอยู่ในพื้นที่ ที่ประสบภัยแล้งทุกปี โดยเมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา กรมทรัพยากรน้ำบาดาลส่งทีมสำรวจไปขุดเจาะน้ำบาดาลในพื้นที่ มีเรื่องที่น่ายินดีมาก ที่พบแหล่งน้ำบาดาลไม่น้อยกว่า 500 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำสะอาด และมีรสชาติค่อนข้างพิเศษเหมือนที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบก่อนหน้านี้ โดยปริมาณน้ำที่พบนั้น สามารถแจกจ่ายให้ชาวบ้านพื้นที่รอบๆจำนวน 11 หมู่บ้าน และพื้นที่เกษตรอีก 3 พันไร่ ได้ใช้ตลอดฤดูแล้งนี้ ซึ่งพูดได้เลยว่า อ.ห้วยกระเจาจะไม่แห้งแล้งอีกต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน