ชูวิทย์ ฝากถึงเรือนจำ หยุดเถอะ ชี้ปกติคนเสียชีวิต ยังต้องรอยันเช้าถึงเปิดคุก อัดสิ่งที่ทำมันผิดวิสัย เรือนจำทุกที่ล้วนไม่ใช่พื้นที่เสี่ยง
จากกรณี นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และแกนนำคณะราษฎร ออกมาเปิดเผยผ่านจดหมายว่า มีเจ้าหน้าที่พยายามนำตัวผู้ต้องหากลุ่มคณะราษฎรออกจากเรือนจำกลางดึกถึง 4 ครั้ง โดยอ้างว่าจะนำตัวไปตรวจหา โควิด-19 ท่ามกลางข่าวลือว่าจะมีการทำร้ายหมายเอาชีวิต
ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองคนดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้น ในหัวข้อ “เรื่องแปลกแต่จริงในเรือนจำ” โดยมีใจความดังนี้
ในฐานะเป็นศิษย์เก่าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ จึงขอชี้แจงแถลงไขให้สาธารณชนเข้าใจแบบตรงไปตรงมา อย่างที่เคยเขียนไว้ในหนังสือ “เหลี่ยมคุก” ไม่ใช่พูดโดยไม่รู้ หรือเข้าข้างกัน
1. พวกไม่ได้ประกันตัว มีสถานะว่า ข.ช. หรือขังชาย (หากเป็นหญิง ข.ญ. หรือขังหญิง) พวกนี้คือแบบเพนกวินและพวก ที่มีสถานะ ข.ช. ซึ่งถือว่ายังต่อสู้คดีอยู่ ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าผิดหรือถูก แต่ถูกเอาไปขังรวมกับพวก น.ช. (นักโทษเด็ดขาดชาย) ที่คดีสิ้นสุดแล้ว การไปขังรวมกันทำให้ต้องใช้ชีวิตร่วมกัน ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย และสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
2. หลังปิดขังตั้งแต่บ่าย 3 ถึง 6 โมงเช้า 15 ชั่วโมง เหมือนอยู่ในกรงขังที่ถูกปิด ไม่ว่าจะไม่สบาย หรือตาย จะไม่มีทางเปิดห้องขังจนกว่าจะเช้า ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้คุม หากตายก็ทิ้งไว้อย่างนั้น คนข้าง ๆ ต้องนอนข้างศพยันเช้า
3. ที่บรรดา 3 นิ้ว ย้ายจากเรือนจำพิเศษธนบุรี มาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ จะต้องถูกส่งตัวไปแดน 2 โดยทันทีเพื่อกักตัว เหมือนคนอื่นที่เข้าคุกมาใหม่ แม้แต่เยี่ยมญาติก็ทำไม่ได้ หรือจะพบทนายก็ต้องผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์เท่านั้น
แต่เที่ยวเข้าไปเอาตัวถึงในห้องขังตอนดึก แล้วอ้างว่าเพราะมาจากเรือนจำพิเศษธนบุรี จึงต้องตรวจโควิดกันตอนดึก ๆ ดื่น ๆ มันผิดวิสัย เรือนจำทุกที่ล้วนไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงแต่อย่างใด ทำอะไรพิลึก ทั้งที่รู้อยู่ว่าบรรดา 3 นิ้ว เป็นนักโทษการเมือง เพนกวินและพวกเขาธรรมดาที่ไหน
พวกนี้เป็นของแสลงในคุก หากเป็นอะไรไป คนเดือดร้อน คือผู้บัญชาการเรือนจำ กฤช กระแสร์ทิพย์ ต้องรับผิดชอบ อย่าไปทำเรื่องแปลก ๆ เลยครับ เดี๋ยวเขาจะหาว่ากลั่นแกล้งกัน