อธิบดีดีเอสไอ เยี่ยม ‘มึนอ’ เผยความคืบหน้า ‘คดีบิลลี่หาย’ อัยการสั่งสอบเพิ่ม 4 ประเด็น ก่อนชี้ขาดความเห็นส่งฟ้องหรือไม่ เมียบิลลี่ กังวลเรื่องความปลอดภัย

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 29 ก.ย.64 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางมายังบ้านเลขที่ 296 หมู่ที่ 6 ตำบลป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี บ้านของ น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ (มึนอ) ภรรยา นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ที่หายตัวไป เมื่อเดือน เมษายน ปี 57 โดยครั้งสุดท้ายก่อนหายตัวถูกหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (ในขณะนั้น) ควบคุมตัว ต่อมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษ และสรุปสำนวนเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา รวม 4 คน ส่งพนักงานอัยการ

พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่เดินทาง มาในวันนี้เพื่อมาเยี่ยม มุนอ และครอบครัว โดยมาให้กำลังใจและมาแจ้งถึงความคืบหน้าในส่วนของคดีความ ว่า ในขณะนี้ หลังจากที่ทางพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในคีดดังกล่าว ทำให้ ทางทีมคณะทำงาน จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำความเห็นแย้งคำสั่งงไม่ฟ้องดังกล่าวไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 ตนได้รับหนังสือจากสำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีความเห็นกลับมายัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ทีมคณะทำงาน กรมสอบสวนคดีพิเศษ สอบสวนเพิ่มเติม ใน 4 ประเด็น ก่อนชี้ขาดความเห็น โดยอยู่ระหว่างทีมพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม หากทำการสอบสวนเสร็จ ก็จะดำเนินการส่งกลับไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด และคงต้องรอว่าทางอัยการสูงสุด จะมีความเห็นว่าจะสั่งฟ้อง หรือ สั่งไม่ฟ้อง ในคดีนี้ต่อไปอย่างไร

ด้าน น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ กล่าวว่า รู้สึกขอบคุณ ที่ทางอธิบดี และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการในเรื่องการหายตัวไปของนายบิลลี่ มาโดยตลอด จนสามารถดำเนินคดีกับคนที่ทำได้ แต่ตนยังกังวลใจในส่วนของเรื่องเกี่ยวกับเอกสารการรับรองการเสียชีวิตของ บิลลี่ ที่ยังไม่สามารถออกใบมรณะบัตรได้ และเรื่องการคุ้มครองพยาน เพราะตนยังหวาดกลัว และ กังวลใจ

เนื่องจาก ที่ผ่านมา ทางคู่กรณีได้มีการให้ออกจากราชการ และกลับมาอยู่ในพื้นที่ ทำให้ตนไม่กล้าเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียว และข้อสำคัญตนอยากบอกกับสังคมว่า คดีการหายตัวไปของ บิลลี่ ไม่ได้เป็นคดีความที่เป็นเรื่องส่วนตัว แต่อยากให้สังคมได้เข้าใจว่าข้อเท็จจริงแล้วการหายตัวไปของบิลลี่ เป็นคดีของคนส่วนรวม เพราะที่ผ่านมาบิลลี่ ได้ออกมาเรียกร้องสิทธิในที่ดินทำกิน ให้กับชาวบ้านบางกลอย จนหายตัวไป

จึงอยากฝากให้สังคมทั่วไป ได้ช่วยกันเรียกร้องในเรื่องสิทธิที่ดินทำกิน เพราะปัจจุบันนี้ ญาติพี่น้องและคนในชุมชนบางกลอย หลายครอบครัว ก็ยังประสบปัญหาในเรื่องที่ดินทำกิน โดยเฉพาะในเขตอุทยานฯ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน