แฟนเพจเฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ชื่อ Royal Thai Embassy, Seoul ได้เผยแพร่สถิติการเสียชีวิตของคนไทยที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐเกาหลีว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ซึ่งล่าสุดในปัจจุบันถึงช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้ มีคนไทยเสียชีวิตในสาธารณณัฐเกาหลีแล้ว 66 ราย ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ เกิดจากเส้นเลือดในสมองแตก หัวใจล้มเหลว หรือนอนไหลตาย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตได้แสดงความกังวลและห่วงใยถึงประชาชนชาวไทย

โดยโพสต์ดังกล่าว ระบุว่า ขอแสดงความกังวลและความห่วงใยมายังชาวไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในสาธารณรัฐเกาหลี โดยขอให้เอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตนตลอดระยะเวลาการพำนักอยู่ เนื่องจากจำนวนคนไทยที่เสียชีวิตในสาธารณรัฐเกาหลี มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี จากจำนวนผู้เสียชีวิต 29 ราย ในปี 2555 เพิ่มขึ้นเป็น 72 ราย ในปี 2559 ทั้งนี้ ในปัจจุบัน (กลางเดือนธันวาคมของปี 2560) มีคนไทยเสียชีวิตในสาธารณรัฐเกาหลีแล้วจำนวนทั้งสิ้น 66 ราย โดยสาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่ ได้แก่ เส้นเลือดในสมองแตก หัวใจล้มเหลว/หัวใจวาย นอนไหลตาย ปอดบวม อุบัติเหตุ และขาดอากาศหายใจ

โพสต์ระบุต่อว่า โดยเฉพาะแรงงานไทยที่เดินทาง เข้ามาทำงานในลักษณะผิดกฎหมาย ซึ่งจะไม่ได้รับการคุ้มครอง/ไม่ได้รับสวัสดิการตามกฎหมายท้องถิ่น และมักประสบปัญหาการถูกหลอก/เอารัดเอาเปรียบจากนายหน้า และถูกกดขี่จากนายจ้างให้ทำงานหนัก ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุเจ็บป่วย ต้องรับการรักษาพยาบาล แรงงานผิดกฎหมายจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วย รวมถึงในกรณีเสียชีวิตด้วย อาทิ ค่ารักษาพยาบาลที่มีจำนวนสูงมากจากโรงพยาบาล ค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน หรือค่าจัดการ / ขนส่งศพกลับประเทศไทย ด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลในสาธารณรัฐเกาหลี ถือว่าสูงมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ไม่คุ้มค่ากันหรือเพียงพอกับเงินรายได้ที่เก็บออมเงินจากการทำงานอย่างหนักในตลอดระยะเวลาที่พำนักอาศัยในสาธารณรัฐเกาหลี

สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอให้พี่น้องชาวไทยที่พำนักอยู่ในสาธารณรัฐเกาหลี โปรดเอาใจใส่ในสุขภาพของตนเป็นลำดับแรก ทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะและมีประโยชน์ หลีกเลี่ยงการดื่มสุราและของมึนเมา ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย ประกอบการงานอย่างมีสติรอบคอบตลอดเวลา และระมัดระวังในการแต่งกายให้อบอุ่นพอเพียงกับอากาศหนาวจัด โดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนนี้ ที่มีสภาพอากาศหนาวจัดติดลบเกิน 10 องศาในหลายพื้นที่ของสาธารณรัฐเกาหลีด้วย

ขอบคุณเฟซบุ๊ก Royal Thai Embassy, Seoul

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน