ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซัดเดือดรัฐบาล ใช้เบี้ยเซ่นโควิด ท้าเปิดข้อมูลไทยชนะ-ชี้ชัดคนใหญ่คนโตเที่ยวคริสตัลคลับ อย่ามัวแต่ตีกรรเชียงเอาตัวรอด พร่ำห่วงชื่อเสียงหน้าตาของรัฐบาลไปวันๆ

วันที่ 13 เม.ย.64 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและอดีตเจ้าของสถานบันเทิง โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดว่า รัฐบาลตีกรรเชียง เอาเบี้ยเซ่นโควิด พลันที่ทูตญี่ปุ่นก้มหัวขอโทษคนไทยว่าไปเที่ยว “คริสตัลคลับ” และติดเชื้อโควิด ขณะนี้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว ตรงไปตรงมาชัดเจน และยอมรับอย่างลูกผู้ชาย เรื่องทุกอย่างจบทันที

ขณะที่ท่าทีของผู้นำรัฐบาลไทยยังเป็นคนดี มีศีลธรรม แต่ทีมงานใกล้ชิด เบื้องหลังเป็นนกสองหัวบ้าง หน้าหม้อบ้าง ยักคิ้วหลิ่วตาบ้าง บรรยายสรรพคุณว่า ไม่เคยไปที่ “อโคจร” แต่กลับยอมให้ที่อโคจรอย่างคริสตัลคลับเปิดได้เสรี ไม่มีใบอนุญาต เป็นที่ประชุมหารือของเหล่าบรรดารัฐมนตรี นักการเมือง ตลอดจนแม้แต่ตำรวจก็ยังไปทำโพยโยกย้ายตำแหน่งกันที่นั่น หรือจะให้เรียกชื่อว่า “ปทุมวันคลับ” เข้าไปอีก?

ซ้ำรอยเดียวกับ “หลงจู๊สมชาย” เรื่องบ่อนระยองตัวการแพร่ระบาดครั้งก่อน ฝีมือเจ้ามือคนเดียวกัน แต่ครั้งนี้เปลี่ยนสถานที่ เกิดชัดๆ ที่อัครสถานใจกลางทองหล่อเมืองฟ้าอมร โดยคนเส้นใหญ่ ใกล้ชิดตำรวจใหญ่มากๆ อย่าง “ปาป้าอ๊อด”

ส่วนคนใหญ่คนโตเที่ยวนี้เรียงคิวติดกันหมดยันตำรวจ แต่ดันไม่มีใครสักคนมีแอพมาเปิดเผย ทั้งๆ ที่รัฐบาลย้ำนักย้ำหนาว่า ต้องโหลดแอพ “หมอชนะ” แอพ “ไทยชนะ” เพื่อจะได้รู้ไทม์ไลน์ว่าไปไหน ใครไม่โหลดมีสิทธิ์ติดคุก จนชาวบ้านโวยวาย แต่วันนี้จะให้บอกว่าไปเที่ยวคริสตัลคลับแบบทูตญี่ปุ่นคงไม่ได้ ต้องดัดจริตแต่งไทม์ไลน์ใหม่ให้มี “จรรยาเพศ” แทนที่จะยอมรับว่าไปเที่ยวมา และขอโทษสังคมแบบทูตญี่ปุ่น กลับมัวพัลวันปกป้องชื่อเสียง หน้าตา ภาพลักษณ์ของคณะรัฐบาลผู้ทรงเกียรติ ใครที่ไป ใครที่ติด ก็ดัดแปลงไทม์ไลน์กันยกใหญ่ ไม่มีใครรับสักคน แล้วย้ายแค่ระดับ ผู้กำกับ สารวัตรปราบปราม กับขังเด็กรับรถ 2 คน แลกกับความเดือดร้อนไปทั่วเหนือจรดใต้ มันคุ้มกับความเสียหายทั้งประเทศหรือไง?

รัฐบาลท่านจะเอากันอย่างนี้หรือ? แถมยัง “งก” วัคซีน เพิ่งงัวเงียตื่นแล้วละเมอบอกอย่างเดิม “ใส่หน้ากากตลอด ล้างมือบ่อยๆ ใช้เจลแอลกอฮอล์” ครั้งนี้หนัก เกินกว่าจะเอาแค่เบี้ยมาเซ่น จะหลอกชาวบ้านทั้งประเทศต่อไป หรือจะยอมรับความจริง และขอโทษประชาชน?

ส่วนรัฐบาลสะกิดตำรวจ ต้องเลิกเล่นละครเแกล้งหลงทางพรรคพวกกัน ทำนองเดียวกับ “หลงจู๊สมชาย” แต่เที่ยวนี้เป็น “ปาป้าอ๊อด” เดินเส้นทางไปอยู่ด้วยกัน รวมทั้งตำรวจระดับใหญ่กว่าที่คุมเรื่องอบายมุข ต้องโดนเซ่นไหว้เจ้าโควิดเอาแค่สอบ “เส้นทางการเงิน” จากเครื่องรูดบัตรไปถึงบัญชีธนาคาร ก็จะรู้แล้วว่าหนาวไปถึงใครที่รับประโยชน์บนความเดือดร้อนของประชาชนกลางฤดูร้อนนี้

ท่านผู้นำไทย นายกตู่ไม่สนบ้างหรือครับ ว่าใครที่ทำประเทศไทยอันเป็นที่รักของท่านเสียหายบัดซบป่นปี้ช่วงสงกรานต์นี้ ธุรกิจการค้า ท่องเที่ยวซบเซา คนไม่กล้าเดินทาง ไปยันตลาดหุ้นหล่นตกฮวบเมื่อวาน เสียหายรวมกันเป็นแสนล้าน คงไม่ใช่แค่โชว์ย้ายเอาผู้กำกับ สารวัตรเด็กๆ แลกเอาความเดือดร้อนของคนไทยทั้งประเทศ เห็นวิธีแก้ปัญหาแบบแก้ผ้าเอาหน้ารอดของรัฐบาลแล้วน่าเป็นห่วง ว่ารอบต่อไปคงมาอีกไม่นานนี้ หรือต้องจำรับสภาพแบบที่ท่านว่าไว้จริงๆ “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” เพราะมัวแต่ตีกรรเชียงเอาตัวรอด พร่ำห่วงชื่อเสียงหน้าตาของรัฐบาลไปวันๆ เท่านั้นเอง แล้วเทศนาชาวบ้านให้เป็นคนดีต่อไปนะจ๊ะ หนูนะ รัฐบาลทำงานหนัก เป็นห่วงประชาชนนะ จุ๊บๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน