กลายเป็นประเด็นสุดร้อนแรงมาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากกรณีของ ‘พิมรี่พาย’ แม่ค้าสาวสายบุญ ที่ออกมาตอกกลับ ‘นายทักษิณ ชินวัตร’ จนถูกโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
วันนี้ ทีมข่าวสด จะมาย้อนเรื่องราว เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจว่าที่ผ่านมาพิมพี่พายได้ทำอะไรไปบ้าง ก่อนจะกลายเป็นที่จับตามองโดยหน่วยงานรัฐ และทำให้ นายทักษิณ ชินวัตร ถึงกับเอ่ยปากชม จนกระทั่งการที่เธอออกมาตอกกลับว่า “อย่าเอาตนไปโยงกับการเมือง”
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พิมพี่พาย ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านแม่เกิบ ได้ลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และอื่น ๆ โดยใช้เงินส่วนตัวของตัวเองไปเกือบครึ่งล้าน ก่อนจะเริ่มมีดราม่าหลังมีการแชร์เอกสารสรุปราคากลางงานก่อสร้าง การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่พื้นที่ที่คล้ายกันแต่กลับมีค่าก่อสร้างกว่า 45 ล้านบาท จนทำให้ถูกนำมาเปรียบเทียบกัน
จากนั้นก็ตามมาด้วยดราม่าจากการขุดบ่อบาดาล ให้ชาวบ้านในจังหวัดยโสธร ที่มีข่าวออกมาว่าการขุดเจาะบาดาลไม่ได้ขออนุญาตตามขั้นตอน ส่วนราคาการขุดเจาะโดยรัฐบาลที่แตกต่างกันมาก จนถูกนำไปเปรียบเทียบนั้นก็ขึ้นอยู่กับความตื้นลึกของชั้นดินที่ถูกเจาะ จากนั้นพิมรี่พายได้ออกมาตอกกลับว่าที่ไม่ขุดลึกเพราะ ‘กลัวเจอนรก’ พร้อมทั้งแนะว่าอย่าตั้งข้อครหา ควรจะทำให้เห็นไปเลยน่าจะดีกว่า
และล่าสุดกับการสร้างโรงพยาบาลสนาม ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เธอนั้นได้จัดหาเตียงจำนวน 50 เตียง อุปกรณ์ทางการแพทย์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐาน พร้อมใช้งาน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทำให้โรงพยาบาลสนามของพิมรี่พายถูกนำไปเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลของรัฐเรื่องมาตรฐาน ทำให้ฝากฝั่งรัฐบาลออกมาเตือน ถึงเรื่องการนำไปเปรียบเทียบ
จนเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร ได้ร่วมเสวนาใน CARE Clubhouse x CARE Talk ซึ่งในช่วงหนึ่งได้มีการพูดได้พูดในประเด็นว่า ภายในเรือนจำเขามีสนามฟุตบอล มีโรงอาหารเราสามารถเปลี่ยนมาเป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราวได้หรือไม่ “หรือถ้าตั้ง (รพ.สนาม) มันแพง ก็ไปขอ พิมรี่พาย ตั้งให้ พอตั้งแล้วก็เอาคนออกมาตรงนั้นซะ และไปทยอยฉีดวัคซีน”
ซึ่งจากการพูดถึงดังกล่าวทำให้วันต่อมาพิมรี่พายได้ออกมาฝากถึงนายทักษิณว่า “ท่านอยู่นอกประเทศ จะพูดอะไรก็ได้ แต่คนที่อยู่ในประเทศเขาจะซวยเอา” และบอกว่าตนเองแค่อยากตอบแทนสังคม กรุณาอย่าเอาไปเปรียบเทียบกับรัฐบาล หรือ เอาไปใช้ในการเมือง เพราะตนเองเป็นแค่คนธรรมดา ทำเพราะอยากตอบแทน ก่อนจะไลฟ์ขายของต่อทำให้ข้อความดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
จนในช่วงท้ายของการไลฟ์ขายของ พิมรี่พาย ก็ได้กล่าวถึงกระแสที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตนได้พูดถึงนายทักษิณไปเมื่อช่วงต้นไลฟ์ว่า “กูมั่นใจว่ากูพูดไม่ผิด มึงโกรธกูไปเถอะ เดี๋ยวกูปล่อยคลิปความดีมึงก็หายโกรธ เพราะว่ามึงดูเจตนากูไว้ ถูกไหม เจตนากูคือทำความดี ทำบุญนะ โอเคนะ เดี๋ยวก็บอกว่ากูอยู่ฝั่งนั้นฝั่งนี้อีก” ทำให้เหล่าแฟนคลับและลูกค้าไม่พอใจกับคำพูดดังกล่าวเป็นอย่างมาก
และในช่วงเย็นวันเดียวกันพิมรี่พายได้ออกมาไลฟ์สดอีกรอบ เพื่อเคลียร์ประเด็นที่ดราม่าที่เกิดขึ้นในช่วงเช้า ว่าทำไมตนถึงไม่อยากให้นายทักษิณพูดถึงตน เพราะว่าในเช้าวันนี้เธอได้ซื้อของเพื่อไปบริจาคประมาณ 2 แสนบาท แต่ทางหน่วยงานนั้นกลับไม่รับของของเธอ ทำให้เธอคิดว่านี่คือสาเหตุหลังจากที่นายทักษิณพูดถึงตน
นอกจากนี้เธอบอกว่ายังพบกับปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการถูกกดดันอย่างหนัก หรือถูกอำนาจมืดข่มขู่ว่าจะตรวจสอบ เลยไม่อยากให้พูดถึงตนหรือนำไปแซะรัฐบาล ไม่อยากถูกโยงเข้ากับการเมือง เพราะมันทำให้เธอลำบาก ขยับตัวไปไหนไม่ได้ เธอเคยจนมาก่อนเมื่อเธอมีเงินแล้วเธอก็อยากจะตอบแทนสังคม ยังอยากทำบุญอยู่ พร้อมทั้งกล่าวว่าไม่อยากซวย เพราะคำพูดของคนอื่น
