จากกรณี ป้าติ้น และ ป้าเล็ก อ้างว่าได้หุ้นกันซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกันกับ ป้าดา ในงวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2559 หมายเลข 066720 จำนวน 5 คู่ ซึ่งเป็นสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท แต่ถูกป้าดา เชิดสลากไปขึ้นเงิน โดยป้าดา ยืนยันว่าไม่เคยมีการซื้อสลากชุดดังกล่าว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี นางเรวดี หาแก้ว หรือ ป้าติ้น ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้ยื่นศาลให้พิจารณาคดีดังกล่าวด้วยตนเอง เพราะตำรวจไม่สั่งฟ้องให้ แต่ศาลพิจารณาว่าคดีมีมูลจึงนัดให้ตนพร้อมกับป้าเล็ก และป้าดา มาเพื่อพิจารณาคดี ตนค่อนข้างมั่นใจในหลักฐานที่ส่งให้ศาลพิจารณาว่า ป้าดายักยอกทรัพย์ของตนไป และรู้สึกดีใจที่กองปราบฯ จะรื้อคดี

โดยตนยินดีที่จะให้ข้อมูล เนื่องจากที่ผ่านมา ตำรวจให้เหตุผลกับตนว่า พยานหลักฐานเข้าไม่ถึง ทั้งที่ตนเซ็นชื่อไว้บนสลาก ตนมาเห็นภายหลังว่า สลากของตนมีรอยขีดฆ่าถูกลบ มีการลงสีที่สลาก ทำให้มองไม่เห็นชื่อที่ตนเซ็นเอาไว้ เราถูกมองเป็นแก๊งตบทรัพย์ ทั้งที่เราถูกโกง ก็เสียความรู้สึก คนที่รู้ดีความจริงคืออะไรคือเราสองฝ่าย รู้แก่ใจใครโกงไม่โกง

ส่วนในคดีขโมยลอตเตอรี่ ระหว่าง ป้าติ้น กับ ป้าติ๋ว ที่คำชะโนด จ.อุดรธานี ตนได้ไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นเดียวกัน แต่ตำรวจไม่ได้พิจารณา ตนจึงเตรียมที่จะยื่นฟ้องศาลด้วยตนเอง

ด้าน นางวิไลพร รัตนติสร้อย หรือ ป้าเล็ก ให้สัมภาษณ์ว่า ความจริงก็คือความจริง เรื่องที่ ป้าดา ไม่มีเงินประกันตัวนั้น ตนไม่เชื่อว่า ป้าดา ไม่มีเงิน เพราะตนเห็นป้าดาไปออกรายการ เคยพูดว่ามีสามีชาวต่างชาติ ทำงานมั่นคง ฐานะดี มีร้านสปาเป็นของตัวเอง ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ ป้าดา จะไม่มีเงินประกันตัว ตนคิดว่า ป้าดา กำลังสร้างภาพว่าตัวเองไม่มีเงิน

ขณะที่ นางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือ ป้าดา เดินทางไปที่ศาลจังหวัดมีนบุรีด้วยสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด และไม่ขอให้สัมภาษณ์กับสื่อ








Advertisement

ด้าน นายปรัชญา คล้ายชูช่วย หัวหน้าฝ่ายมูลนิธิช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ระบุว่า ทางทีมทนายความได้นำเงินประกันของมูลนิธิมาให้ความช่วยเหลือใน “ป้าดา” จำนวน 200,000 บาท แต่เนื่องจากคดีนี้มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 30 ล้านบาท ศาลจึงกำหนดหลักประกันไว้ที่ 500,000 บาท ทำให้หลักทรัพย์ที่นำมาไม่เพียงพอ “ป้าดา” จึงไม่ได้รับการประกันตัว และจะต้องฝากขังไว้ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี ในคืนวันที่ 14 ธ.ค.

นายปรัชญา ยังเปิดเผยอีกว่า ป้าดาเองไม่มีหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินส่วนตัว ที่นำมายื่นประกัน ทางทนายจึงได้ติดต่อให้ญาตินำโฉนดที่ดินไปประเมินราคา แล้วนำมาเป็นหลักทรัพย์ในการประกันตัววันที่ 15 ธ.ค. หากได้รับการประกันตัว ศาลจะนัดมาสืบพยานโจทก์และจำเลยต่อในวันที่ 18-19 เมษายน ปีหน้า

สำหรับด้านคดีความ ทางทนายได้นำหลักฐาน ที่เป็นเอกสารคำให้การของพยานฝ่ายป้าติ้น คือนายบุญสี โพธิ์สาสิม พ่อค้าขายลอตเตอรี่ ที่อ้างต่อพนักงานสอบสวนชุดแรกว่า สามารถจดจำเลขสลากได้ทั้ง 6 หลัก และได้ขายหวยชุดนั้นให้กับ “ป้าติ้น” แต่ในชั้นพนักงานสอบสวนชุดต่อมา นายบุญสี ได้กลับคำให้การว่า จำได้เพียงเลข 3 ตัวหลัง ภายหลังฝ่าย “ป้าติ้น” ยังกล่าวอ้างต่อศาลว่าพยานรายนี้เสียชีวิตแล้ว

นายปรัชญา ค่อนข้างมั่นใจว่า คดีนี้มีโอกาสสูงที่จะชนะคดี และหากศาลยกฟ้องในคดีนี้ ฝ่ายตนจะดำเนินคดีฟ้องกลับฝ่าย นางเรวดี หรือ “ป้าติ้น” ในข้อหาแจ้งความเท็จ และเบิกความเท็จ

ด้านลูกชายป้าดา รับรู้สึกแย่ เผยหากแม่ถูกรางว้ลที่ 1 จริง คงมีเงินไปประกันตัวแล้ว และไม่ต้องเผชิญชะตากรรมแบบนี้ ยัน “แม่ของผมเป็นคนดี ไม่ได้เป็นแบบที่เขากล่าวหา”

 

cr.ทุบโต๊ะข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน