จากกรณีตา หลาน เสียชีวิตในวันเดียวกัน และเวลาไล่เลี่ยกัน โดยพบประวัติว่า ตาและหลานดื่มน้ำจากขวดเดียวกัน และมีอาการน้ำลายฟูมปากก่อนจะเสียชีวิต โดยญาติได้ติดใจสาเหตุการตายและนำเรื่องไปขอความช่วยเหลือจากหมอปลา และมีการเดินทางไปดื่มน้ำพิสูจน์ที่บ้านมาแล้วนั้น

โดยรองศาสตราจารย์ ดร. วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้นำตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ผลตรวจน้ำจากเครื่องกรองน้ำ พบว่ามีสารฟีนอล ซึ่งเป็นสารพิษ ที่ไม่ควรอยู่ในน้ำดื่มทุกชนิดเจือปนอยู่ โดยสารฟีนอล เป็นสารที่ถูกนำมาใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิต ผลิตภัณฑ์เคมีหลายชนิด อาทิ สีย้อม สารเคมีกำจัดวัชพืช และศัตรูพืช หากเข้าสู่ร่างกายจะไหลเข้าสู่ระบบเลือด และหากได้รับเกิน 4.8 มิลลิกรัม สามารถทำให้เสียชีวิตภายใน 15 นาทีได้

หมอปลาดื่มน้ำ

หมอปลาทดลองดื่มน้ำจากเครื่องกรองน้ำในบ้านหลังดัดงกล่าว

ส่วนอันตรายจากสาร ฟีนอล จะแบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ 1.การเป็นพิษเฉียบพลัน อันเกิดจากการสัมผัส จะทำให้เกิดการละคายเคืองต่อผิวหนัง เยื่อบุตา เยื่อบุระบบทางเดินหายใจ มีอาการวิงเวียนศรีศระ อาเจียน ท้องร่วง และการได้รับสารฟีนอลเข้าทางปากเพียง 4.8 มิลลิกรัม จะทำให้เสียชีวิตได้ภาย 15 นาที

สารพิษที่ อ.อ๊อด พบ

สารพิษที่ อ.อ๊อด พบ

ด้านนายนวพล ศรีสวัสดิ์ ลูกชายของนายณรงค์ศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ อายุ 56 ปี ซึ่งเสียชีวิตวันเดียวกับน้องน้องที โดยนายนวพลมีศักดิ์เป็นลุงน้องที กล่าวถึงผลตรวจที่ มีสารฟีนอลในขวดน้ำดื่ม ว่า รู้สึกงง และไม่รู้ว่า สารนี้มาอยู่ในขวดน้ำได้อย่างไร ชี้แจงว่า พ่อกับแม่เป็นคนซื้อเครื่องกรองน้ำนี้มาประมาณ2-3ปีแล้ว และไม่เคยมีปัญหาก็ดื่มกินกันตลอด โดยยายเป็นผู้กรอกน้ำทุกวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน