วีเจสาวชาวร้องสื่อ หลังไปเสริมหน้าอก แต่นมกลับติดเชื้อ ต้องผ่าเอาซิลิโคนออกทั้ง 2 ข้าง แฉเป็นแพทย์สูตินารีเวช แต่มาทำงานด้านศัลยกรรม มีโดนอีก 3 ราย

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 24 ปี วีเจสาวชาว จ.ราชบุรี เหยื่อศัลยกรรมเสริมอกในคลินิกแห่งหนึ่ง จนเต้านมอักเสบติดเชื้อ และมีอาการหัวนมข้างขวาไร้ความรู้สึก ข้างซ้ายน้ำนมไหล วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบใบอนุญาต

น.ส.บี เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพหลักเป็นพนักงานตรวจสอบบัญชีอยู่ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังหารายได้เสริมหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการรับงานเป็นวีเจ พริตตี้ และรับถ่ายแบบ แต่ด้วยลักษณะงานที่ทำ ประกอบกับเป็นสาวรูปร่างเล็ก จึงอยากจะทำศัลยกรรมเพื่อสร้างความมั่นใจ เสริมบุคลิกภาพ และรายได้ที่จะตามมาในอนาคต

ตนได้หาข้อมูลและรีวิวของคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามต่าง ๆ กระทั่งพบและตัดสินใจเลือกผ่าตัดเสริมหน้าอกขนาด 435 ซีซี ที่คลินิกแห่งหนึ่งในจ.ลพบุรี ราคาอยู่ที่ 30,000 บาท แต่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด ในวันที่ 14 สิงหาคม 64 ที่คลินิกย่านประชาชื่น กรุงเทพฯ หลังจากผ่าตัดครบ 7 วัน ในวันที่ 21 สิงหาคม 64 จึงไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจอาการ

พบว่าที่เต้านมข้างขวาหัวนมเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ ไร้ความรู้สึก รวมไปถึงมีตุ่มพองขึ้นหลายจุด สาเหตุเกิดจากเต้านมติดเชื้อ จึงตัดสินใจเอาเต้านมเทียมข้างขวาออก ต่อมาเต้านมข้างซ้ายก็เริ่มมีอาการปวดพร้อมกับมีน้ำนมไหล และมีไข้หนาวสั่นคล้ายอาการติดเชื้อ จึงไปพบหมออีกครั้ง ปรากฏว่าบริเวณฝีเย็บที่เต้านมข้างซ้ายมีอาการปริแตก เป็นหนอง ต้องเย็บใหม่ และอยู่ระหว่างรอดูอาการ

แม้จะผ่านไปได้ 7 วัน แต่บาดแผลก็ยังไม่สมาน ต้องเย็บใหม่รวมเป็นครั้งที่ 3 กระทั่งวันที่ 22 กันยายน 64 ตนทนความเจ็บปวดต่อไปไม่ไหว จึงตัดสินใจให้หมอนำเต้านมเทียมข้างซ้ายออก และได้มีการพูดคุยกับเจ้าของคลินิกในส่วนของความรับผิดชอบ

เบื้องต้นทางคลินิกได้คืนเงินค่าศัลยกรรมจำนวน 30,000 บาท และค่าบริการนำเต้านมเทียมออก ซึ่งตนยังไม่ทราบราคา โดยในส่วนของค่าชดเชย ตนได้ยื่นเสนอไป 150,000 บาท เพื่อจะนำไปเป็นค่ารักษาตัว และศัลยกรรมนมใหม่จะได้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติเช่นเดิม แต่ทางทนายความของคลินิกปฏิเสธ และให้ไปดำเนินการฟ้องร้องเอาเอง

ตลอดระยะเวลาหลังจากทำศัลยกรรม ตนต้องใช้ชีวิตด้วยความทุกข์ทรมาน เจ็บปวดทั้งกายและใจ เสียเวลา อาชีพ และเงินรายได้ที่จะใช้สำหรับจุนเจือครอบครัว ตนจึงได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไปโพสต์เตือนในกลุ่มเฟซบุ๊กรีวิวเสริมความงาม ไม่นานก็ได้รับการติดต่อจากหญิงสาว 2-3 ราย ที่เคยประสบเหตุคล้ายกัน โดยแพทย์คนเดียวกัน

หนึ่งในนั้นอาการหนักถึงขั้นต้องตัดหัวนมทิ้ง นอกจากนั้นยังทำให้ตนมาทราบในภายหลังอีกว่า แพทย์คนดังกล่าวเป็นแพทย์ด้านสูตินารีเวชในจ.สมุทรสาคร แต่มาทำงานด้านศัลยกรรมตกแต่งความงาม ทั้งนี้ ตนจึงอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้หญิงทุกคน ที่คิดจะทำศัลยกรรม ขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะแพทย์ ผู้ซึ่งสามารถจะเปลี่ยนแปลงเราไปทั้งชีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน