พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ลงเรือที่ท่าเรือใต้สะพานพระราม 7 ตรวจสถานการณ์น้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยา เตรียมความพร้อมน้ำเหนือ ยันไม่ท่วมเหมือนปี 54

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงเรือตรวจติดตามการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำเหนือในพื้นที่ กรุงเทพฯ พร้อมตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ตั้งแต่ใต้สะพานพระราม 7 เขตบางพลัด ถึงชุมชนโรงสี เขตยานนาวา โดยมีนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายณรงค์ เรืองศรี นางสุธาทิพย์ สนเอี่ยม รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ ผู้บริหารเขต และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กรุงเทพฯ เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจมีระดับน้ำสูงขึ้น รวมทั้งป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ยืนยันว่าปีนี้น้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพฯ เหมือนปี 2554

โดยกรุงเทพฯ ได้เตรียมพร้อมการบริหารจัดการน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วมต่าง ๆ โดยพร่องน้ำในคลองเพื่อรองรับน้ำ สร้างธนาคารน้ำ (water bank) สร้างท่อเร่งระบายน้ำ (Pipe jacking) ขุดลอกคลอง ลอกท่อระบายน้ำ พร้อมทั้งตรวจสอบความแข็งแรงและจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 7 จนถึงบางนา ความยาวประมาณ 78.93 กิโลเมตร

ซึ่งหลังจากปี 54 เป็นต้นมาได้เสริมแนวคันกั้นน้ำถาวรริมเจ้าพระยาสูงขึ้นตลอดแนวที่ระดับ 2.80-3.50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางและเรียงกระสอบทรายเป็นเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) และบริเวณแนวป้องกันที่มีระดับต่ำตามจุดต่าง ๆ 14 จุด รวมระยะทาง 2,512 เมตร

รวมทั้งตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 97 สถานี และบ่อสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งในช่วงน้ำทะเลขึ้น พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุด เครื่องสูบน้ำสำรอง เรือผลักดันน้ำ วัสดุอุปกรณ์ กระสอบทราย ตลอดจนเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเร่งด่วนเคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมปฏิบัติการและช่วยเหลือประชาชน

สำหรับชุมชนที่อาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 11 ชุมชน 239 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขต ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ได้สั่งการให้สำนักงานพื้นที่ ประกอบด้วย เขตดุสิต เขตพระนคร เขตสัมพันธวงศ์ เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา เขตบางกอกน้อย และเขตคลองสาน

ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชุมชนและให้เตรียมขนย้ายสิ่งของให้อยู่ในที่สูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหากเกิดปัญหาระดับน้ำขึ้นสูง นอกจากนี้ได้สั่งการสำนักงานเขตที่มีพื้นที่อยู่ตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาสำรวจพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ อย่างทันท่วงที คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์ สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะคลี่คลาย

สำหรับวันนี้ปริมาณน้ำของกรมชลประทานที่อ.บางไทร ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านกรุงเทพฯ เฉลี่ย 3,052 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดของ กรุงเทพฯ อยู่ที่ระดับ 1.85 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งยังต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานครอยู่ประมาณ 1.15 เมตร จึงยังไม่ได้ผลกระทบจากน้ำที่ปล่อยมาจากเขื่อนเจ้าพระยา

อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนและลุ่มน้ำป่าสัก คาดว่ามีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 1-5 ตุลาคม 64 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ และประชาชนที่อาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน