จากกรณีผู้เสียหายหลายราย เปิดเผยเรื่องราวที่ถูกโอนเงินไปจากบัญชีธนาคารของตัวเองทั้งที่ไม่ได้เป็นผู้ทำธุรกรรมใดๆ จนรวมตัวกันตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว” ซึ่งมีสมาชิกกว่า 6 หมื่นราย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ต.ค .ข่าวสดออนไลน์ ได้รับการเปิดเผยจากผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นพยาบาลในจังหวัดสงขลาเปิดเผยว่า ตนทำบัตรเครดิตไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งที่ผูกไว้เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน สายการบินหนึ่ง โดยเพิ่งทำมาได้ไม่ถึงปี เพราะต้องการซื้อตั๋วเครื่องบินแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งได้ใช้เพียงครั้งเดียว ตั้งแต่ก่อนช่วงโควิด-19 ระบาด กระทั่งปลายเดือน ส.ค.ที่แล้ว เพิ่งเข้าไปเช็กประวัติการใช้จ่าย พบว่าถูกตัดเงินไป 9 หมื่นบาท โดยระบุเป็นค่าโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก ทั้งหมด 3 ยอด รอบละ 30,000บาท แบ่งเป็นวันที่ 19 ส.ค. 1ครั้ง และวันที่ 23 ส.ค.อีก 2 ครั้ง จากวงเงินบัตรครั้งละ 1 แสนบาท โดยการทำธุรกรรมทั้งหมดไม่มีการส่งข้อความเตือน หรือรหัส otp เข้ามายังโทรศัพท์มือถือเลย
ผู้เสียหาย ยืนยันว่าตนไม่ได้ซื้อโฆษณาอะไรแน่ๆ เพราะเป็นพยาบาล และไม่เคยผูกบัตรไว้กับอะไรแน่นอน หลังเกิดเรื่องก็ได้แจ้งธนาคารไปแล้ว เจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องไว้ดำเนินการภายใน 14 วัน พร้อมอายัดบัตรเดิมและจะส่งบัตรใบใหม่ ส่วนสาเหตุที่ถูกโอนเงินออกไปนั้น เจ้าหน้าที่แจ้งว่าตนอาจเข้าเว็บปลอมในการซื้อตั๋วเครื่องบิน แต่ตนก็จำไม่ได้ว่าซื้อบัตรจากเว็บไซต์โดยตรง หรือผ่านแอพพลิเคชั่นสายการบินดังกล่าว
“ตอนนั้นกังวลมาก และเจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่ต้องแจ้งความ แต่พอเรื่องผ่านไป 2 อาทิตย์ ไปเช็กดูยังพบว่ามียอดเงินค้าง จึงแจ้งธนาคารไปอีกรอบ แต่การติดต่อค่อนข้างใช้เวลา จึงสอบถามเพจ Drama-addict ก่อนได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความ โดยตนไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสงขลา จากนั้นธนาคารจึงแจ้งยกยอดเงินดังกล่าวไป ก่อนจะตัดสินใจยกเลิกบัตรไปเลย ทั้งนี้พบว่ามีอีกหลายคนที่ถูกโอนเงินไปโดยไม่ทราบเหตุเช่นนี้ จึงนำเรื่องราวมาเผยแพร่” ผู้เสียหายระบุ
ทั้งนี้หลังเกิดเรื่องตนก็เลยไม่ผูกบัตรกับแอพใดอีก และขอเตือนคนทั่วไปว่าต้องหมั่นเช็กค่าใช้จ่าย เพราะมีเหยื่ออีกหลายราย แม้แต่คนใช้บัตรเดบิตก็ยังโดน ซึ่งอาจได้คืนยากกว่าบัตรเครดิตเพราะจะถูกหักเงินทันที ซึ่งเหตุนี้ก็ถือว่ากระทบความเชื่อมั่นต่อธนาคารพอสมควร
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายราย ออกความเห็นว่าควรถอนเงินจากธนาคารมาแปรเป็นทรัพย์สินอื่นเช่นทองคำ เก็บไว้แทนหรือไม่ ซึ่งบางส่วนยังระบุด้วยว่า เรื่องนี้อาจทำให้สถาบันการเงินระดับประเทศได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
