สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยยังสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การป้องกันควบคู่ไปกับการฉีดวัคซีนให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันที่เพียงพอในการป้องกันการระบาดในวงกว้าง

ล่าสุดเพจ หมอเวร ได้เผยแพร่ข้อมูลจากสหรัฐอเมริกา เป็นผลการทดสอบกาสวมหน้ากากรูปแบบต่างๆ ว่า มีประสิทธิภาพต่างกัน โดยระบุว่า “ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (EPA) เปิดเผยผลการทดสอบค่า FFE (ค่าประสิทธิภาพการกรองอากาศและเชื้อโรค) ของหน้ากากอนามัย โดยทดลองจากวิธีการรัดหลายแบบด้วยกัน

ผลปรากฏว่าการใส่หน้ากากอนามัยโดยใช้ถุงน่องช่วยรัด คว้าชัยชนะไปครองแบบขาดลอย ได้ค่า FFE สูงถึง 80.2% ในขณะที่หน้ากาก N95 ทำคะแนนได้ไป 98.4% ถือว่าสูสีเอาเรื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในการทดลองนี้ก็คือ เทคนิคการใส่หน้ากากโดยการไขว้สายให้แน่นขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงขึ้นมาจากการใส่แบบเดิมเกือบ 2 เท่า

ใส่แบบปกติ FFE = 38.5%
ไขว้สาย FFE = 60.3%

ฉะนั้นสไตล์บ้านๆแบบเรา ที่ขี้เกียจเตรียมของมารัดหัว หรือไม่อยากเรียนรู้การรัดหนังยางหรือไม่ชอบใส่ถุงน่องแนบหน้ากากอนามัยเพราะกลัวเหมือนโจรมุมตึก การใช้เทคนิคไขว้สายรัดสำหรับหน้ากากอนามัย ถือเป็นเทคนิคที่นำไปปฏิบัติได้ง่ายที่สุดแล้วที่เค้าทดลองกันมา

โดยเฉพาะคนที่มีใบหน้าเล็กอันนี้ควรใช้เทคนิคนี้ด้วยยิ่งดี เพราะมันจะช่วยให้แนบด้านข้างได้มากขึ้นนั่นเอง รอบหน้าตอนคว้าหน้ากากอนามัยมาใส่อย่าลืมเอาเทคนิคนี้ไปลองใช้กันนะ เลขคนติดเชื้อบวกเดือดขนาดนี้ทุกวัน การหาเทคนิคที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสป้องกันขึ้นมาใช้บ้างก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน