จากกรณีพบรถหรู จอดในช่องคนพิการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แม้ว่า รปภ. จะแจ้งเตือนว่า จอดไม่ได้แต่ก็ไม่สนใจ และจอดทิ้งไว้สองวัน ก่อนยอมเสียค่าปรับ 500 บาทนั้น
นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว ว่า ทางสนามบินได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวพบว่าชายคนดังกล่าวขับรถเข้ามายังลานจอดรถสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 14.00น. ของวันที่ 8 มี.ค. 64 เมื่อถึงบริเวณจอดรถผู้พิการ ชายคนดังกล่าวจอดรถและเดินเข้ามายกเครื่องกั้นออก เพื่อนำรถคันดังกล่าวเข้ามาจอดทั้งที่มีป้ายเตือนห้ามจอด
ภายหลังจากจอดรถเสร็จชายคนดังกล่าวได้เดินเข้าไปยังทางเชื่อมเพื่อเข้าอาคารจอดรถ พนักงานรักษาความปลอดภัยได้เข้ามาแจ้งว่าห้ามจอดรถบริเวณดังกล่าว แต่ชายคนดังกล่าวไม่สนใจ ทำให้เจ้าหน้าจำเป็นที่ต้องดำเนินคดีตามตามระเบียบ โดยได้เขียนใบสั่งติดไว้หน้ารถคันดังกล่าว
โดยชายคนดังกล่าวจอดรถทิ้งไว้บริเวณที่จอดรถผู้พิการรวม 2 คันคือคืนวันที่ 8-9มี.ค. และเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 มี.ค. ชายคนดังกล่าวได้เดินกลับมาที่รถ เห็นใบสั่งจึงนำ ใบสั่งใบเสียค่าปรับจำนวน 500 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ทำการปลดล็อคล้อให้ เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ได้ขับรถออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ
“ปัญหานี้เป็นเรื่องของคนที่ไร้จิตสำนึก กรณีแบบนี้ไม่ใช่เคสแรกที่เกิดขึ้น เคส แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากๆ ไม่ว่าจะเป็นรถหรู หรือไม่หรู หลายคนที่ไม่เคารพกฎกติกาอาจจะมองว่า ค่าปรับไม่แพงยอมเสียแค่ 500 บาท ก็จอดได้แล้ว จึงฝ่าฝืนกฎหมาย ดังนั้น เพื่อให้คนที่ไร้จิตสำนึกพวกนี้เข็ดหลาบ สนามบินเตรียมที่ปรับเพิ่มโทษ โดยหากฝ่าฝืนจอดในที่ห้ามจอด เช่น จอดทับที่ผู้พิการ จะถูกปรับ 1 หมื่นบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับแก้ไขโทษคาดว่าจะบังคับใช้ได้เร็วๆนี้”
