รองผบ.ตร.สั่งหาตัวคนปล่อยข่าวปลอม ตำรวจอยุธยาจับไม่ใส่แมสก์ ชี้บิดเบือนข้อมูล ความจริงจับกุมขณะเดินตลาด แต่บิดข้อมูลเป็นจับขณะขับรถ
วันที่ 26 เม.ย.64 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร เปิดเผยว่า ปัจจุปันมี 48 จังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดออกประกาศให้ประชาชนทุกคนใส่หน้ากากอนามัย ก่อนออกจากเคหะสถาน หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามจะถือว่ามีความผิด
ส่วนการพิจารณาจับกุมดำเนินคดีกับผู้ที่สวมแมสก์ ยอมรับเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ดูที่เจตนาของประชาชนเป็นหลัก เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกมองว่าตำรวจรังแกประชาชน หรือฉวยโอกาสเรียกรับผลประโยชน์ ส่วนหลักเกณฑ์การพิจารณาว่าการกระทำใดเป็นการจงใจหรือเจตนาฝ่าฝืน ทางผบ.ตร.มอบหมายให้ผู้บังคับการจังหวัด ตั้งทีมกฎหมายให้คำปรึกษากับเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติแล้ว
ขณะที่กรณีครอบครัวเดียวกันนั่งรถยนต์ออกจากบ้านนั้น หากคนไหนไม่ใส่หน้ากากอนามัยก็ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย แต่หากมาคนเดียวไม่สวมหน้ากากอนามัย ทางฝ่ายกฎหมายของกทม.เห็นว่ายังไม่ชัดเจน ซึ่งตำรวจเห็นสอดคล้อง เพราะไม่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ อาจจะพิจารณาหรืออนุโลม ซึ่งต้องใช้ดุลยพินิจในการพิจารณา โดยขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเร่งประชาสัมพันธ์และแจ้งการรับรู้ให้ประชาชน หากผ่านช่วงนี้ไปแล้ว ยังพบฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ เปิดเผยต่อว่า ขณะนี้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนดำเนินการสืบสวนหาผู้ที่ปล่อยข่าวปลอม กรณีตำรวจ สภ.บางปะหัน ดำเนินคดีกับผู้ที่เดินในตลาดจงใจไม่สวมหน้ากากอนามัย แต่กลับพบว่ามีการบิดเบือนกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่จับกุมขณะขับรถ ซึ่งไม่เป็นความจริงและสร้างความเสียหายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
