เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมากลุ่มราษฎรจัดกิจกรรม ‘นับหนึ่งให้ถึงล้าน คืนอำนาจประชาชน’ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัว 4 แกนนำ และมีการเดินขบวนมุ่งหน้าศาลหลักเมือง แต่ก็เกิดสถานการณ์ชุลมุนขึ้น หลังเกิดเสียงคล้ายระเบิดบริเวณที่ชุมนุม จนเกิดการกระทบกระทั่งของเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ชุมนุม

เหตุการณ์การสลายการชุมนุมดังกล่าวส่งผลให้มีตำรวจ กลุ่มผู้ชุมนุม และประชาชนบาดเจ็บหลายราย แต่ที่เรื่องราวที่กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในตอนนี้คงหนีไม่พ้น #ตำรวจกระทืบหมอ ที่พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ลากยาวมาถึงช่วงเช้าของวันนี้ หลังจากมีผู้ใช้ทวิตเตอร์และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้เผยแพร่ภาพ คลิป และบทสัมภาษณ์ของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนเข้ากระชับพื้นที่

และมีภาพของทีมแพทย์อาสาที่สวมเสื้อกั๊กสีเขียวบนรถจักรยานยนต์ที่ถอยร่นออกมาไม่ทัน ส่งผลให้ตนเองนั้นตกอยู่ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามหลังมา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาไล่หลังมา ก่อนจะมีการแชร์ภาพของชายที่สวมเสื้อกั๊กสีเขียวนอนหมดสติอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้านบทสัมภาษณ์ของหนึ่งในทีมแพทย์อาสาเธอได้เล่าเรื่องว่าผู้ชายที่อยู่บนรถจักรยานยนต์นั้นตนได้เข้าไปพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่แล้ว แต่น้องในทีมคนหนึ่งที่สวมเสื้อกั๊กเขียวและมีตราสัญลักษณ์ทีมแพทย์ชัดเจนกลับทำร้าย ล็อคตัว และตรวจค้นสิ่งของ ก่อนจะพาตัวน้องคนนั้นไปยังสน. พร้อมทั้งบอกว่าพวกตนนั้นช่วยเหลือและรักษาทุกฝ่ายโดยไม่เลือกข้าง แต่ทำไมพวกตนถึงโดนกระทำแบบดังกล่าว

ภาพ คลิป และบทสัมภาษณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างพูดถึงเหตุการณ์ที่ทีมแพทย์อาสาถูกทำร้ายร่างกายว่า ทีมแพทย์อาสาเหล่านั้นได้ช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นฝั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือฝั่งของกลุ่มผู้ชุมนุมเองโดยไม่เลือกข้างและพยายามทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด พร้อมถามเหตุผลถึงการทำร้ายร่างกายทีมแพทย์อาสา รวมไปถึงตั้งคำถามถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และระบายความโกรธออกผ่านตัวอักษร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน