โผล่แล้ว “สับ วาปี” เข้ามอบตัว รับสารภาพสิ้น ทั้งแจ้งเท็จ ให้การเท็จคดี “ครูจอมทรัพย์”ขับรถชนคนตาย สมอ้างว่าตนเองขับชน ซัดทอด “ครูอ๋อง” เพื่อนครูจอมทรัพย์ ว่าจ้างเงิน 4 แสนบาท ให้รับผิดแทน เจ้าตัวยันเต็มใจมามอบตัว ไม่มีใครบังคับขู่เข็ญ คนใกล้ชิดเผยหลังเกิดเรื่อง สับไม่สบายใจ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ จนกระทั่งศาลฎีกาตัดสินไม่รื้อฟื้นคดี จึงตัดสินใจเข้าพบตร. ระหว่างสอบปากคำต้องอัดวิดีโอบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ป้องกันกลับคำให้การ

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นครพนม นายสับ วาปี อายุ 61 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาคดีครูจอมทรัพย์ ขับรถชนคนตาย ที่ถูกตำรวจออกหมายเรียกฐานให้การเท็จ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยนายสับกล่าวว่าเต็มใจมามอบตัว ไม่มีใครบังคับขู่เข็ญ ก่อนหน้านี้ นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง รับปากจะให้เงิน 400,000 บาท เพื่อให้รับสารภาพกับพนักงานสอบสวน สภ.นาโดน ว่ารถของตนชนคนตาย แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ชน สุดท้ายนายสุริยาก็ไม่ให้เงินตามที่รับปากไว้

จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวนายสับไปให้การเบื้องต้นกับ พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย สาดมะเริง รองผบก.นครพนม และจากการสอบถามคนใกล้ชิดนายสับระบุว่า หลังจากเกิดเรื่องนายสับไม่สบายใจ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ พยายามติดต่อตำรวจ สภ.เรณูนคร เพื่อขอเข้ามอบตัว จนกระทั่งศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับคำร้องรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์ นายสับจึงตัดสินใจเข้ามอบตัว โดยมี ร.ต.ต.ชัยยุทธ ไมค์วิสัย นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร มารอเป็นนายประกันให้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการสอบปากคำเป็นไปอย่างเคร่งเครียด พนักงานสอบสวนต้องอัดวิดีโอบันทึกเทปไว้เป็นหลักฐานด้วย เพื่อป้องกันนายสับกลับคำให้การภายหลัง โดยมี พล.ต.ต.สุวิชาญ ณาณกิตติกุล ผบก.นครพนม ร่วมสอบปากคำด้วยเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ต.สุวิชาญกล่าวว่านายสับให้การละเอียดยิบ ระบุว่าผู้ว่าจ้างรับปากจะให้เงิน 400,000 บาท ทั้งหมดเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น สร้างเรื่องขึ้นมา โดยมีผู้ประสานงานคือนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง และอีกหลายคน นายสับให้การค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อคดี รวมถึงคำเบิกความของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อศาลจังหวัดนครพนมนั้น ตำรวจได้มาหมดแล้ว ส่วนนายสับ หลังแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว จะปล่อยตัวไป นัดอีกครั้งวันที่ 23 พ.ย. เพื่อนำตัวส่งพนักงานอัยการ

ต่อข้อถามถึงกรณีเครือญาตินายสับที่ถูกออกหมายเรียกด้วย พล.ต.ต.สุวิชาญกล่าวว่าเป็นพี่ชายและภรรยานายสับ มาเป็นเพื่อน ไปเซ็นชื่อเป็นพยานที่ สภ.นาโดน ก็น่าเห็นใจ แต่เป็นความผิดทางกฎหมาย จากคำให้การของนายสับยังระบุว่า เครือญาติก็รู้ว่าให้การเท็จ ก่อนหน้าที่นายสับจะมอบตัว ยังเล่าว่าไปพบ ร.ต.ต.ชัยยุทธ นายกเทศมนตรี ปรึกษาว่าจะหลบหนีอย่างไร สุดท้ายนายสับตัดสินใจมอบตัว และบอกว่าโล่งใจแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีข่าวอ้างว่านายสุริยา หรือครูอ๋อง หลบหนีไปแล้ว ผบก.นครพนมกล่าวว่าไม่รู้จะหนีทำไม แต่เจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกไปแล้ว หากขัดหมายเรียกครั้งที่ 2 ต้องออกหมายจับ

“นายสับยอมรับว่าพูดเรื่องจริงทั้งหมดแล้ว มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง และผิดจริง คิดว่าไม่มีอะไรมาก วันนี้ตอบได้ว่ารถคันนี้ไม่ได้ชน นายสับบอกว่าขายเป็นเศษเหล็กแล้ว สารภาพยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง นายสับพูดด้วยว่าจากรับปากจะให้เงิน 400,000 บาท แต่ได้แค่ 2,000 บาท ผบก.นครพนมกล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย กล่าวว่ากรณีนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ ที่ออกหมายเรียกไปแล้ว ต้องพิจารณาคำเบิกความในศาลเป็นเท็จหรือไม่ คณะทำงานต้องนำมาพิจารณากัน ส่วนนาย เสริฐ รูปสะอาด ที่เคยมาให้การต่อศาลจังหวัดนครพนมเมื่อวันที่ 8-10 ก.พ.2559 นายเสริฐให้การเป็นประโยชน์ อาจจะต้องกันตัวไว้เป็นพยาน และจะหารือกับผู้บังคับบัญชาอีกครั้ง

ส่วน พ.ต.อ.ชัชวาลย์ แก้วจันดี รองผบก.นครพนม กล่าวว่าหลังศาลพิพากษาชัดเจนแล้วว่าใครเป็นผู้กระทำผิด การมีใครมาอ้างว่าเป็นคนขับรถและให้การเท็จ ต้องดำเนินคดี ถ้ารับสารภาพหลังสอบสวนเสร็จต้องส่งฟ้องศาล เมื่อสอบสวนยังไม่เสร็จต้องผัดฟ้อง กรณีนายสับไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ต้องปล่อย ตัวไป นัดวันที่ 23 พ.ย. ส่งตัวให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนมต่อไป โดยคดีแรกเป็นข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน ในส่วนของ สภ.นาโดน นั้น จะแจ้งข้อหา นายสับ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จให้พนักงานสอบสวน หรือผู้มีอำนาจทางคดีอาญาลงบันทึกประจำวัน ซึ่งเป็นเอกสารของทางราชการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังนายสับให้การกับ พล.ต.ต.สุวิชาญ แล้ว นายสับยังให้การกับพนักงานสอบสวน สภ.นาโดน โดย มี พ.ต.ท. อธิศักดิ์ ชมศรีหาราชพร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีในขณะนั้น เป็นผู้กล่าวทุกข์ร้องโทษที่ สภ.นาโดน และยังให้ปากคำกับ พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ สัมฤทธิ์สกุลชัย รองผกก. (สอบสวน) สภ.เรณูนคร ในคดีที่แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่ สภ.เรณู นครพนม และให้การ พ.ต.ท.กฤษดา สุพรรณกูล สว. (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน