จากกรณีพบศพชายไทยเร่ร่อน อายุประมาณ 50 ปี ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สวมเสื้อยืด สีม่วง นุ่งกางเกงขายาว สีดำ ใส่รองเท้าแตะสีดำ อยู่ในสภาพนอนหงายเสียชีวิตบนถนนพระสุเมรุ แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กทม. ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้า และมีการดำเนินการเก็บศพในช่วงค่ำของวันที่ 20 ก.ค. ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหย้านี้แล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.ค. นายสุเชษฐ์ หรือก็อฟ กิจการทวีคูณ อายุ 37 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งเพจ แบ่งปันลมหายใจ เปิดเผยกับ “ข่าวสดออนไลน์” ว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนได้รับการประสานจากหัวหน้าชุดอปพร. ให้นำถังออกซิเจนใบใหม่มาสับเปลี่ยนแบบเร่งด่วนเนื่องจากใบเก่าที่ตนเคยทิ้งให้ไว้ใช้งานออกซิเจนกำลังจะหมดเพราะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายดังกล่าว ซึ่งอยู่ในสภาพนอนแน่นิ่งและกำลังจะหมดลมหายใจ เมื่อไปถึงยังสถานที่เกิดเหตุตนพบผู้ป่วยนอนหมดสติ และหมดลมหายใจเป็นที่เรียบร้อยจึงไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ ก่อนแบกถังกลับด้วยความเศร้าสลด

นายสุเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับเพจ แบ่งปันลมหายใจ ได้เปิดร่วมกับเพจครอบครัวอิ่มใจ ,เทพศิรินทร์จิตอาสา และสวนกุหลาบ โดยจัดหาอุปกรณ์และถังออกซิเจนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่สีเหลือง และสีแดง ซึ่งก่อตั้งเพียงแค่ 6 วัน แต่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยขั้นวิกฤติรวม 3-4 ราย ซึ่งมีอยู่ 1 เคสที่ตนรู้สึกสะเทือนใจหลังได้รับแจ้งร้องขอความช่วยเหลือจึงรีบไปในทันที ซึ่งผ่านไปสักระยะทางผู้แจ้งส่งข้อความกลับมาว่า ขอบคุณทีมงานและไม่ต้องนำถังออกซิเจนมาให้แล้วเนื่องจากคุณตาได้เสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งสร้างความอัดอั้นใจเพราะทางเราก็พยายามทำทุกอย่างอย่างเต็มที่

นายสุเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ทางเพจใช้ร้านสถานบันเทิงที่ถูกสั่งปิดภายในซอยถนนข้าวสาร เป็นที่ตั้งในการปฎิบัติการเนื่องจากสามารถจอดรถและขนย้ายถังออกซิเจนได้สะดวก โดยมีทีมงานประมาณ 30 คน แต่มีรถปฎิบัติภารกิจซึ่งเป็นรถของมูลนิธิร่วมกตัญญูที่จะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยตามบ้านเพียงแค่ 4-5 คัน และมีถังออกซิเจนที่ได้รับการบริจาคจากผู้ใจบุญเพื่อไปช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วกรุงเทพเพียงแค่ 150 ถังเท่านั้น แต่จนถึงขณะนี้เหลือไม่ถึง 20 ถัง จึงอยากจะรบกวนท่านที่ยืมไปแล้วไม่ได้ใช้โปรดนำกลับมาคืนเพื่อจะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยท่านอื่น

“สำหรับจุดเริ่มต้นในการก่อตั้งเพจเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเกิดมาจาก ตนทราบข้อมูลมาว่าทางโรงพยาบาลหลายๆแห่งเริ่มจะไม่รับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งสิ่งที่คนไข้ต้องการมากที่สุดคือลมหายใจ ซึ่งลมหายใจสามารถต่อชีวิตให้กับคนได้อีกหลายๆราย ตนจึงอยากวิงวอนไปยังภาครัฐให้ช่วยนำถังออกซิเจนออกมาช่วยเหลือประชาชน เพราะเป็นการต่อลมหายใจของคนอีกหลายๆคนที่อยู่ในพื้นที่ระดับเหลืองและแดง และไม่ควรนำถังออกซิเจนออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านควรช่วยเหลือคนไทยด้วยกันก่อน

ทั้งนี้ สำหรับชุดตรวจโควิดด้วยตัวเองหากผู้ตรวจพบว่าติดเชื้อรบกวนรับบุคคลเหล่านั้นเข้ารับการรักษาในทันทีมิเช่นนั้นจะเพิ่มการระบาดที่มากขึ้นเนื่องจากนำเชื้อไปแพร่ต่อยังผู้ใกล้ชิดและจะไม่มีวันจบสิ้น ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาก็มีผู้เสียชีวิตกลางถนนถึง 8 ราย จึงอยากให้กระทรวงสาธารณสุขจัดระเบียบกับบุคคลเร่ร่อน ซึ่งทุกวันนี้เฉพาะถนนราชดำเนินก็มีไม่ต่ำกว่า 5-600 ราย ที่ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและนอนอยู่ริมถนน เนื่องจากบุคคลเหล่านั้นไม่มีเงิน และไม่ได้รับสิทธิการเยียวยาจากทางภาครัฐ โดยตนเชื่อมั่นว่าอาจมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 2-3 หมื่นรายหากภาครัฐได้ตรวจเชื้ออย่างทั่วถึง จึงอยากร้องขอให้ช่วยเร่งดำเนินการจัดระเบียบเพื่อจะได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ” คุณก็อฟ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน