“ไอซ์” จูงมือแม่”น้ำ” เข้าไหว้ปู่ และกราบศพ”โจ บอยสเก๊าท์”ยืนยันความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก โชว์รูปคู่กับพ่อยันเป็นลูกชายนักร้องดัง เป็นรูปเดียวที่ถ่ายกับพ่อตอนอายุ 4 ขวบ แม่เป็นคนถ่ายให้ จะเก็บรูปนี้ไว้ดูตลอด ด้านพ่อนักร้องหนุ่มดีใจได้เจออดีตภรรยาลูกชายและหลาน ไม่ติดใจใดๆ “ต๊ะ บอยสเก๊าท์”ร่ำไห้เคารพศพ ยังทำใจไม่ได้ คบกันมา 28 ปี เผยเหตุไม่กล้าปั๊มหัวใจเพราะเคยประสบเหตุการณ์แล้วมีคนเสียชีวิต เผยโจห่วงพ่อเพราะรู้สึกว่ายังดูแลพ่อได้ไม่ดี เคยบอกอยากซื้อนาฬิกาข้อมือราโดให้พ่อ ส่วนแม่และพี่ชายเสียไปแล้ว ยอมรับไอซ์เป็นลูกชายจริง โจเคยบอกไว้ แฟนสาวต๊ะเผยมีลางสังหรณ์ ก่อนหน้านี้โจเคยเล่าหมอดูทักให้บวช ไม่เช่นนั้นจะตาย จึงบวชอีกครั้งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว คนบันเทิงรุดร่วมงานสวดอภิธรรมคืนที่สองท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า


วันที่ 12 พ.ย. ที่วัดสายไหม จ.ปทุมธานี มีพิธีสวดพระอภิธรรมนายธนัท หรือชื่อเดิม ธเนศ ฉิมท้วม ที่รู้จักในนาม “โจ บอยสเก๊าท์” นักร้องบอยแบนด์ชื่อดัง ยุค 90 วัย 44 ปี หลังล้มลงหมดสติขณะเล่นคอนเสิร์ตในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ซึ่งเกิดจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว อาจเกิดจากเลือดเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ จนทำให้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยในพิธีรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมคืนแรก มีชายหนุ่ม ชื่อไอซ์ โชคชัย อุชชิน วัย 27 ปี เดินทางมาร่วมงานและกราบศพโจ พร้อมบอกว่าตนเป็นลูกชายของนักร้องผู้ล่วงลับสมัยทำงานบาร์เทนเดอร์ ก่อนเข้าวงการ กับคุณแม่ นางนันทิยา อุชชิน ชื่อเล่น “น้ำ” ก่อนจะเกิดกระแสวิพากษ์วิจารน์ว่าแอบอ้าง ซึ่งนายสัมฤทธิ์ ฉิมท้วม และนางฉัตรทอง ชัยวิชิต คุณพ่อและคุณแม่บุญธรรมของนักร้องหนุ่มผู้ล่วงลับ ยังไม่ทราบเรื่องที่ลูกชายของตัวเองเคยมีลูกมาก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นมีการเผยแพร่ภาพโจ บอยสเก๊าท์ กำลังอุ้มและโอบกอดน้องไอซ์ ลูกชายไว้ในอ้อมแขน นายโชคชัย ยอมรับว่าเป็นภาพที่ถ่ายรูปกับคุณพ่อที่กองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี ตอนนั้นตนอายุ 4 ขวบ เป็นรูปเดียวที่ได้ถ่ายกับคุณพ่อ คุณแม่เป็นคนถ่ายให้ จะเก็บรูปนี้ไว้ดูตลอด พร้อมเผยด้วยว่า ตนมีน้องสาวอีกหนึ่งคน แต่คนละพ่อ ชื่อว่า นัทจัง-ชนัทดา อุชชิน อายุห่างกัน 3 ปี หลังเลิกกับคุณพ่อโจ คุณแม่ก็ไปมีสามีใหม่ แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้อยู่กับสามีใหม่แล้ว

วันเดียวกัน ที่ศาลาช้างเย็นฉ่ำ วัดสายไหม นายวินรวีร์ ใหญ่เสมอ หรือ ต๊ะ บอยสเก๊าท์ สมาชิกวงบอยสเก๊าท์ วัย 44 ปี พร้อมแฟนสาว บุ๋ม มินตยา เพ็ชรวารา เดินทางมากราบศพเพื่อนสนิท “โจ บอยสเก๊าท์” พร้อมร่ำไห้ หลังเคารพศพ ต๊ะ บอยสเก๊าท์ ให้สัมภาษณ์ว่า “วันนี้ผมมา บอกเขาว่ากลับมาแล้วนะ เพราะตั้งแต่วันงานผมต้องไปธุระที่พิษณุโลก ตอนเข้าไปกราบศพก็รู้สึกไม่โอเค จริงๆ ทำใจไม่ได้ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง เขาเป็นบัดดี้ของผมมา 27-28 ปี หลับตาก็มีแต่เรื่องเขา ผมก็เลยนอนไม่หลับ ผมอยู่ในเหตุการณ์แต่ช่วยได้แค่ง้างปาก เพราะโจกัดปากเกร็งไปหมด ไม่กล้าช่วยทำซีพีอาร์ เพราะผมเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วกับคนรู้จัก และผมเคยช่วยทำซีพีอาร์ แต่ปรากฏว่าเขาเสียชีวิต ผมเลยไม่กล้า เพราะไม่รู้ว่าเขาเสียเพราะผมทำไม่ถูกหรือเปล่า ในตอนนั้นในร้านมีคนที่เป็นหมอ ผมก็ฝากความหวังไว้ที่เขา ก่อนหน้านี้โจไม่เคยมีอาการอะไรเลย จะมีก็แค่โรคกระเพาะที่นานๆ เป็นที”

ส่วนกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่มีหมอดูทักว่าโจต้องบวชไม่เช่นนั้นจะตาย บุ๋ม มินตยา แฟนสาวต๊ะ กล่าวว่า “เขาเล่าเอง ตอนนั้นเขาเลยต้องบวชอีกครั้งเพราะมีหมอดูทักว่าถ้าไม่บวชจะมีอันเป็นไปถึงชีวิต หลังจากที่บวชก็ 3 ปีแล้ว เหมือนต่ออายุให้เขา แต่ช่วงหลังเขาผอมไปเยอะเรารู้สึกได้ และก่อนหน้านี้บุ๋มมีลางสังหรณ์ ระหว่างไปกินข้าวกัน เดินข้ามถนน บุ๋มหันไปคุยกับพี่โจว่าเรารู้จักกันมา 13 ปีแล้ว เป็นพี่น้องกัน ต่อไปนี้ไม่ว่าจะทำอะไรให้มีบุ๋มอยู่ด้วย และก่อนหน้าวันเกิดเรื่องเรารู้สึกคิดถึงเขามาก ยังส่งข้อความชวนเขาไปสนามหลวงเพื่อไหว้ในหลวง แต่เขาไม่ว่างเลยเจออีกทีวันคอนเสิร์ตเลย”

ต๊ะ บอยสเก๊าท์ กล่าวต่อว่าก่อนหน้านี้พยายามชวนเขาเล่นเวต ซื้อดัมเบลล์มาไว้ที่ห้อง เตรียมเล่นก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ เพราะไม่มีลางบอกเหตุเลยว่าคืนนั้นจะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราคิดว่าต้องใส่ใจตัวเองมากขึ้น เวลาไม่ถึง 4-5 นาที ถ้าเราสามารถทำอะไรได้ เราคงไม่สูญเสียเขาไป ตอนพาเขาไปส่งโรงพยาบาลเราก็ไม่เชื่อว่าเขาจะไปแล้ว ยังพูดกับบุ๋มเลยว่าไม่ใช่ โจค่อนข้างห่วงพ่อ เพราะเขาไม่ค่อยได้ใกล้ชิดพ่อ ส่วนคุณแม่และพี่ชายเสียไปแล้ว เขารู้สึกว่ายังดูแลพ่อได้ไม่ดีเท่าที่ต้องการ ตนกับเพื่อนๆ กำลังมองอยู่ว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง โจเคยบอกว่าอยากซื้อนาฬิกา ข้อมือราโดให้พ่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้เรื่องน้องไอซ์ ลูกชายของโจมาก่อนหรือเปล่า ต๊ะกล่าวว่า “เคยทราบครับ เคยพูดให้ฟัง เคยเล่าให้ฟังว่าเคยมีประสบการณ์ตั้งแต่เด็กๆ ตอนที่ยังไม่เข้าวงการก็เคยมีแฟนแล้วมีลูกกัน ครั้งสุดท้ายที่ได้ฟังเรื่องนี้ก็คือ เมื่อไม่นานมานี้เขาไปนัดเจอกับลูกชาย กินข้าวกันแล้วก็โตแล้ว แค่นั้นครับ แต่โจไม่ได้พูดถึงลูกชายบ่อยครับ ลูกโจจริงๆ”

“มีเรื่องอยู่นิดหนึ่ง วันที่เกิดเหตุการณ์นี้ คือหมอต้องการคนที่เป็นญาติจริงๆ เพื่อ ตัดสินใจเกี่ยวกับความเป็นความตาย เราไม่ใช่ญาติ เราก็ต้องหา ทีนี้ผมก็ลืมไปว่าโจมีพี่ นกน้อย (ลูกพี่ลูกน้อง) ผมลืมไป แต่ตอนนั้นเพื่อนในกลุ่มก็พยายามคิดทำอย่างไรดี ลงคลิป ส่งข้อความ จนมีคนหนึ่งเอะใจขึ้นมาว่าเคยเห็นโจคุยกับลูกในเฟซบุ๊ก คนนั้นก็เลยต่อสายไปถึงน้อง แล้วพี่ปราบต์ปฎลเป็น คนคุย เขาก็แจ้งว่าน้องชื่อนี้ใช่ไหม เขาก็คุย ถามว่าเป็นลูกโจใช่ไหม เขาก็ตอบว่าใช่ แต่ทีนี้พี่ปราบเขาบอกว่าตอนนี้พ่อโคม่าอยู่ไอซียู อยากให้มาดูพ่อหน่อย บ้านอยู่แถวไหน เขาบอกบ้านอยู่แถวม.ธุรกิจบัณฑิตย์ แล้วมาโรงพยาบาลลาดพร้าวได้ไหม เขาบอกมาไม่ได้ ไม่ว่าง จะว่างอีกทีวันอาทิตย์ แล้วเมื่อวานก็มีข่าว คือตอนแรกยังไม่บอกว่าโจเสีย แบบว่าปฏิสัมพันธ์ไม่ตอบรับ พ่อจะตายแล้วแต่ไม่มีความรู้สึกนั้น มีแต่ความเย็นชาจนพี่ปราบไม่ไหวแล้ว เลยบอกว่าตอนนี้พ่อตายแล้วจะมาดูไหม เขาก็บอกว่าไม่ว่างจนถึงวันอาทิตย์ แล้วผมก็เห็นข่าวเมื่อวานนี้ เพื่อนส่งมาให้ดูว่ามี อาการดราม่าอะไรแบบนี้ คือผมไม่ติดใจเรื่องน้องเป็นลูก เพราะว่าเป็นลูกได้ ลูกมาไหว้พ่อ แต่การสำนึกบุญคุณพ่อก็ต้องเข้าไปหาปู่ก่อน ก็ต้องบอกกับปู่ บอกป้า บอกน้าว่าตนเอง คือลูกของโจ ไม่ใช่บอกนักข่าว ความรัก พ่อความสนิทชิดเชื้อกันอาจไม่ค่อยมีมาก แต่เราไม่ได้โทษเพราะว่าอย่างไรก็คือลูกชาย เพื่อนเรา คือหลานเรา” ต๊ะ บอยสเก๊าท์กล่าว

จากนั้นเวลา 19.10 น. นายโชคชัย อุชชิน หรือ ไอซ์ ลูกชายนักร้องหนุ่ม โจ บอยสเก๊าท์ เดินทางมาถึงวัดพร้อมคุณแม่ นางนันทิยา อุชชิน หรือ น้ำ อดีตภรรยานักร้องหนุ่มซึ่งเดินทางมาจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งคู่เดินเข้าไปในศาลาที่ตั้งสวดอภิธรรมโจ บอยสเก๊าท์ โดยไอซ์พร้อมนางนันทิยาเข้าไปสวัสดีคุณปู่ หรือนายสัมฤทธิ์ ฉิมท้วม คุณพ่อของโจ ทันที หลังเสร็จสิ้นพิธีสวดอภิธรรมไอซ์ พร้อมคุณแม่เข้าไปนั่งพูดคุยกับปู่

นายโชคชัยให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกเสียใจมากตอนที่เพื่อนคุณพ่อโทร.มาบอกว่าคุณพ่อเข้าร.พ. ในตอนนั้นไม่ทราบจริงๆ ว่าคุณพ่อป่วยหนักขนาดไหน จึงไม่ได้ไปเยี่ยมคุณพ่อทันทีในวันนั้น ส่วนเมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) ก็ยังไม่ทราบจริงๆ ว่าต้องทำตัวอย่างไรกับการที่ต้องมาเจอญาติๆ และคุณปู่เป็นครั้งแรก แต่ในวันนี้ตนและคุณแม่ได้มาเจอญาติๆ พร้อมทั้ง คุณปู่ รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้คุยกันในหลายเรื่อง ทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น

ขณะที่นางนันทิยาเปิดเผยว่าตนไม่ได้เลิกด้วยการโกรธกัน แม้เราจะมีลูกกันตั้งแต่อายุ 17 ปี ต่างคนต่างมีชีวิต ไม่ใช่ว่าโจไม่รับผิดชอบ ส่วนสาเหตุที่ไม่มีใครทราบมาตลอด 27 ปี เพราะคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกใคร ในวันนี้ตนและลูกชายได้มาขอโทษคุณปู่แล้ว ตนกับโจเคยคุยกันเข้าใจแล้วว่าเราต้องช่วยเหลือ ตัวเอง จึงไม่ได้บอกทางบ้านของโจ

“ในช่วงที่โจมีชีวิตอยู่ มีปัญหาอะไรเราก็โทร.หาโจนะ เพราะเราก็มีเบอร์ อาจจะขาดช่วงไปตอนที่ไปต่างประเทศ ซึ่งโจก็ไม่ได้บกพร่องในหน้าที่ความเป็นพ่อ เพราะโจก็มาหาลูกบ้าง พาลูกไปกินข้าวบ้าง เรื่องนี้เป็นเพราะกระแสสังคมมากกว่าที่ทำให้มองโจ ไม่ดี” นางนันทิยากล่าว

ด้านนายสัมฤทธิ์ พ่อของโจ บอยสเก๊าท์ เผยว่าได้พูดคุยและปรับความเข้าใจกับทั้ง 2 คนแล้ว ตนก็เข้าใจมากขึ้น และดีใจมากที่ได้เจอทั้ง 2 คน เหตุการณ์เมื่อวานนี้ตนอาจจะตกใจ เพราะมีเหตุการณ์ใหญ่ถึง 2 เหตุการณ์ ในขณะนี้ตนไม่ติดใจเรื่องอะไรแล้ว ดีใจมากกว่าที่ได้เจอทั้ง 2 คน

จากนั้นต๊ะ บอยสเก๊าท์ เปิดใจอีกครั้งว่า ไม่ติดใจเพราะอย่างไรเขาก็เป็นหลาน การ ที่ไอซ์บอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็พอเข้าใจ ได้ เพราะอาจจะคิดไม่ทัน ตนไม่อยาก โกรธเด็ก

ทางด้านนักแสดงหนุ่ม ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง กล่าวว่าโจไม่ได้มีสมบัติอะไร มีแต่ความน่ารัก และวันหนึ่งมีลูกโผล่มาก็เป็นเรื่องน่ายินดี เรารักโจเหมือนกัน ถือว่าเขาจบความสวยงามกับอาชีพที่เขารักแล้ว ไอซ์ถือว่าเป็นลูกโจ อะไรที่ดูแลกันได้ก็ดูแลไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในงานสวดอภิธรรมคืนที่สอง เป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยนางเทพี โตสินธุ์ อายุ 69 ปี แม่ของโจ เดินทางมาร่วมงานด้วย พร้อมทั้ง บุคคล ในวงการ อาทิ เต้ นันทศัย พิศัลยบุตร, กอบสุข จารุจินดา, ลิฟท์ สุพจน์ จันทร์เจริญ, สุทธิพงษ์ วัฒนจัง หรือ ชมพู ฟรุตตี้, ป๋อง กพล ทองพลับ, เป้ ไฮร็อก, หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน