ชาวเน็ตแนะอย่าตามแค่ข่าว ‘ลุงพล’ ข่าวอื่นก็สำคัญ ตั้งข้อสังเกตออกหมายจับ เพื่อเบี่ยงเบียนความสนใจจากประชาชนออกไปจากเรื่องของการเมืองที่ร้อนแรงอยู่ในขณะนี้
หลังจากที่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (1 มิ.ย.) ได้มีรายงานข่าวแจ้งว่าศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้อนุมัติหมายจับ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” ใน 3 ข้อหา ซึ่งที่ผ่านมาเรื่องที่เกี่ยวข้องคดีน้องชมพู่มักจะได้รับความสนใจจากประชาชน และสื่อมาโดยตลอด ซึ่งในวันเดียวกันนั้น ที่รัฐสภา ก็ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 เช่นเดียวกัน
ทำให้ชาวเน็ตส่วนใหญ่เริ่มตั้งข้อสงสัยว่าทำไม การออกหมายจับลุงพลนั้นต้องเกิดขึ้นในช่วงเดียวกันกับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ รวมไปถึงการตั้งข้อสงสัยว่าทำไมคดีของน้องชมพู่ถึงถูกยืดระยะเวลามานานเป็นปีกว่าจะสามารถออกหมายจับคนร้ายได้ และชาวเน็ตบางส่วนยังได้เริ่มแสดงความคิดเห็นว่าการออกหมายจับลุงพล นั้นก็เพื่อเบี่ยงเบียนความสนใจจากประชาชนออกไปจากเรื่องของการเมืองที่ร้อนแรงอยู่ในขณะนี้
จากนั้นชาวเน็ตจึงเริ่มใช้แฮชแท็กต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลุงพล เพื่อเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับกับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ประจำปี 2565 ที่เพิ่งผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณของสถาบันพระมหากษัตริย์ และงบทางด้านการศึกษา ,สาธารณสุข ,บัตรทอง ,ประกันสังคม ,สวัสดิการประชารัฐ และทางด้านวิทยาศสาตร์ วิจัย นวัติกรรมกลับถูกตัดออกไปทั้ง ๆ ที่มีความสำคัญ
ในขณะที่งบประมาณเกี่ยวกับการจัดการเรื่องวัคซีนโควิด-19 กลับได้รับน้อยกว่างบของหัวข้ออื่นทั้ง ๆ ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศยังไม่มีวี่แววว่าจะลดน้อยลงไป และรวมไปถึงเรื่องงบทางการทหาร และการจัดซื้ออาวุธที่สวนทางกับการแพร่ระบาดในปัจจุบัน
เพื่อให้การเผยแพร่เรื่องงบประมาณ และข้อมูลที่เกี่ยวกับการการเมืองและเรื่องอื่น ๆ อาทิ การจับยาเสพติด หรือการซื้อเรือดำน้ำ ให้ควบคู่ไปกับข่าวลุงพล เพื่อใช้ประชาชนและชาวเน็ตสนใจได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีของน้องชมพู่ และประเด็นการเมืองที่สำคัญไปพร้อม ๆ
อย่างไรด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. หลังจากที่แถลงถึงความคืบหน้าคดีน้องชมพู่เสร็จแล้วนั้น เมื่อถูกถามว่าการออกหมายจับลุงพลครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับการกลบกระแสข่าวความร้อนแรงในสภาฯ หรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า “ต้องถามคนโยงข่าวนี้ว่าไปเอาความคิดมาจากไหน”
