สรุปดราม่าช่องยูทูบ Umm ก็สวยอยู่ ปมพิธีกรพูดเหยียดรูปร่างและเพศ จนชาวเน็ตถล่มคลิปยับ แม้จะเฉลยว่าเป็นวิทยานิพนธ์ แต่ดราม่าไม่จบง่ายๆ

กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ เมื่อทางช่องยูทูบ “Umm ก็สวยอยู่” ได้นำเสนอรายการที่มีคอนเซ็ปต์การให้คำปรึกษาแก่ทางบ้าน โดยมีพิธีกร 3 สาว มินจู พริม และเบบี้แครอท เป็นคนคอยให้คำปรึกษา ซึ่งในตอนที่ 1 มีสายจากทางบ้านโทรมา 2 สายด้วยกัน

สายแรกเป็นของ “ปุ๋มปุิ๋ม” (นามสมมติ) ปรึกษาเรื่องที่ตนทำศัลยกรรมแล้วอยากให้คนอื่นทักว่าทำศัลยกรรม ในตอนนี้เกิดเป็นดราม่าเล็กน้อย เมื่อทางพิธีกรขอชมรูปก่อนทำศัลยกรรมของปุ๋มปิ๋ม และพากันหัวเราะหลังจากได้เห็นรูป

ซึ่งดราม่าเริ่มร้อนแรงขึ้นเมื่อสายที่สองโทรเข้ามา เป็นสายของ “บียอนแซ่บ” (นามสมมติ) ที่มีความกังวลเรื่องการแต่งตัว เนื่องจากตนเป็น LGBTQ+ ที่อยากแต่งหญิง แต่ไม่มั่นใจในรูปร่างตนเอง เพราะเป็นคนรูปร่างค่อนข้างใหญ่ จึงอยากขอคำปรึกษาเรื่องการแต่งตัว

ทางพิธีกรได้ให้คำปรึกษาว่า แม้สมัยนี้เพศทางเลือกเป็นสิ่งที่รับได้ แต่การที่ผู้ชายมาแต่งหญิงก็ไม่ได้อยู่ดี ถ้าไม่เชื่อให้ลองสวมเดรสสีชมพูและติดกิ๊บไปเดินห้าง ถ้าไม่มีคนมอง ให้มาตบหน้าได้เลย การแต่งหญิงต้องรู้จักประเมินตนเอง ไม่ใช่ใครจะแต่งก็ได้ เพราะสายตาคนรอบข้างก็สำคัญ แต่งหญิงมันต้องดูสรีระแต่ละคนด้วย

ตลอดช่วงเวลาการให้คำปรึกษา ชาวเน็ตต่างมองว่า พฤติกรรมและคำพูดของพิธีกร เป็นการเหยียดทั้งรูปร่างหน้าตาและเพศ ซึ่งเราไม่ควรหัวเราะเยาะหน้าตาหรือรูปร่างของผู้อื่น อีกทั้งคนเรามีสิทธิ์ในการแต่งตัวอย่างไรก็ได้ แฟชั่นไม่ได้จำกัดเพศ จึงแห่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างล้นหลาม แต่ขณะเดียวกัน มีชาวเน็ตสังเกตเห็นคำแนะนำของคลิปที่เขียนบรรยายว่า “รายการนี้เป็นส่วนหนึ่งของละครวิทยานิพนธ์ ภาคสื่อสารการแสดง คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”

ไม่นานได้มีรายการ Umm ก็สวยอยู่ ตอนที่ 2 ออกมา เป็นคลิปพิธีกร 3 สาว ออกมากล่าวขอโทษที่ใช้คำพูดเหยียดผู้อื่น ซึ่งชาวเน็ตสังเกตว่า ท่าทางและสีหน้าของพิธีกรไม่ได้รู้สึกผิดดังคำพูด จึงทำให้ดราม่าร้อนแรงกว่าเดิม

ต่อมาทาง เพจ Umm ก็สวยอยู่ เห็นท่าไม่ดีจึงออกมาชี้แจงเกี่ยวกับดราม่าว่า “ต้องขออภัยที่รายการมีถ้อยคำไม่เหมาะสมต่อ LGBTQ+ และไม่ได้แจ้งคำเตือนไว้อย่างชัดเจน ซึ่งทั้งหมดของรายการเป็นการสมมติขึ้นมา โดยรูปแบบของวิทยานิพนธ์เป็นการทดลองสังคมของผู้คนในสื่อโซเชียล ซึ่งเป็นการแสดงเชิงทดลอง ภายใต้ประเด็นของ Social Judgement ที่มีในสังคม”

พร้อมทั้งแสดงคลิปขอโทษและชี้แจงเพิ่มเติมว่า รายการจะแบ่งออกเป็น 4 ตอน โดยตอนที่ 1 เป็นการถามตอบปัญหาทั่วไป ตอนที่ 2 ตัวละครเริ่มเห็นว่าสิ่งที่ทำมันไม่โอเค ทำให้เกิดดราม่าบนโลกออนไลน์ ตอนที่ 3 ตัวละครออกมาขอโทษ และให้กดโหวตว่าควรมีรายการต่อไปหรือไม่ และตอนที่ 4 เป็นเบื้องหลังการทำวิทยานิพนธ์

ถึงแม้จะมีการชี้แจงและการขอโทษ แต่ดราม่ายังระอุ จนติดเทรนทวิตเตอร์ ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์มากมาย เพราะมองว่ามันสายเกินไป มีผู้ชมมากมายที่เสียความรู้สึก เสียความมั่นใจจากการชมรายการไปแล้ว

อีกทั้งหลายคนยังตั้งคำถามถึงการเลือกทำหัวข้อวิทยานิพนธ์ว่า ทำไปเพื่ออะไร เพราะเราต่างทราบถึงผล หรือจิตใจของคนที่โดนบูลลี่อยู่แล้ว หากผู้ชมที่ไม่ทราบว่าเป็นวิทยานิพนธ์ เผลอกดเข้าไปชม ทางผู้จัดทำจะสามารถรับผิดชอบความรู้สึกของผู้ชมได้หรือไม่ พร้อมแนะว่า ทางผู้จัดทำควรเลือกทำการวิเคราะห์ มากกว่าการจงใจเหยียดเพื่อทดลองสังคมอีกด้วย

ขอบคุณที่มา Twitter

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน