โดนจับคาด่านเน็ตไอดอลชื่อดัง “ฟลุ้กศรี มณีเด้ง” หลังค้นเจอบุหรี่ไฟฟ้าในคอนโซลรถ เจ้าตัวโวยโดนตำรวจลากเข้าห้องขัง ทั้งที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาอะไร ทั้งลากทั้งรัดคอ แถมยังถูกตบหัวในห้องขัง กระชากคอ บอก “คนอย่างมึงต้องโดนขังเดี่ยว” ก่อนโวยเลสข้อมือ หายบนโรงพัก แต่กลับถูกด่าสวนถึงบุพการี ตร.เผยพกบุหรี่ไฟฟ้าถือว่ามีความผิด ระบุยังไม่ได้มีการอนุญาตให้นำเข้าประเทศได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนพาตัวส่งศาล เฮได้ประตัว 1 แสนบาท
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 10 ธ.ค. ร.ต.อ.ชัยณรงค์ ไชยอินทร์ รอง สวป.สภ. เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตั้งด่านตรวจความมั่นคง บริเวณถนนเส้นพัทยากลาง จ.ชลบุรี ต่อมาได้มีรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน ขร 7454 ชลบุรี ขับเข้ามายังด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบ น.ส.มนุษยา เยาวรัตน์ อายุ 29 ปี หรือ “ฟลุ้กศรี มณีเด้ง” เน็ตไอดอลชื่อดังเป็น คนขับ จากการตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยา ซุกซ่อนอยู่ภายในคอลโซลรถยนต์ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าเป็นของตน ซื้อมาในราคากว่า 5,000 บาท และรู้ว่าผิดกฎหมาย แต่จู่ๆ กลับคว้าโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิป พร้อมกับโวยวายต่อว่าด้วยความไม่พอใจ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวมายัง สภ.เมืองพัทยา น.ส.มนุษยาที่คาดว่าอยู่ในอาการคล้ายมึนเมา พูดจาโวยวายไม่ยอมให้ควบคุมตัวเข้าห้องขัง พยายามขัดขืนถึงขั้นลงไปนอนกลิ้งอยู่กับพื้น เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันจับอย่างชุลมุน จนหกล้มคลุกคลานก่อนจะนำตัวเข้าห้องขังได้อย่างทุลักทุเล
ต่อมาเจ้าตัวได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงในเฟซบุ๊ก “ฟลุ้กศรี มณีเด้ง” เป็นภาพบาดแผลมีเลือดซิบๆ ที่แขน รอยฟกช้ำที่ หัวเข่า พร้อมข้อความว่า “กูตัวแค่นี้ แต่กู ไม่ผิด แค่บุหรี่ บอกเอาเข้าห้องขัง พอเขาห้องขัง ก็เจอกระชากคอ กระชากหัวอีก เลส (ข้อมือ) หาย ด่าพ่อแม่เราอีก คิดเอานะ มึงตรวจเยี่ยวกูก่อนที่จะเจอบุหรี่นะค่ะ คุณตร.”
ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวฟ้องศาลและศาลได้ให้ประกันตัวผู้ต้องหาออกมาในวงเงิน 1 แสนบาท พร้อมกล่าวถึงกรณีเรื่องรถเมื่อตำรวจชุดจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน รถซึ่งเป็นสมบัติของผู้ต้องหา เมื่อถูกควบคุมตัวผู้ที่จะมาเอารถคืนจึงต้องมีเอกสารมาแสดง แต่ผู้ต้องหาเมื่อได้รับการประกันตัวในชั้นศาลแล้วยังไม่ได้นำเอกสารหรือหลักฐานมาแสดงเพื่อรับรถคืนแต่อย่างใด สำหรับรถเมื่อผู้ต้องหานำเอกสารมาแสดงก็จะรับรถกลับคืนไปได้ในทันที
ส่วนเรื่องของคดีถูกตั้งข้อกล่าวหา ผิดพ.ร.บ.ศุลกากร ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วย จําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจํานํา หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี หรือของต้องจํากัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องก็ดี หรือเป็นของที่นําเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อจํากัดหรือข้อห้าม อันเกี่ยวแก่ของนั้นก็ดี มีความผิดต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจําทั้งปรับ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้านี้ประเทศไทย ยังไม่ได้มีการอนุญาตให้นำเข้าประเทศได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงมีความผิด ดังกล่าว
ด้าน น.ส.มนุษยา เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา ได้ขับรถเก๋งมาทางพัทยากลาง ก็เจอตำรวจจราจรตั้งด่าน ตำรวจก็ขอตรวจปัสสาวะ ตนก็ยอมให้ตรวจ พอตรวจเสร็จทั้งตนและเพื่อนก็ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย จากนั้นตำรวจก็ขอค้นรถกระทั่งพบบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ จึงถูกเชิญตัวไป โรงพัก โดยขึ้นรถกระบะของตำรวจไป
แต่พอไปถึงโรงพักตำรวจกลับไม่ยอมฟังอะไรเลย จากนั้นก็เปิดสำนวนเก่าที่ตำรวจเคยดำเนินคดีกับคนอื่นไว้ให้ตนอ่าน ตนก็บอกว่ารู้ว่ามันผิด บุหรี่ไฟฟ้าเป็นของตน เพื่อนตนไม่เกี่ยว ซึ่งตำรวจก็บอกว่างั้นทำเรื่องยึดรถ ตนก็ถามทำไมต้องยึดรถ เพราะว่ารถไม่เกี่ยว ตำรวจถามว่าบุหรี่อยู่ในไหน บอกวางอยู่หน้าคอนโซล แล้วมันเกี่ยวอะไร ทำไมต้องเอารถเข้าไปด้วย ซึ่งเป็นรถของเพื่อนไม่ใช่รถของตน แต่ตำรวจบอกว่าต้องยึดรถ
พอมาถึงพนักงานสอบสวน ก็บอกว่าให้เอาตนไปขัง ทั้งที่ยังไม่แจ้งข้อหาอะไรเลย บอกเอามันขึ้นไปขัง ตนจึงบอกว่าขอนั่งสงบสติอารมณ์ก่อนได้ไหม ตนผิดอะไรทำไมต้องเอาไปขัง จากนั้นก็มีตำรวจ 2 คนจับแขนตนลากขึ้นไป ตนก็รั้งเพราะไม่อยากไป ตำรวจทำรุนแรงมาก ลากตนไปตนก็พยายามดึงตัวออก บางคนจะเห็นในคลิปว่าตนดิ้น เพราะว่าไม่อยากโดนขัง มันเป็นคดีแค่บุหรี่ไฟฟ้า ไม่ใช่คดีร้ายแรง ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่ได้พูดคุยอะไรกับตนเลย ลาก-รัดคอจนฟกช้ำทั่วทั้งตัวเพื่อเข้าไปในห้องขัง
กระทั่งตนเข้าไปในห้องขังก็ได้โวยวาย จากนั้นคนที่คุมห้องขังก็บอกว่า มึงออกมานี่ ผู้ต้องหาคนอื่นจะนอน ตนก็บอกว่าตนไม่ผิด เอาตนไปพบร้อยเวรจะประกันตัว และตำรวจก็เข้ามาตบหัว กระชากคอ ดึงผม ตนจึงผลักเขาออกไป แล้วตำรวจคนดังกล่าวก็บอกว่า “คนอย่างมึงต้องโดนขังเดี่ยว” ตนจึงถามว่าเลสข้อมือตนหายไปไหน เพราะมันหายที่โรงพัก เป็นเลสเงินพระหลวงพ่อรวย มูลค่าประมาณ 2 พันบาท ซึ่งตำรวจด่าตน บุพการี ทำให้โมโหเป็นอย่างมาก
