กลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลกับการประกาศสึกของพส. ไพรวัลย์ วรรณบุตร นักเทศน์ผู้เผยแผ่คำสอนของพุทธศาสนาแนวบันเทิง เจ้าของวลี’สภาพ’ ซึ่งมีผู้คนให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม

ช่วงปลายเดือน ส.ค. 64 พส.ไพรวัลย์ วรรณบุตรเริ่มไลฟ์สดสอนธรรมะบนเฟซบุ๊กจนเกิดเป็นกระแสไวรัลในโซเชียลทั่วทุกแพลตฟอร์ม ต่อมาพส.ไพรวัลย์ได้จัดประชันไลฟ์สดสนทนาธรรมกับพระมหาสมปอง ซึ่งกระแสตอบรับดีเกินคาด มีผู้รับชมสูงสุดถึง 200,000 คน

พร้อมเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงพระผู้ใหญ่ไม่ปลื้มกับการไม่สำรวมและใช้ธรรมะในเชิงสร้างสรรค์เท่าทันยุคสมัย ทำให้ศาสนามัวหมอง ซึ่งทางด้านนายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือพศ. เปิดเผยว่า ไม่ถือว่ามีความผิดวินัยรุนแรงของพระสงฆ์

ทว่ากระแสเตรียมลาสิกขา เริ่มต้นตั้งคืนวันที่ 29 ต.ค. 64 พส.ไพรวัลย์กล่าวถึงการสึกของตนอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไลฟ์เฟซบุ๊ก หัวข้อความในใจจาก พส. พว. เพื่อเป็นอารยะขัดขืนให้ความไม่เป็นธรรมในวงการสงฆ์ หลังจากได้ยินข่าวลือพระราชปัญญาสุธี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง จะไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดเนื่องจากตนเอง

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 64 พส.ไพรวัลย์ส่งสัญญาณผ่านแฟนเพจ โพสต์เศร้าระบุว่า ใกล้สลัดปลอกคอ พร้อมขอบคุณพระศาสนา มหาสมปอง วัดสร้อยทอง และพระมหานภันต์ และข้าวน้ำจากความศรัทธาของญาติโยมตลอดเวลา 18 ปี รวมไปถึงถามหาบริษัทขนย้ายสิ่งของ

ทำให้ญาติโยมเข้าไปให้กำลังใจและขอร้องว่าไม่อยากให้สึกพระ ซึ่งที่ผ่านมาพส.ไพรวัลย์แสดงจุดยืนชัดเจนว่าสาเหตุเป็นเพราะการแต่งตั้งเจ้าอาวาสคนใหม่นั้น จากนั้นจึงเริ่มมีความเคลื่อนไหว เปลี่ยนชื่อเพจเป็น “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” โดยไม่มีคำว่า พระนำหน้าชื่อ

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 64 สำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่งเขียนใส่ร้ายโจมตีด้วยข้อมูลเท็จ กล่าวหาพส.ไพรวัลย์บวชมา 18 ปีมีเงิน 300 ล้าน “รวยขนาดนี้ ใช้ยังไงหมด!! พระมหาไพรวัลย์ บวช 18 ปี อู้ฟู่หลายร้อยล้าน!! ด้านพระมหาสมปอง เตรียมมอบเวสป้าเป็นของขวัญวันสึก”

ต่อมาพส. ไพรวัลย์ ได้โพสต์ท้วงติงสิ่งที่สำนักข่าวนี้นำเสนอชี้เป็นการลงข่าวที่บิดเบือนข้อมูล พร้อมประกาศหาทีมทนายเพื่อฟ้องดำเนินคดีสื่อดังกล่าว รวมไปถึงคอมเมนต์ที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท ซึ่งสื่อดังกล่าวโร่ขอโทษพร้อมขอกราบอภัยพส.ไพรวัลย์

วันที่ 1 ธค. 64 เกิดกระแสดราม่าปมทรัพย์สินหลังสึก กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ผู้เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติการณ์ของ 2 พส. หลังออกมาร่ำไห้ถูกจ้องจับสึก และมองว่าไม่เหมาะสม กล่าวว่า “ทรัพย์สินของ พส.ที่ได้มาในขณะอยู่ในสมณเพศ ต้องตกเป็นของวัด เมื่อพระรูปนั้นลาสิกขา เว้นแต่จำหน่ายจ่ายโอนไปก่อนที่จะสละสมณเพศ”

ทางด้านพส.ไพรวัลย์ โต้เดือด ‘อย่าอวดฉลาดคนเดียว’ พร้อมแจงกฎหมายทรัพย์สินของพระภิกษุ ตามมาตรา 1623 หากพระภิกษุนั้นถึงแก่มรณภาพให้ทรัพย์สินตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระภิกษุนั้น

วันที่ 2 ธค. 64 กระแสดราม่าต่าง ๆ ยังคงไม่ลดละจนพส. ไพรวัลย์โพสต์ฉะกลางเฟซบุ๊กระบุว่า “ข้าวแม้แต่ทัพพีเดียวไม่เคยใส่ให้ แต่เสร่อวุ่นวายไม่ว่างเว้น” พร้อมฉะสื่อสื่อรายหนึ่งที่ออกมาทำคอนเทนต์ ‘ออกแบบทรงผมรอมหาไพรวัลย์สึก’ ระบุ “เอาเวลาที่มีไปดูแลผมบนหัวตัวเองกันให้ดีนะ ไม่ต้องเป็นห่วงผมบนหัวคนอื่น ผมบนหัวอาตมา มิได้ไปหนักบนหัวใครแน่นอน เจริญพร” “ขยันนักกับการสอดแซมเรื่องของชาวบ้าน ทำไมกับชีวิตตัวเอง ไม่เห็นขยันแบบนี้บ้างเลย” งานนี้ลูกเพจต่างพากันคอมเมนต์ยับ

จนกระทั่งเช้าวันที่ 3 ธค. 64 เวลา 09.40 น. เพจ ไพรวัลย์ วรรณบุตร​ ได้โพสต์บรรยากาศภาพลาสิกขาของอดีตพระมหาไพรวัลย์ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสวมใส่ชุดไปรเวท พร้อมโพสต์ภาพเดินทางไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน