นายกฯ ประเดิมรายการศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืน ‘บิ๊กป๊อก’สั่ง‘อัศวิน’ แก้ปัญหาเร่งด่วนให้คนกรุง ผู้ว่าฯ ‘อำนวย-จักกพันธุ์-ทวีศักดิ์-วรรณวิไล’ เฟ้น 14 กุนซือมืออาชีพ ‘อำนวย’ลั่นนั่งควบสปท. โฆษกกรธ.ยันไม่ยื้อร่างกฎหมายลูก ถ้าเสร็จส่งสนช.ทันที พ.ย.นี้จัดสัมมนาสมาชิกพรรค การเมือง ฟังความเห็นร่างกฎหมายกกต.-ที่มาส.ว. แย้มรีเซ็ตสมาชิกพรรค ลดได้เปรียบเสียเปรียบ คลังส่งหนังสือถึงบ้าน‘ยิ่งลักษณ์’ แล้ว ให้ชดใช้ค่าเสียหายคดีข้าว 3.5 หมื่นล้าน
‘บิ๊กตู่’ประเดิมรายการใหม่
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้สั่งการให้มีการปรับรูปแบบและเปลี่ยนชื่อรายการ“คืนความสุขให้คนในชาติ” ที่ออกอากาศทุกคืนวันศุกร์ มาเป็นรายการ“ศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติอย่างยั่งยืน” ภาษาอังกฤษใช้ว่า “SEP to SDG” ออกอากาศทุกวันศุกร์เวลา 20.15 น.เหมือนเดิม และออกอากาศซ้ำในวันเสาร์เช้าทางททบ. 5 mcot และเอ็นบีที
ส่วนวันศุกร์ที่ 21 ต.ค. ออกอากาศครั้งแรก หลังการถ่ายทอดสดพระราชพิธี ในขั้นต้นคาดว่าประมาณ 22.00 น. โดยพล.อ. ประยุทธ์จะใช้เวลาพูดประมาณ 20 นาที เนื้อหาทั้งหมดจะเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ โครงการต่างๆ ตามแนวพระราชดำริ โดยจะออกอากาศหลังพระราชพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
กรธ.จ่อสัมมนากม.ลูก 2 ฉบับ
ที่รัฐสภา นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) กล่าวถึงการรับฟังความเห็นต่อการจัดทำร่างกฎหมายลูก 4 ฉบับสำคัญว่า กำหนดการจัดเวทีรับฟังความเห็นในพื้นที่แต่ละภูมิภาค 4 จังหวัด จะเลื่อนออกไปก่อน ส่วนการจัดสัมมนาเพื่อ รับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองของอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ ที่มีนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ เป็นประธาน คาดว่าจะมีการ จัดสัมมนาเพื่อรับฟังความเห็นร่างพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูกอีก 2 ฉบับคือ กฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ในเดือนพ.ย.นี้ โดยอนุกรรมการจะส่งจดหมายเชิญไปยังพรรคการเมือง แต่จะเชิญในฐานะสมาชิก จะได้ไม่ต้องติดขัดว่า ต้องประชุมหามติพรรคเพื่อส่งตัวแทนมาร่วมแสดงความเห็น จะได้ทำให้พรรคการเมืองมามีส่วนร่วม
ส่วนข้อเรียกร้องจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) อยากให้ กรธ.ส่งกฎหมายลูกที่เสร็จแล้วมาพิจารณาเบื้องต้นก่อนนั้น เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา หากเราพร้อม ก็ไม่ได้หวงอะไร ยังไงก็เป็นแม่น้ำสายเดียวกัน เข้าใจว่า สนช.ต้องการเตรียมตัว เพราะมีเวลาพิจารณากฎหมายลูกฉบับละ 60 วัน
เล็งรีเซ็ตสมาชิกพรรค
นายนรชิตกล่าวว่า สำหรับการจัดทำร่างกฎหมายลูกนั้น อนุกรรมการชุดที่รับผิดชอบจะนำความเห็นที่ได้จากสัมมนามาประกอบ เพื่อทำเป็นตัวร่างนำเสนอต่อที่ประชุมกรธ. เช่น การรับฟังความเห็นเรื่องกฎหมายพรรคการเมือง ก็มีเสียงสะท้อนจากพรรคเล็กออกมาว่า การหาสมาชิกพรรคทำได้ลำบาก เนื่องจากพรรคการเมืองที่จดทะเบียนก่อนมีกฎหมายพรรคการเมืองปี 2550 สามารถคัดชื่อประชาชนจากทะเบียนบ้านมาใส่ได้เลย
แต่พรรคการเมืองที่จดทะเบียนหลังจากนั้น หาสมาชิกยาก มีเกณฑ์เยอะ สมาชิกพรรคต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคอื่น หากจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคใหม่ ต้องลาออกจากพรรคเดิม แต่ติดปัญหาที่พรรคเดิมไม่ให้ลาออก จึงมีข้อเสนอให้ล้างใหม่ การสมัครสมาชิกใหม่ต้องสามารถทำได้ทันที แล้วให้ประชาชนส่งจดหมายไปลาออกจากสมาชิกพรรคเก่า ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ต้องมี นี่คือเหตุผลที่กฎหมายพรรคการเมืองต้องเสร็จเร็ว เพราะมีสิ่งที่พรรคต้องรับผิดชอบไปดำเนินการเหมือนกฎหมายกกต.ที่จะต้องมีการสรรหากกต.เพิ่ม
นอกจากนี้ จะร่วมมือกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ เพื่อทำโพลสอบถามความเห็นประชาชน ในประเด็นที่ยังต้องการความชัดเจน เช่น สมาชิกพรรคจำเป็นต้องเสียค่าบำรุงหรือไม่ เนื่องจาก กกต.เสนอให้เก็บคนละ 200 บาทขึ้นไป ด้านสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) มองว่าไม่ควรเกิน 200 บาท แต่พรรคเล็กมองว่า ไม่ต้องเก็บ เพราะลำพังแค่หาสมาชิกอย่างเดียวก็ยากแล้ว จึงต้องหาข้อสรุปโดยการสอบถามประชาชน
มท.1มอบนโยบายผู้ว่าฯกทม.
หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยมาตรา 44 มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และให้พล.ต.อ.อัศวิน คัดเลือกรองผู้ว่าฯ กทม. 4 คน เพื่อเข้าร่วมเป็นทีมบริหาร กทม.นั้น
ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มอบนโยบายให้กับพล.ต.อ.อัศวินอย่างเป็นทางการ ขอรอให้ผ่านพ้นงานพระราชพิธีพระบรมศพให้เรียบร้อยก่อน อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ได้มีโอกาสเจออยู่ 2-3 ครั้ง เลยมอบนโยบายให้เร่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วนให้คนกรุงเทพฯ ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ เช่น เรื่องการระบายน้ำกรณีเกิดน้ำท่วมขัง การแก้ไขปัญหาการจราจร การแก้ปัญหาน้ำเสีย ความสะอาดและการจัดระเบียบต่างๆ เป็นต้น รวมถึงการใช้งบประมาณของ กทม.ต้องโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการและเพื่อประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ส่วนการทำงานของ 50 สำนักงานเขตต้องมีความเป็นเอกภาพ เป็นทีมเวิร์ก ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวินบอกว่าจะทำงานเพื่อคนกรุงเทพฯ อย่างเต็มที่ ซึ่งตนมองว่า พล.ต.อ.อัศวินเป็นคนอะเลิร์ต (ตื่นตัว)ดี
นายกฯไฟเขียว 4 รองผู้ว่าฯ
ที่บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า ล่าสุด นายกฯมีมติเห็นชอบให้ 1.พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน สมาชิกสปท.และอดีตผบช.ภ.1 2.นายจักรพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองปลัดกทม. 3.นางวรรณวิไล พรหมลักขโณ อดีตสมาชิกสภากทม. อดีตรองปลัดกทม. และ 4.นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ อดีตผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) เป็นรองผู้ว่าฯกทม. และให้ น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ เป็นโฆษก กทม.
นอกจากนี้ยังได้เชิญนายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เป็นที่ปรึกษา ดูแลด้านการบริหารจัดการน้ำและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกทม. นายธรรมรัตน์ หวั่งหลี ดูแลในด้านต่างประเทศ และนายประภัสสร์ วังศกาญจน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดูแลด้านการก่อสร้างอุโมงค์และสะพานในพื้นที่กรุงเทพฯ และจะทาบทามอดีตทูต ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ด้านการศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมในด้านต่างๆ
ขณะเดียวกันได้ประสาน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) มาร่วมกันแก้ไขและดูแลปัญหาสังคม โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬและการแก้ไขปัญหาคลองลาดพร้าว โดยการแก้ไขปัญหานั้นจะยึดหลักรัฐศาสตร์มากกว่านิติศาสตร์
เฟ้นทีมที่ปรึกษาเอง
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า เหตุผลที่เลือกทีมรองผู้ว่าฯกทม.และที่ปรึกษากทม.ที่กล่าวมานั้น เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญในการดูแลและประสานงานคนในพื้นที่กทม.ได้ โดยเลือกผู้ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในด้านต่างๆ อาทิ พล.ต.ท.อำนวย เนื่องจากเห็นฝีมือจากการทำงานตั้งแต่ตอนที่รับราชการตำรวจมาด้วยกัน ซึ่งจะให้ดูแลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาด้านการจราจรภายในพื้นที่กทม. รวมทั้งทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจรจากับผู้ค้าในพื้นที่กทม. ส่วนนายจักรพันธุ์นั้น เห็นถึงความสามารถในการทำงานและเชื่อว่าจะทำงานได้ดี ส่วนนางวรรณวิไลนั้น ด้วยประสบการณ์และความสามารถจะสามารถทำงานและแก้ไขปัญหาในกทม.ได้ดี
ส่วนการเชิญนายรอยลมาเป็นทีมที่ปรึกษากทม.นั้น ได้เล็งเห็นถึงความสามารถในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วม อีกทั้งประชาชนยังให้ความเชื่อมั่นว่านายรอยลจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมได้ดี สำหรับนายประภัสสร์นั้น ด้วยตำแหน่งทางวิชาการจะสามารถนำความรู้มาช่วยดูแลและแก้ไขปัญหาในด้านการก่อสร้างอุโมงค์ ถนน และสะพานในพื้นที่กทม. ส่วนนายธรรมรัตน์เป็นผู้ที่มีความรู้ในด้านการต่างประเทศ จะให้มาดูแลทางด้านการต่างประเทศโดยเฉพาะ
ยันทำงานเป็นเนื้อเดียวกัน
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ทีมที่ปรึกษา 14 ตำแหน่งนั้นยังไม่ลงตัว จะทยอยแต่งตั้งต่อไป ซึ่งขณะนี้เตรียมห้องทำงานของรองผู้ว่าฯกทม.แล้ว ส่วนลำดับตำแหน่งนั้นคงยึดความอาวุโส สำหรับแนวทางการทำงานนั้น ตนขึ้นตรงต่อนายกฯ และนายกฯมอบอำนาจการทำงานและการตัดสินใจเรื่องการทำงานต่างๆ ให้ตนดูแลเอง จึงไม่มีความกังวลใดๆ ส่วนนโยบายการทำงานนั้น เนื่องจากอยู่ในช่วงภารกิจพิเศษเรื่องงานพระบรมศพ ตนจึงเน้นการจัดการเรื่องงานสนับสนุนพระราชพิธี และการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาร่วมงานเป็นหลักก่อน ส่วน งานอื่นๆ คงทำตามปกติเหมือนที่ทำมา ส่วนเรื่องฝนตกน้ำท่วมนั้น ช่วงนี้ไม่น่าห่วง น่าจะไม่มีปัญหา
ส่วนการแต่งตั้งข้าราชการประจำในระดับรองปลัดกทม.นั้น จะให้ปลัดกทม.พิจารณาก่อนนำมาเสนอตน โดยตนจะคัดเลือกเอง ยึดความอาวุโสและความเป็นธรรม ก่อนจะเสนอรายชื่อให้นายกฯพิจารณาเพื่อแต่งตั้งต่อไป จากนี้การทำงานระหว่างฝ่าย ผู้บริหาร ข้าราชการฝ่ายประจำ และสภากทม. จะทำงานร่วมกันเป็นเนื้อเดียวกันอย่างแน่นอนและตลอดไป จะไม่มีการแบ่งแยกกันทำงานเพื่อให้งานราบรื่น
‘อำนวย’พร้อมควบ 2 เก้าอี้
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.คาดว่ายังมี อาทิ นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ อดีตที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม.และโฆษกกทม. นายยุทธพันธุ์ มีชัย ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. นายสมชัย ไตรพิทยากุล อดีต ผู้อำนวยการเขตพระนคร นายโสภณ โพธิสป อดีตผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโม สมาชิกสปท. ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กรณีมีชื่อเป็น 1 ใน 4 รองผู้ว่าฯกทม.ว่า ตนไม่ทราบ และยังไม่เชื่อ หากข่าวดังกล่าวพล.ต.อ.อัศวินเป็น ผู้ระบุ ตนจึงจะให้รายละเอียดได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีได้รับการเสนอชื่อจะลาออกจากสปท.หรือไม่ พล.ต.ท.อำนวยกล่าวว่าไม่เกี่ยวกัน จะลาออกทำไม กฎหมายไม่ได้ห้าม ตอนที่พล.ต.อ.อัศวินเป็นรอง ผู้ว่าฯกทม. ก็ยังเป็นสปท.ได้เลย เมื่อถามว่าได้คุยกับพล.ต.อ.อัศวินถึงตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. มาก่อนหรือไม่ พล.ต.ท.อำนวยปฏิเสธที่จะตอบคำถามและได้ตัดสายสนทนาทันที
คลังร่อนนส.ให้‘ปู’จ่ายค่าข้าว
รายงานข่าวจากระทรวงการคลังเปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง และนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ลงนามเอกสารคำสั่งทางปกครองแทนนายกฯ และ รมว.คลัง เกี่ยวกับการชดใช้ค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้จัดส่งเอกสารลงทะเบียนดังกล่าวถึงบ้านน.ส. ยิ่งลักษณ์เรียบร้อยแล้ว
สาระสำคัญของคำสั่งดังกล่าวเป็นการชี้แจงข้อกล่าวหาและความเสียหายที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าว ที่คณะกรรมการพิจารณาความผิดทางละเมิดมีมติให้น.ส. ยิ่งลักษณ์ต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่กระทรวงการคลังเป็นเงิน 35,717,273,028 ล้านบาท ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งนี้ หากเกินกำหนดเวลาดังกล่าวแล้วกระทรวงการคลังจะดำเนินมาตรการทางปกครองตามมาตรา 57 แห่งพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติทางปกครอง พ.ศ.2539 ต่อไป อย่างไรก็ตาม หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว สามารถฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้ภายใน 90 วันนับแต่วันรับคำสั่งดังกล่าว
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ากระทรวงการคลังลงนามหรือยัง เพราะเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องรายงานรัฐบาล และหาก รมช.คลังลงนามตามที่เป็นข่าวจริง ระหว่างที่รมว.คลังไปต่างประเทศ รมช.คลังก็ถือว่าทำหน้าที่เปรียบเสมือน รมว.คลังอยู่แล้ว
