ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ชี้พฤติกรรมพ่อ ล้วง จับอวัยวะลูกสาว เป็นการละเมิด ผิด กม.คุ้มครองเด็ก จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาทางออกให้ครอบครัว เผยสถิติ การละเมิดในครอบครัวไทยสูงขึ้น เริ่มจากเรื่องเล็กน้อย

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการแสดงความรักในครอบครัว ระหว่างพ่อกับลูกสาว แม่กับลูกชาย ว่า การแสดงความรักถึงแม้จะเป็นคนในครอบครัว พ่อกับลูกสาว แม่กบลูกชายก็ตาม จะต้องเข้าใจว่าปัจจุบันมี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กอยู่ ดังนั้นการแสดงความรักของคนในครอบครัวเดียวกันนั้น ถ้าคนเข้าใจเรื่องสิทธิเด็ก การแสดงความรักโดยการจับอวัยวะในจุดหวงห้ามนั้นไม่สามารถทำได้ ถือว่าจะเป็นการละเมิดได้

นอกจากนี้ กรณีการแสดงความรักเช่นนี้อาจจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการเรียนรู้ของเด็ก หากไม่มีการบ่มเพาะหรือฝึกทักษะเขาในเรื่องนี้อาจจะไม่รู้ หรือไม่เข้าใจว่าลักษณะเช่นนี้ถือเป็นการละเมิด ดังนั้นต้องฝึกให้เขารู้ว่าการแตะต้องเนื้อตัว อวัยวะส่วนสงวนเป็นสิ่งที่ไม่ควรให้ผู้อื่นแตะต้อง เป็นต้น ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เด็กมีโอกาสถูกคุกคาม ถูกละเมิดโดยบุคคลอื่นๆ นอกบ้านได้ เช่น ที่โรงเรียน แม้แต่ที่วัดก็เคยมีกรณีการละเมิดเด็กเกิดขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก สังคมไม่ควรนิ่งเฉย

นายจะเด็จ กล่าวว่า กรณีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับบุคคลที่มีชื่อเสียง อาจจะส่งผลกระทบต่อเด็กมากขึ้น ก็ต้องบอกว่า เราไม่ได้จะไปตีตรา หรือประจานครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง แต่ให้เป็นบทเรียนให้สังคมได้เรียนรู้ร่วมกันว่าเพราะว่ามีกฎหมายออกมาคุ้มครองเด็กอยู่ อย่ามองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเป็นรูปแบบการแสดงความรักในครอบครัว ซึ่งเราจะเห็นในต่างประเทศ หากเป็นเช่นนี้เขาจะแยกครอบครัวออกมาแล้ว

ในส่วนของประเทศไทย กรณีที่เป็นข่าวล่าสุด พ่อได้ขอโทษและระบุว่าจะไม่ทำก็ถือเป็นสิ่งที่ดี และไม่ว่าเคสนี้หรือเคสไหน สิ่งที่ต้องแก้คืออาจจะมีผู้เชี่ยวชาญเข้าไปดูแล พูดคุย เพื่อหาทางออกให้กับครอบครัวนี้ด้วย เพราะอาจจะมีปัญหาซ่อนอยู่โดยไม่รู้ตัว เช่นความคิด ความรู้สึก กรณีที่แม่ออกมาปกป้องนั้นอาจจะทำให้เด็กถูกละเมิดมากขึ้น อันตรายขึ้น เพราะเคสที่มูลนิธิเจอนั้นก็เริ่มจากการคุกคามก่อน แล้วปัญหานำไปสู่การละเมิดทางเพศ ซึ่งจะยิ่งทำให้เด็กได้รับปลกระทบและบอบช้ำมากกว่านี้

“การแสดงความรัก กับการคุกคาม ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน การเลี้ยงลูกไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย โอกาสละเมิดนั้นมีสูง พ่อ แม่ต้องรู้ว่ามี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กอยู่ ต้องรู้ว่าเลี้ยงลูกจุดไหนที่ต้องดูแล จุดไหนคือขอบเขตการแสดงความรัก กรณีการล้วง การจับอวัยวะหวงห้ามของเด็กนั้นทำไมได้ หากเป็นเด็กเล็กที่ดูแลตัวเองไม่ได้ แล้วเราต้องช่วยดูแลความสะอาดให้เขาอันนั้นไม่เป็นอะไร แต่เมื่อเด็กโตสามารถดูแลตรงนี้เองได้แล้ว ก็ไม่ควรทำ แม้กระทั่งการหอมแก้ม หากเด็กรู้สึกอึดอัดก็ถือว่าไม่ควรทำ ต้องเข้าใจว่าเราไม่ใช่เจ้าของลูก แต่มีสิทธิความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน” นายจะเด็จ กล่าว

ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประเทศไทยก็ยังมีปัญหาเรื่องการละเมิดในครอบครัวอยู่มาก โดยทางมูลนิธิฯ ได้มีการเก็บสถิติพบว่ามีกรณีพ่อข่มขืนลูก หรือละเมิดทางเพศลูกเยอะ รวมถึงการละเมิดทางเพศต่อเด็กโดยคนใกล้ชิด คนในครอบครัวเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ดังนั้นสังคมต้องตระหนักเรื่องนี้ให้มากขึ้น สังคมจะมองว่าเป็นเรื่องในครอบครัวไม่ได้ เพราะจะเห็นว่าสถิติการข่มขืนเพิ่มขึ้นจริงๆ โดยโดยเฉพาะเด็กเล็ก ดังนั้นกรณีอย่างนี้เป็นการละเมิดสิทธิเด็กอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ต้องฝากสังคมว่าไม่ควรนิ่งเฉยต่อความรุนแรง การละเมิดในครอบครัว แต่ก็ไม่ควรเปิดเผย ส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของเด็ก และผู้ที่เกี่ยวข้องที่สามารถเชื่อมโยงไปถึงตัวเด็กด้วยเพราะจะทำให้เกิดผลกระทบกับเด็กโดยตรง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน