“นพ.ยอร์น” รุดรับทราบอีกข้อหา ฐานขับรถประมาทแล้วไม่หยุดช่วย แต่ยังให้การปฏิเสธ ตร. ทำสัญญาประกัน ห้ามไปข่มขู่พยาน-ออกนอกประเทศ เตรียมเรียกเจ้าของรถมาสอบเพิ่ม รอผลตรวจเส้นผม-คราบเลือด ด้านรองผบ.ตร.รุดเยี่ยมรปภ. อาการเริ่มดีขึ้น ลืมตาตอบสนองแต่ยังพูดไม่ได้ เมียก้มกราบขอบคุณช่วยเร่งรัดคดี ด้านหมอเผยผลออกมาน่าพอใจ

จากกรณีนพ.ยอร์น จิระนคร สาธารณสุขนิเทศก์ เขต 12 จ.สงขลา ขับรถชนนายสมชาย ยามดี หรือนัท รปภ.กระทรวงสาธารณสุข แล้วลากไปไกลกว่า 20 เมตร เหตุเกิดภายในกระทรวงสาธารณสุข ช่วงค่ำเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา จนนายสมชายบาดเจ็บสาหัส โดยนพ.ยอร์นอ้างมืดเลยมองไม่เห็น ขณะที่ตำรวจเอาผิด 5 ข้อหาหนัก พร้อมจำลองเหตุจุดเกิดเหตุ ชี้ชัดมีแสงสว่างเพียงพอ เห็นในระยะ 50-100 เมตร ไม่ตรงกับนพ.ยอร์นอ้าง แถมระบุต้องรู้มีคนอยู่ใต้ท้องรถ ด้านรปภ.อาการดีขึ้น เริ่มรู้สึกตัว-แต่ยังใส่เครื่องช่วยหายใจ ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่สภ.เมืองนนทบุรี นพ.ยอร์น จิระนคร เดินทางเข้าพบพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รรท.รองผบ.ตร. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี ไม่หยุดให้การช่วยเหลือ รวมแจ้งเอาผิดแล้ว 5 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย 2.เมาสุราขณะขับรถ 3.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานและปฏิเสธในการเป่าวัดแอลกอฮอล์ก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่มีกฎหมายจราจรทางบก ระบุให้สันนิษฐานถือว่าผู้นั้นเมา 4.พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว 5.ขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนีและไม่หยุดลงมาช่วยเหลือ

ด้านพล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ได้เรียกนพ. ยอร์นมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมและทำบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุให้สมบูรณ์ ยิ่งขึ้น พร้อมทำสัญญาประกันเพิ่มเติมโดย ผู้ต้องหาจะต้องไม่ไปข่มขู่พยานหรือยุ่งเกี่ยวกับหลักฐานและไม่เดินทางออกนอกประเทศ ถ้าหากผู้ต้องหาทำผิดจะมีโทษตามสัญญาประกันที่ทำไว้

พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวอีกว่า ตลอดการ รับทราบข้อกล่าวหา นพ.ยอร์นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การเพิ่ม จากนี้จะเรียกเจ้าของรถที่นพ.ยอร์นขับชนรปภ. ในวันเกิดเหตุ และพยานอีกหลายปากมาสอบปากคำ ซึ่งเป็นผลดีให้กับการสอบสวน เพราะคำให้การพยานทำให้คดีรัดกุมยิ่งขึ้น ทางนิติวิทยาศาสตร์ได้เก็บเส้นผมและคราบเลือด ผลจะออกสัปดาห์หน้าและรอสอบแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญที่รักษารปภ.เพิ่มอีกครั้ง

ต่อมาพล.ต.อ.วิระชัย เดินทางเข้าเยี่ยม นายสมชาย และครอบครัวผู้บาดเจ็บโดยพล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า จากการเข้าเยี่ยมอาการพบว่า นายสมชายลืมตาตอบ สนองแต่ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ จากการสอบถามภรรยาผู้บาดเจ็บพบว่าอาการดีขึ้นกว่าวันก่อน

ด้านนพ.สุริยะ ปิยพดุงกิจ ประสาทศัลยแพทย์ กล่าวว่า อาการคนไข้ยังไม่รู้สึกตัวและพักรักษาอยู่ห้องไอซียู โดยได้สแกนสมองพบมีเลือดคั่ง เป็นเลือดที่ออกใต้ชั้น เยื่อสมอง ก่อนผ่าตัดสมอง โดยอาการค่อนข้างดีขึ้นผลการผ่าตัดน่าพอใจ ซึ่งค่อนข้างมั่นใจคนไข้จะต้องดีขึ้น

นพ.สุริยะกล่าวอีกว่า จากนี้คาดว่าคนไข้ต้องรักษาตัวในห้องไอซียูอีกประมาณ 1 เดือน โดยแบ่งเป็น 2 ระยะคือ ระยะเฝ้าอาการและฟื้นฟูกายภาพบำบัด ซึ่งต้องประเมินอีกครั้งว่าคนไข้จะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ โดยตอนนี้ยังต้องเฝ้าระวังอาการติดเชื้อด้วย

ด้านนางจำปี ภรรยานายสมชายกล่าวว่า อาการสามีดีขึ้นจากตอนแรก ได้แต่ภาวนา ขอพรจากเจ้าที่เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้สามีรอด ทุกวันนี้มีการคุยกับสามีทุกวัน โดยได้ลืมตาและขยับได้ แต่ที่น่าห่วงคือสภาพจิตใจมากกว่า แต่ขอให้สามีหายเร็วๆ และอาการดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พล.ต.อ.วิระชัย เข้าเยี่ยมนายสมชาย นางจำปีได้เข้ามาพูดคุยแล้วก้มกราบพล.ต.อ.วิระชัย พร้อมขอบคุณที่ช่วยเร่งรัดคดีจนคืบหน้าไปมาก แถมยังทำให้มีผู้ใจบุญบริจาคเงินมาช่วยเหลือครอบครัวและค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก

ด้านนพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนพ.ยอร์น ขับรถชนพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ในกระทรวงสาธารณสุข ว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กำชับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีนายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และนิติกร กลุ่มเสริมสร้างวินัยและคุณธรรม เป็นกรรมการและเลขานุการ เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดเนื่องจากอยู่ในความสนใจของสังคม เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป เช่น เป็นการทำความผิดทางวินัยหรือไม่ เกิดความเสียหายใดแก่ทางราชการซึ่งจะต้องหาผู้รับผิดชอบชดใช้หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการ ชุดนี้ไม่มีอำนาจเกี่ยวกับคดีทางอาญา

“สำหรับจะมีกรณีขับขี่ขณะเมาสุราหรือไม่ คณะกรรมการจะตรวจสอบ โดยอาจนำข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประกอบการพิจารณา หากพบข้อเท็จจริงว่าเป็นเช่นนั้นจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป” นพ. ปิยะสกลกล่าว

เย็นวันเดียวกัน นพ.ยอร์นได้เดินทาง ไปเยี่ยมและให้กำลังใจนางประสาน แซ่ลิ้ม มารดาของนายสมชาย ยามดี รปภ.ที่ตนขับ รถชน พร้อมทั้งให้กำลังใจและรับปากที่จะช่วยดูแลนายสมชาย ครอบครัว รวมทั้งจะประสานเพื่อช่วยเหลือนางประสาน ซึ่งป่วยด้วยอาการขาทั้งสองข้างเดินไม่ถนัดให้ได้รับการรักษาด้วย จากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมและสังเกตอาการของนายสมชาย ที่ร.พ.พระนั่งเกล้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน