ในวัยเด็กเราทุกคนล้วนมีความฝันที่อยากจะเป็นหรือทำอาชีพเหมือนตัวการ์ตูน บุคคล หรือฮีโร่ที่เราชื่นชอบ แม้บางครั้งความฝันนั้นอาจจะดูเกินความเป็นจริงไปบ้าง
แต่เมื่อเด็กเริ่มเติบโตขึ้น ความฝันของพวกเขาก็จะเริ่มแปรเปลี่ยนไปตามบริบทสังคมต่าง ๆ ถึงแม้ว่าบางครั้งความฝันเหล่านั้นอาจจะดูไกลเกินความเป็นจริง แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งที่ผ่านมานั้นผู้ใหญ่มักจะกลายเป็นผู้ที่ทำลายความฝันของเด็ก ๆ เสียเอง ด้วยคำที่ว่า ‘เป็นไปไม่ได้’ นอกจะทำลายความฝันแล้วยังเป็นการทำลายความมั่นใจของเด็ก ๆ ไปด้วยเช่นเดียวกัน เหมือนเรื่องราวของนักเรียนชายรายนี้ เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ลงในกลุ่มพร้อมกับระบุข้อความว่า
“อันนี้คือของเพื่อนเรานะคะ คือเพื่อนอยากเป็นทหารมากเค้าชอบพวกปืนมากๆเเบบความฝันเลยค่ะ ในรูปเเรกคือ ใบงานกรอกคณะเเละอาชีพต่างๆค่ะ เขียนที่เราชอบเลย เเล้วคือเพื่อนเราอยากเป็นทหารเเต่เค้าเองก็ไม่รู้ว่ามันต้องเเรกคณะอะไร ซึ่งคณะต้องคล้องจองกับอาชีพค่ะ เเบบจบคณะนี้เเล้วจะทำงานอะไร เพื่อนอยากเป็นทหาร แต่เค้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องเรียนคณะอะไรซึ่งก็เลยเขียนว่าภาษาศาสตร์ไปแล้วมันก็ผิดค่ะครูก็ให้แก้
แต่คือเราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องดูถูกความฝันของเพื่อนเราด้วยหรอคะ “ขอเป็นอาชีพในอนาคตที่มีโอกาสเป็นได้” คือแบบความฝันของเด็กคนหนึ่งมันจะไม่สามารถเป็นจริงได้เลยหรอคะเท่าที่เรารู้ (เเต่ไม่เเน่ใจนะคะ ) ต้องเป็นทหาร แล้วทางหน่วยจะคัดเลือกคนไปเอง/สอบ เเต่ทำไมต้องดูถูกความฝันเด็กคะ ครูพูดเเบบนี้ได้หรอคะ #หยุดดูถูกความฝันคนอื่น #ครูพูดเเบบนี้ได้หรอคะ” พร้อมกับโพสต์รูปภาพประกอบ
จากเรื่องราวดังกล่าวทำให้โลกโซลเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย พร้อมทั้งยกตัวอย่างของคนไทยหลายคนที่มีโอกาสและได้กลายเป็นทหารของอเมริกา และวิจารณ์ว่าว่าผู้ที่เป็นครูนั้นควรมีวิสัยทัศน์ที่กว้าง ไม่ควรดูถูกหรือเหยียดหยาม เพราะทุกคนล้วนมีความคิดและความฝันที่ไม่เหมือนกัน หากตนเองไม่ทราบก็สามารถหาข้อมูล