กิ๊กสาวไม่รอดโดนข้อหาร่วมฆ่า “หมอปอ” ตร.รวบตัว “น้องมล” รับสารภาพ “เก่ง” ให้เงิน 7 พันบาทไปซื้อปืน อ้างมีศัตรูไว้ป้องกันตัว วันเกิดเหตุให้ขับรถจากหลังสวนไปส่งที่ร.พ. บอกไปเคลียร์ปัญหา พอส่งเสร็จก็ขับไปทำธุระ หลังเที่ยงคืนโทร.ให้กลับมารับ ตลอดทางให้จอดรถทิ้งสิ่งของบางอย่าง ไม่คิดว่าจะฆ่าหมอปอ แต่ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ มีหลักฐานวงจรปิดหลายจุดมัด งมเจอแล้ว ปืนทูตมรณะ ซุกพงหญ้าริมคลอง คุมเก่งส่งฝากขังศาลผัดแรก ค้านประกันตัว ศาลอนุมัติ
จากกรณีนายรณชัย หรือเก่ง ปานชาติ อายุ 26 ปี พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.หลังสวน จ.ชุมพร ก่อเหตุยิงฆ่า น.ส. นนทิญา ครัวจัตุรัส หรือหมอปอ อายุ 25 ปี เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เป็นแฟนสาวที่จะแต่งงานกัน โดยรับสารภาพอ้างว่าไม่อยากแต่ง และถูกกดดันอย่างหนัก ต่อมาตำรวจขออนุมัติศาลจังหวัดชุมพรออกหมายจับกิ๊กสาวของนายเก่ง หลังมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าอาจเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนรู้เห็น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำราญ มาเจริญ รองผบก.ชุมพร พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ พ่วงเพชร ผกก.สส.บก.ภ.จว.ชุมพร และ พ.ต.อ.พุฒิพงษ์ พานิชศิลป์ ผกก.สภ.สลุย ควบคุมตัว น.ส.นฤมล ช่วยสมบัติ อายุ 23 ปี พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.หลังสวน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ข้อหาร่วมกันฆ่า ผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาไปในเมือง ในหมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.นฤมลให้การรับสารภาพว่าคบหาสนิทสนมกับนายรณชัย หรือเก่ง ผู้ต้องหาฆ่าหมอปอ โดยก่อนเกิดเหตุนายเก่งให้เงิน 7,000 บาท ไปซื้ออาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์จากเพื่อนในหมู่บ้าน โดยอ้างว่ามีศัตรูจะมีไว้ใช้ป้องกันตัว ต่อมาคืนวันที่ 18 ธ.ค. นายเก่งให้ขับรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ สวิฟต์ ทะเบียน 4 กจ 5648 กทม. เป็นของตนจาก อ.หลังสวน ตั้งแต่ช่วงเย็นให้ไปส่งที่หน้า รพ.สต.สลุย
น.ส.นฤมลให้การว่า กระทั่งมาถึง รพ.สต.สลุย เวลาประมาณ 21.00 น. นายเก่งบอกว่าจะไปเคลียร์ปัญหาส่วนตัวกับหมอปอ เมื่อส่งเสร็จแล้ว ตนขับรถออกไปทำธุระ จากนั้นหลังเที่ยงคืนนายเก่งโทรศัพท์ให้กลับเข้าไปรับ เพื่อกลับหอพักที่ อ.หลังสวน จึงขับรถไปตามถนนสายรองในหมู่บ้าน โดยตลอดทางนายเก่งให้จอดรถนำสิ่งของบางอย่างทิ้งในลำคลอง และป่าละเมาะหลายจุด โดยไม่คิดว่านายเก่งจะ ไปฆ่าหมอปอเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคำให้การดังกล่าว ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพฤติกรรมตั้งแต่การจัดหาซื้ออาวุธปืนเถื่อน การเตรียมการ จนกระทั่งก่อเหตุฆ่าหมอปอ และเส้นทางการขับรถหลบหนี อีกทั้งระหว่างทางยังทิ้งของกลางหลายจุด โดยตลอดเส้นทางทั้งขามาและกลับ เจ้าหน้าที่มีหลักฐานสำคัญจากกล้องวงจรปิดหลายจุด จนนำไปสู่การออกหมายจับ น.ส.นฤมล และศาลอนุมัติตามคำร้องและ หลักฐาน หลังสอบสวนแล้ว ตำรวจนำตัว น.ส.นฤมล ไปควบคุมที่ สภ.สลุย เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมและในวันที่ 23 ธ.ค. จะพาไปขออำนาจศาลจังหวัดชุมพร ฝากขังระหว่างสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.สนธิชัยกล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบหลักฐานเชื่อมโยง น.ส.นฤมล ร่วมกันกระทำความผิด ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและนำไปสู่การออกหมายจับ สำหรับนายเก่งรับสารภาพไม่ได้หวังทรัพย์สินเงินสินสอด แต่ตั้งใจเจตนาจะไปฆ่า เพราะนายเก่งหมดรักหมอปอแล้ว และถูกกดดันให้แต่งงาน อีกทั้ง ผู้ต้องหามีปัญหาเรื่องเงินกู้ 1 ล้านบาทด้วย
ผบก.ชุมพร กล่าวต่อว่าสำหรับทรัพย์สิน ทั้งเงินสินสอดและทองคำรูปพรรณ 10 บาท ที่ฝ่ายครอบครัวหมอปอ และครอบครัวของนายเก่งกล่าวอ้างกันไปมานั้น ขณะนี้ยังไม่ปรากฏชัดเจนว่าเป็นของใคร และอยู่ที่ไหน แม้เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นหลักของสำนวนการสอบสวน แต่ตำรวจจะแสวงหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ต่อมา พล.ต.ต.สนธิชัย และ พ.ต.อ.พุฒิพงษ์ พานิชศิลป์ ผกก.สภ.สลุย นำนักประดาน้ำไปงมหาอาวุธปืนของกลาง ตามที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่านำไปทิ้งที่บริเวณสะพานบนถนนสายอ่างทอง-บ้านกลาง หมู่ 14 ต.หงส์เจริญ อ.ท่าแซะ ห่างจากจุดก่อเหตุ 15 ก.ม. จากการค้นหาพบอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ซุกอยู่ในหมวกไอ้โม่งไหมพรมสีดำ ทิ้งในพงหญ้าริมคลอง พร้อมกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ที่ยังไม่ได้ยิง 1 นัด ส่วนปลอกกระสุนที่ใช้ ก่อเหตุ นักประดาน้ำดำเจออยู่ในน้ำใกล้ตลิ่ง จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนนายรณชัย หรือเก่ง ทางพนักงานสอบสวนคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดชุมพรฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุมัติตามคำร้อง
ด้านนายบำรุง ครัวจัตุรัส พี่ชายหมอปอ กล่าวหลังทราบข่าวตำรวจจับกุมน้องมล กิ๊กสาวนายเก่ง ว่าพ่อแม่และครอบครัวพอใจ ขอบคุณตำรวจ ตอนนี้สภาพจิตใจครอบครัวดีขึ้นมาก ส่วนเงินสินสอดและทองคำที่หายไปนั้น วันจันทร์ที่ 25 ธ.ค. ครอบครัวจะประสานธนาคารหลายสาขาที่น้องสาวนำเงินไปฝากไว้ เพื่อขอตรวจสอบเงินในบัญชี รวมถึงการเบิกถอนเงินออกจากบัญชี เพื่อสร้างความกระจ่างชัดในประเด็นเงินสินสอดที่หายไป
