จากกรณีอุบัติเหตุ เก๋งสปอร์ตหรู ยี่ห้อ BMW รุ่น Z4 ของ นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง หรือตุ้ม อายุ 49 ปี พุ่งเหินข้ามเกาะกลางถนน ชนกับรถยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟต์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ก่อนที่นายสุรภักดิ์ จะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่ จ.เพชรบูรณ์ นั้น
วานนี้มีการฌาปนกิจศพ เป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางญาติและเพื่อนที่เดินทางมาร่วมงาน โดยหนึ่งในเพื่อนของนายสุรภักดิ์ ได้พูดไว้อาลัยครั้งสุดท้าย โดยเล่าถึงประวัติความเป็นมา การต่อสู้ของนายสุรภักดิ์ จนทำให้มีฐานะดีกลายเป็นโปรแกรมเมอร์ระดับต้นๆ และการต่อสู้ในแนวคิดประชาธิปไตย
โดยตอนหนึ่ง เพื่อนได้กล่าวว่า เรื่องอุบัติเหตุเรื่องอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นที่น่าเศร้าเสียใจ ทั้งต่อตัวตุ้ม และน้องที่ไปกับตุ้ม และขอเสียใจอย่างสุดซึ้งกับ 2 ครอบครัวรถสวิฟต์ ที่เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย ที่เขาก็ไม่รู้เรื่องอะไร ถ้าตุ้มลุกขึ้นมาพูดได้ตอนนี้ผมขอเดาใจว่าตุ้มจะเสียใจมาก ตุ้มเป็นคนดี มีจิตใจเมตตา คอยช่วยเหลือไม่ใช่เฉพาะบุคคล เขาเป็นคนช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือระบอบประชาธิปไตย
ตั้งแต่ผมรู้จักเขาตั้งแต่ปี 2549 ตุ้ม ไม่เคยนิ่งดูดายเพิกเฉยต่อความอยุติธรรมใดๆ ถ้าวันนี้ตุ้มยังอยู่ตุ้มจะเสียใจมากที่ทำให้น้อง 2 คนเสียชีวิต ทั้งนี้ผมกล้าพูดแทนเพื่อนผมได้เลยว่า ตุ้มไม่มีเจตนา และตุ้มเป็นลูกผู้ชายพอที่จะรับผิดชอบ แล้ววันนี้ต้องรับผิดชอบชีวิตของเขาแล้วครับ เพราะฉะนั้นใครที่จะพูดถึงตุ้มนะครับขอให้พูดด้วยความเป็นธรรม ตุ้มไม่ได้อยากให้เกิดอุบัติเหตุ ตุ้มไม่ได้อยากให้ใครตาย ตัวตุ้มก็ไม่ได้อยากตาย ตุ้มยังมีภารกิจเพื่อประเทศชาติและประชาธิปไตยอยู่ ตุ้มจะยังวางมือไม่ได้ถ้าประเทศนี้ยังไม่ใช่ของประชาชน
