เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำฟรีสไตล์ 400 เมตรหญิงรอบชิงชนะเลิศในรายการโตเกียวโอลิมปิก 2020 ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยผู้ที่คว้าเหรียญทองไปได้นั่นก็คือ แอเรียร์น ทิตมัส วัย 20 ปี ตัวแทนทีมชาติออสเตรเลีย ที่เอาชนะคู่แข่งตัวเต็งผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาแล้วถึงห้าสมัยจากสหรัฐอเมริกามาได้
แต่สิ่งที่กลายเป็นไวรัลมากกว่านั้นนั่นก็คือการปฏิกิริยาท่าทางของ ดีน บ็อกซ์ซอล โค้ชทีมชาติออสเตรเลีย ที่ภายหลังจากจบการแข่งขันและทราบผลแล้วนั้น เขาก็ไม่อาจจะเก็บซ่อนความดีใจสุดขีดที่มีไว้ได้ เพราะว่าเป็นเวลากว่า 20 ปี ที่ในที่สุดออสเตรเลียก็สามารถเอาชนะคู่แข่งตัวเต็งได้ในที่สุด
บอกเลยว่าโค้ชทีมชาติออสเตรเลียคนนี้เล่นใหญ่มาก ถึงกับถอดหน้ากากอนามัยออก วิ่งไปวิ่งมา ก่อนจะเข้าไปเขย่ารั่วอย่างบ้าคลั่ง ทำให้สต๊าฟที่อยู่ในบริเวณนั้นตกใจมาก ก่อนจะเดินมาเชิญให้กลับไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้
และหลังจากที่โลกออนไลน์ได้เห็นท่าทางของโค้ชบ็อกซ์ซอลแล้วนั้น ก็ต่างที่จะยิ้มหรือหลุดขำออกมาเสียไม่ได้ และเข้ามาแซวโค้ชต่าง ๆ นานา อาทิ “สต๊าฟถึงกับงงจนไม่รู้ว่าจะจัดการกับเขายังไงดี” “พ่อของฉันดีใจกว่าโค้ชอีกตอนที่รู้ว่าได้หเรียญทอง” “ออสเตรเลียคงเจออะไรมาหนัก” “ถึงกับเขย่าราวเลยหรอ เชื่อแล้วว่าดีใจมาก” บ้างก็แซวว่าโค้ชนั้นเหมือน ฮีธ เลดเจอร์ ตอนรับบทโจ๊กเกอร์เลย
ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะขำกับท่าทางดังกล่าว เพราะชาวเน็ตหลายคนก็มองว่าการแสดงออกของนั้นมันมากเกินไป โดยเฉพาะชาวเน็ตสหรัฐฯ ที่กล่าวว่าการกระทำดัง ‘หยาบคายและน่ารังเกียจ’ “สิ่งที่โค้ชชาวออสเตรเลียทำมันไม่ตลกหรือน่ารักเลย” “เขาควรออกมาขอโทษนะ” ชาวเน็ตกล่าว
หลังจากนั้นโค้ชบ็อกซ์ซอลก็ได้ให้สัมภาษณ์ต่อการกระทำดังกล่าวว่า “คนอเมริกันคงไม่ชอบเท่าไหร่นัก” แต่เขาก็ไม่สามารถเก็บความดีใจนั้นเอาไว้ได้ และนั่นก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาทำอย่างนั้น เขากล่าวว่าทิตมัสดำเนินการแข่งขันได้อย่างสมบูรณ์แบบ “เธอค่อนข้างมีเหตุผล เธอเข้ามาหาฉัน ผมคิดว่าผมดีใจมากกว่าเธอ ก่อนที่เธอจะพูดว่า ‘คุณต้องสงบสติอารมณ์’ เธอสงบอย่างน่าเหลือเชื่อ” เขากล่าว
ด้านทิตมัสได้ไม่ได้กล่าวอะไรถึงท่าทางของโค้ชของเธอ เธอเพียงแค่ยกย่องเขา “เขามีความหมายกับฉันทุกอย่าง” เธอกล่าวเสริมว่า “นั่นเป็นสิ่งที่ดีนเป็น เขาแค่หลงใหลในสิ่งที่เขาทำ เขามีชีวิตชีวามาก สำหรับเขามากพอ ๆ กับสำหรับฉัน เขาทุ่มเท 100% ในการเป็นโค้ชว่ายน้ำ” ก่อนจะปรากฎภาพของโค้ชที่กำลังรู้สึกตื้นตัน ก่อนจะปาดน้ำตาขณะที่ทิตมัสขึ้นแท่นรับเหรียญทอง
ที่มา : reuters / news.com.au / dailymail