ฟรีดอมเฮาส์ (Freedom House) เป็นองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ดำเนินการวิจัยและสนับสนุนประชาธิปไตยเสรีภาพทางการเมืองและสิทธิมนุษยชน เป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นจากความเชื่อมั่นหลักที่ว่า เสรีภาพเจริญรุ่งเรืองในประเทศประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบต่อประชาชนของตน
ในปีนี้ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ ‘ไม่มีเสรีภาพ’ อย่างสมบูรณ์ ในรายงานของฟรีดอมเฮาส์ ที่ตีพิมพ์ในสหรัฐ เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งลดลงจาก ‘เสรีภาพบางส่วน’ จากเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา การเปลี่ยนสถานะในครั้งนี้เกิดขึ้น เนื่องจากมีการยุบพรรคฝ่ายค้านที่ได้รับความนิยมซึ่งทำผลงานได้ดีในการเลือกตั้งปี 2562 และการปราบปรามการประท้วงที่นำโดยเยาวชนซึ่งเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประชาธิปไตย ซึ่งทำโดยรัฐบาลที่มีอำนาจควบคุมทหาร
ทำให้คะแนนส่วนของ สิทธิทางการเมืองลดลงเหลือเพียง 5 คะแนน จาก 40 คะแนน ส่วนคะแนนของ สิทธิเสรีภาพลดลงเหลือ 25 จาก 60 คะแนน ส่งผลให้มีคะแนนรวมอยู่ที่ 30 คะแนน จาก 100 คะแนน และตกลงไปอยู่ในกลุ่มประเทศที่ไม่มีเสรีภาพ ลดลงจากเมื่อปี 2564 มา 2 คะแนน
ในรายงานได้กล่าวถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประเทศถูกลดระดับลงนั้นคือการปราบปรามการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยที่มีเป้าหมาย เพื่อโค่นล้มรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีทหารหนุนหลัง การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ และปฏิรูปสถาบัน
“การตอบสนองต่อการประท้วงที่นำโดยเยาวชน รัฐบาลใช้กลยุทธ์แบบเผด็จการที่คุ้นเคย รวมไปถึงการจับกุมโดยพลการ การข่มขู่ การตั้งข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและการคุกคามนักเคลื่อนไหว เสรีภาพของสื่อมวลชนถูกจำกัด กระบวนการที่เหมาะสมไม่ถูกใช้งาน และความไม่ยุติธรรมในการตัดสินอาชญากรรมที่กระทำต่อนักเคลื่อนไหว” รายงานระบุ
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ส่งผลให้ในปัจจุบันนั้นประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระดับเสรีภาพต่ำสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นรองก็เพียงประเทศเมียนมา กัมพูชา เวียดนาม และลาวเท่านั้น ทั้งนี้ประเทศในกลุ่มอาเซียน ที่ได้รับคะแนนเสรีภาพมากที่สุดได้แก่ประเทศอย่างมาเลเซีย และอินโดนีเซีย
Advertisement
ทั้งนี้ทางฟรีดอมเฮาส์ได้เผยแพร่รายงานที่ระบุว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมานั้นระบอบประชาธิปไตยทั่วโลกเผชิญกับภาวะถดถอยติดต่อกันเป็นปีที่ 15 ส่งผลให้มีเพียงประชากรโลกไม่เกิน 20% เท่านั้นที่มีเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งจาก 195 ประเทศทั่วโลก มีประประเทศที่คะแนนประชาธิปไตยลดลงถึง 73 ประเทศ ในขณะที่ประเทศที่คะแนนประชาธิปไตยเพิ่มขึ้นมีเพียง 28 ประเทศเท่านั้น
ที่มา : freedomhouse