“บิ๊กป้อม” เอ่ยปากขอโทษครอบครัว “นตท.เมย” กรณีพูดจากระทบกระเทือนใจ ด้านกองทัพไทยโดยผบ.ทสส.ออกคำสั่งด่วนย้ายรูด “พ.อ.” ผบ. กรมนักเรียน กับ “น.ท.” ผบ.พัน.นักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร พ้นจากตำแหน่ง ขณะที่ผลการสอบสวนของ ผบ.โรงเรียนสรุป ไม่พบว่ามีผู้ใดไปทำร้ายจนเสียชีวิต แต่จากการส่งศพไปชันสูตร แพทย์ระบุเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เผยบิ๊กตู่เสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอโทษแทนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย หากทำให้ประชาชนรู้สึกไม่สบายใจ ด้านแม่-พี่สาวอดีต นตท.เครียดหนักถึงต้องนอนโรงพยาบาล

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี นตท. ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิต เหตุเกิดภายในโรงเรียนเตรียมทหารว่า ไม่อยากให้สื่อมวลชนหรือโซเชี่ยลมีเดียเอาประเด็นต่างๆ ไป ขยายความ ขอให้รอความจริงปรากฏออกมาดีกว่า เบื้องต้นผลการสอบสวนของคณะกรรมการโรงเรียนเตรียมทหารส่งถึงพล.อ. ธารไชยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.ทสส.แล้ว แต่ยังไม่ถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกองบัญชาการกองทัพไทย ที่มีพล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนา ธิการทหาร เป็นประธานนั้น กำลังสอบว่า มีการทำอะไรเกินเลยกว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่ การซ่อม ปรับปรุงวินัย รอผลทางการแพทย์ และอาการเจ็บป่วยของนตท.ภคพงศ์ก่อน หน้านี้ ถูกซ่อมเดี่ยวมาจากสาเหตุอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้สังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีคำพูดของพล.อ.ประวิตร ในฐานะโฆษกกระทรวงกลาโหมจะทำความเข้าใจกับครัวผู้เสียชีวิตอย่างไร พล.ท.คงชีพกล่าวว่า อะไรที่ไปกระทบความรู้สึกพ่อและแม่ ตนขอกราบประทานอภัย วันที่พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ตนอยู่ด้วย เป็นการตอบในภาพรวม ไม่ได้เจาะจงถึงตัวน้องเมย เป็นการพูดถึงระบบการปรับปรุงวินัย แต่เมื่อมีการยกไปเฉพาะบางส่วน ไม่ครบถ้วน ทำให้กระทบความรู้สึกของพ่อและแม่ จึงอยากให้สื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลอย่างครบถ้วน

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรจะออกมาขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ พล.ท.คงชีพกล่าวว่า ขอโทษเรื่องอะไร วันนั้นพล.อ. ประวิตรไม่ได้พูดถึงพ่อแม่หรือตัวน้องเมย เป็นการพูดในภาพรวม อย่างไรก็ตาม อยากให้เรื่องนี้ยุติไปก่อน รอความจริงปรากฏแล้วค่อยนำเสนอให้สังคมรับทราบข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า การให้โรงเรียนเตรียมทหารที่เป็นหน่วยต้นสังกัดและเป็นหน่วยที่เกิดเหตุตรวจสอบ จะเกิดความโปร่งใสได้อย่างไร พล.ท.คงชีพกล่าวว่า ในขั้นต้นต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาก่อน เพราะเหตุเกิดที่จุดเดียว โรงเรียนเตรียมทหารเป็นหน่วยบังคับบัญชาสูงสุด ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตนเชื่อมั่นในความเป็นกลาง นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกองทัพไทย ซึ่งเป็นหน่วยบังคับบัญชาด้วย

เมื่อถามย้ำว่าต้องให้คนนอกมาสอบเรื่องนี้หรือไม่ พล.ท.คงชีพกล่าวว่า วันนี้เราทำสองส่วนแล้ว ทั้งการสอบข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำเกินเลยที่ควรจะเป็นหรือไม่ และการพิสูจน์ด้านการแพทย์ เชื่อว่าผลการสอบทั้ง 2 อย่างจะ สอดรับกันและบอกถึงสาเหตุการเสียชีวิตได้

นอกจากนี้ พล.ท.คงชีพชี้แจงเพิ่มเติมว่า ผลสอบของโรงเรียนเตรียมทหารได้ส่งถึงมือผบ.ทสส.แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างนำส่งพล.อ. ประวิตร เพื่อชี้แจงสังคมต่อไป

ด้านของพล.อ.ประวิตรซึ่งถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังออกมาให้สัมภาษณ์กรณีการเสียชีวิตของนตท.ภัคพงศ์นั้น เดินทางเข้ามาปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลโดยปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ใดๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 18.30 น. ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร พล.อ.ประวิตรจึงกล่าวโทษครอบครัวน้องเมย และว่าสั่งการให้ทาง ผู้บัญชาการทหารสูงสุดให้ความเป็นธรรม อย่างตรงไปตรงมา

“อะไรที่ผมพูดไปแล้วทำให้ไปกระทบกระเทือนครอบครัวของน้องเมย ผมต้องขอโทษด้วย ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรม ทุกฝ่ายไม่เข้าข้างฝั่งทหาร ซึ่งในวันนี้ผู้บัญชา การทหารสูงสุดมีคำสั่งย้ายผู้การและผู้พันโรงเรียนเตรียมทหารแล้ว” พล.อ.ประวิตรกล่าว

วันเดียวกัน พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.ทสส. ลงนามในคำสั่งกองทัพไทย ที่ 104/2560 ปรับย้าย พ.อ.ฉัตรชัย ดวงรัตน์ ผบ.กรมนักเรียน โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (ผบ.กรม.นร.รร.ตท.สปท.) ไปอยู่ในตำแหน่ง นายทหารปฏิบัติการประจำ บก.ทท. พร้อมแต่งตั้งให้ พ.อ.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา รองผบ.กรมทหารราบ ที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ข้ามไปเป็น ผบ.กรม.นร.ตท.สปท.(อัตราพันเอกพิเศษ) แทน

นอกจากนั้น ยังย้าย น.ท.นพศิษฐ์ เพียรชอบ ผบ.กองพันนักเรียน กรมนักเรียน โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (ผบ.พัน.นร.กรม. นร.รร.ตท.สปท.) ไปประจำ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) และย้าย น.ท.ประเสริฐศิลป์ วรสิษฐ์ หัวหน้านายทหารฝ่ายสรรพาวุธ ฝ่ายสรรพาวุธ นย. มาเป็น ผบ.พัน.นร.กรม. นร.รร.ตท.สปท. แทน

ผู้สื่อข่าวรายงาน คำสั่งกองทัพไทยไม่ได้ระบุถึงเหตุผลในการปรับย้ายนายทหารทั้ง 4 นาย บอกเพียงอำนาจตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการปลด ย้าย เลื่อน และลดตำแหน่งข้าราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2502 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 2 ข้อ 5 (2)

แต่คาดว่า คำสั่งนี้มีผลสืบเนื่องจากกรณีที่ นตท.ภคพงศ์นักเรียนเตรียมทหารชั้น ปีที่ 1 เสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่โรงเรียนเตรียม ทหาร และญาตินำศพไปให้โรงพยาบาลชันสูตรใหม่ พบอวัยวะสำคัญภายในหายไปอย่างน่าสงสัย จนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงในสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง

ด้านนายพิเชษฐ ตัญกาญจน์ บิดาของนตท.ภคพงศ์ เปิดเผยว่า จำเป็นต้องของดให้ข้อมูลต่างๆ กับสื่อมวลชนทุกแขนง เนื่องจากหลังจากเดินทางกลับจากการรับอวัยวะของลูกชายที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ก็ยิ่งทำให้สภาพจิตใจของคนในครอบครัวบอบช้ำหนักขึ้นอีก จนต้องนำทั้งลูกสาวและภรรยาส่งโรงพยา บาลเป็นการด่วนโดย น.ส.สุพิชา หรือ เมี่ยง เกิดอาการเครียดจัดจนหายใจผิดปกติ และต้องให้ออกซิเจน และน้ำเกลือเป็นการด่วน เช่นเดียวกับ นางสุกัญญา ที่ยังไม่สามารถทำใจรับกับสภาพชิ้นส่วนอวัยวะของลูกชาย จนถึงกับน็อก และทั้ง 2 ยังต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ จ.ชลบุรี โดยขอให้โรงพยาบาลช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวเพื่อขอพักผ่อนให้เต็มที่

นายพิเชษฐยังเผยอีกว่า ตนต้องพยายามทำจิตใจให้เข้มแข็ง เพราะถือเป็นเสาหลักของครอบครัว และเพิ่งจะมีโอกาสได้ใส่บาตรให้ลูกชายเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนเดินทางไปดูอาการของลูกสาว และภรรยา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผบ.ทสส.จะติดต่อให้เข้าพบเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ นายพิเชษฐกล่าวว่า ตนและครอบครัวไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆ แม้จะมีกระแสว่า ต้องเข้าพบตั้งแต่เวลา 08.00 น. วันเดียวกันนี้ก็ตาม

“ยังไม่มีใครติดต่ออะไรเข้ามา และในช่วงนี้เราก็คงไม่พร้อมไปไหน เพราะทั้งลูก ทั้งเมีย ก็อยู่โรงพยาบาลทั้งคู่ ที่สำคัญเราไม่ได้อยู่บ้านกันเลย หมาที่เลี้ยงไว้ก็เหงา เศร้าตามไปด้วย” นายพิเชษฐกล่าว ด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของนตท.ภคพงศ์ และขอโทษแทนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายหากทำให้ประชาชนรู้สึกไม่สบายใจ โดยยืนยันว่าไม่ต้องการปกป้องใคร เพราะหากปกป้องอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์ ก็คงหาความสุขไม่ได้เช่นกัน ขณะนี้กำลังพยายามหาข้อเท็จจริงทั้งทางลับและเปิดเผย เพราะไม่อยากให้กระทบการสอบสวน

“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า เราสูญเสียหนึ่งชีวิตที่มีคุณค่าของชาติ โดยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันระมัด ระวังเรื่องเหล่านี้ โดยหน่วยฝึกของทุกกองทัพจะต้องดูแลเอาใจใส่ให้ดี มีความรับผิดชอบต่อทุกชีวิตเช่นคนในครอบครัว และอย่าทำสิ่งใดเกินเลยเด็ดขาด” พล.ท.สรรเสริญกล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งจากแพทย์ ครอบครัว อาจารย์ รุ่นพี่ เพื่อนของผู้เสียชีวิต และผู้เกี่ยวข้องตลอดทั้งกระบวนการ โดยจะแสวงหาความจริงให้ได้ และจะต้องมีผู้รับผิดชอบหากมีการกระทำที่ไม่ถูกต้องจริง จึงขอวิงวอนให้สังคมเข้าใจและให้เวลากับ เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งหยุดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเกินเลย เพราะไม่เป็นผลดีแก่ผู้ใด โดยเฉพาะจิตใจของครอบครัวผู้สูญเสียในครั้งนี้

ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทางกองทัพได้มีคำสั่งให้นายทหารที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลนักเรียนเตรียมทหารไปปฏิบัติหน้าที่อื่น เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และประชาชนเกิดความสบายใจ

ต่อมาพล.ท.คงชีพเปิดเผยว่า ผลการสอบสวนการเสียชีวิตของนตท.ภคพงศ์ ที่พล.อ.ธารไชยยันต์ส่งถึงพล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นผลการสอบสวนของคณะกรรมการชุดที่ พล.ต. กนกพงษ์ จันทร์นวล ผบ.โรงเรียนเตรียมทหาร ตั้งขึ้นมาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ผลการสอบสวนของคณะกรรมการชุดที่ผบ.ทสส.เพิ่งแต่งตั้ง

สำหรับผลการสอบสวนของคณะกรรมการชุดของผบ.โรงเรียนเตรียมทหาร เป็นการตรวจสอบ 2 กรณี คือ กรณีนตท.ภคพงศ์ถูกรุ่นพี่ซ่อม เมื่อ 2 เดือน ก่อนเหตุการณ์เสียชีวิตในวันที่ 17 ต.ค. จนทำให้หยุดหายใจไปชั่วขณะ และแพทย์ได้ปั๊มหัวใจจนกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง จากการสอบสวนพบว่าเป็น การทำเกินกว่าเหตุจึงสั่งลงโทษผู้เกี่ยวข้อง และทางครอบครัวนตท.ภคพงศ์ไม่ติดใจเอาความ

ส่วนกรณีที่ 2 คือเหตุการณ์วันที่ 17 ต.ค. ที่ทำให้นตท.ภคพงศ์เสียชีวิต โดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดที่จับภาพได้ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร รวมถึงสอบถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อนๆ โดย พล.ต.กนกพงษ์ ได้ระบุในผลการสอบสวนว่า ยังไม่พบว่า มีผู้ใดไปทำร้ายจนเสียชีวิต ก่อนจะส่งศพไปชันสูจน์และแพทย์ลงความเห็นว่า เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

พล.ท.ณตฐพล บุญงาม เจ้ากรมข่าวทหาร ในฐานะโฆษกกองทัพไทย กล่าวว่า ผบ.ทสส.ได้รับผลสอบประเด็นการเสียชีวิตนั้นคาดว่าเป็นผลการตรวจสอบเบื้องต้นของทางโรงเรียนเตรียมทหาร แต่ในส่วนของคณะกรรมการการตรวจสอบที่ ผบ.ทสส. ได้มี คำสั่งเมื่อวันที่ 23 พ.ย. แต่งตั้งให้พล.อ.อ. ชวรัตน์เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการเสียชีวิตของนตท.ภคพงศ์ เพื่อตรวจสอบถึงความคืบหน้าต่างๆ ในภาพรวมตั้งแต่วันที่เกิดเหตุจนกระทั่งวันเสียชีวิต รวมถึงข้อความต่างๆ ที่เผยแพร่จากเพื่อนหรือทางญาติทางโซเชี่ยลมีเดีย อีกทั้งข้อมูลทางการแพทย์ที่ได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดนั้น ขณะนี้ทางคณะกรรมการกำลังดำเนินการอยู่ โดยผลการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากต้องใช้เวลา

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน