ช่วงปีที่ผ่านมา หลายคนคงรู้จักการ Work From Home (WFH) หรือทำงานจากที่บ้าน กันเป็นอย่างดี เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด ที่ทำให้ต้องลดการรวมตัวลง และสถานที่ทำงานก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคลัสเตอร์ที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นห่วง

ล่าสุด สมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้แชร์เรื่องราว ของผลจากการที่บริษัทสั่งให้ WFH โดยมีกติกาว่า ไม่ให้ออกจากบ้านหากไม่จำเป็น เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด และ หากละเมิดกฎ จะไม่จ่ายค่าชดเชย แต่พบว่า มีการละเมิดกติกาจนติดเชื้อทำให้ถูกไม่จ่ายค่าจ้าง กลายเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ WFH

โดยโพสต์ระบุว่า “เรื่องจริง ที่อยากเล่า… รุ่นน้องของผมคนหนึ่ง บริษัทให้หยุดทำงานอยู่ที่บ้าน 2 สัปดาห์ และยินดีจะจ่ายค่าทำงานให้เต็มจำนวน โดยมีกติกาว่า ห้ามออกไปนอกบ้านถ้าไม่จำเป็น เช่นเที่ยวเตร่ ดื่ม สังสรรค์ หรือเดินช็อปปิ้ง

…. แต่หยุดได้แค่สามวัน คนหนึ่งก็นัดกันกับเพื่อนในบริษัท อีก 3 คน รวมเป็นผู้ชาย 4 คน ออกไปกินข้าวที่ห้าง และตามด้วยไปเดินซื้อของ (ไม่ได้บอกว่าห้างอะไร และกินข้าวกันที่ร้านไหน) และก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ไทม์ไลน์ที่สังคมรับรู้มีเพียงเท่านี้

…. ทั้ง 4 คน แต่งงาน และมีลูกกันหมดแล้ว
…. ผ่านไป 6-7 วัน คนที่ไป 4 คน เริ่มมีอาการ
…. ทยอยไปตรวจกันคนละที่ พบว่าติดเชื้อกันทุกคน
…. ที่หนักกว่านั้น ลูก เมีย คนรับใช้ในบ้านของบางคน ติดไปด้วย
…. หาโรงพยาบาล หาที่รักษากันวุ่นวายไปหมด
…. ต่างคนต่างโทษกันไปมา ก็ไม่มีใครรู้ความจริงว่าเพราะอะไร ติดจากอะไร
…. บริษัทเมื่อทราบเรื่อง ก็ไม่ขอชดใช้ค่าทำงาน เพราะผิดข้อตกลงที่ว่าต้องหยุดอยู่ที่บ้าน
…. ตอนนี้ ต่างแยกย้ายกันไปรักษาตัวอยู่ และความสัมพันธ์ของแต่ละคนก็เริ่มไม่เหมือนเดิม เพราะโรคที่ตามมาพร้อม “โควิด-19” คือ “โรคเครียด”
…. วันนี้ 1 ใน 4 อาการหนัก ปอดไม่แข็งแรง หายใจลำบาก ทั้ง ๆ ที่อายุแค่ 30 กลาง ๆ
…. คนที่เจ็บหนักสุดพูดเสียงอ่อย ๆ ว่า…
“…. ฝากทุกคน ไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้าน ใจแข็ง ๆ เข้าไว้ เพราะถึงวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าติดจากใคร นี่ขนาดใส่แมสตลอดเวลา ยกเว้นตอนกินข้าวเท่านั้นเอง ….”
…. เล่าสู่กันฟังครับ ….” (แจ็ค รัสเซล)”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน