สยองกลางห้องทำงานกองทะเบียนพล สตช. สารวัตรหนุ่มฝ่ายแต่งตั้ง ใช้ปืนยิงตัวตายทิ้งจ.ม.ขออโหสิกรรมระบุซึมเศร้าจนเกินไป พบประวัติอายุแค่ 30 ปี ทำงานดีและมีผลงานโดดเด่น จนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นสารวัตรคนแรกของ นรต.รุ่น 63 โดยรับผิดชอบทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายระดับรองสารวัตร-ชั้นประทวน เพื่อนเผยเป็นคนเคร่งเครียดกับการทำงานมาก รองผบ.ตร.สั่งทำรายงานด่วนพร้อมให้ตั้งชุดสอบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช ร่วมหาสาเหตุแต่เบื้องต้นเชื่อป่วยซึมเศร้า

สารวัตรหนุ่มยิงตัวตายคาที่ทำงานใน สตช. เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นภายในสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ (สตช.) เมื่อพ.ต.ต.สหัสวรรษ พันธ์เกตุ หรือสารวัตรป๊อป อายุ 30 ปี สารวัตรฝ่ายแต่งตั้ง กองทะเบียนพล (ทพ.) ใช้อาวุธปืน ยิงตัวเองเสียชีวิตภายในห้องทำงานชั้น7 อาคาร5 ภายในสตช. สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะ 1 นัด นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณเตียงนอนผ้าใบภายในห้องทำงาน ใกล้กันพบจดหมายลาตายเขียนข้อความว่า”ขออโหสิกรรมด้วยครับ เพราะซึมเศร้าจนเกินไป” โดยแม่บ้านมาพบศพในตอนเช้า จึงแจ้งเหตุร้ายดังกล่าว

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. (ปป.1 ) กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุของปมปัญหา มีเพียงจดหมายลาตายของผู้เสียชีวิต สั่งการให้หัวหน้าหน่วยทำรายงานขึ้นมาตามลำดับชั้น และให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์จากสถาบันนิติเวช มาร่วมตรวจชัณสูตร แล้ว คงต้องรอให้ผลการตรวจออกมาก่อน

ด้านพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่าพ.ต.ต.สหัสวรรษ ถือว่าเป็นตำรวจที่ทำงานดีมากมีผลงานโดดเด่น เคยปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีอนาคตไกลเพราะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นสารวัตรคนแรกของนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 63 อยู่ในตำแหน่งสารวัตรมาแล้ว 2 ปี

“กรณีที่เกิดขึ้นนั้นน้องเขาอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าแต่ไม่ได้บอกใคร ไม่ได้บอกญาติ ไม่ได้บอกผู้บังคับบัญชา คาดว่าทำให้เขากระทำการไปด้วยการไม่รู้สึกตัวหรือขาดสติ” พล.ต.อ.วิระชัยกล่าว

ด้านเพื่อนตำรวจระบุว่าพ.ต.ต.สหัสวรรษ หรือสารวัตรป๊อป เป็นคนเคร่งเครียดกับการทำงานมาก หน้าที่หลักๆ รับผิดชอบบัญชี แต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรองสารวัตร – ชั้นประทวน ส่วนการมานอนที่ทำงานนั้นถือเป็นเรื่องปกติเพราะตำรวจหน่วยนี้ถือว่าต้องทำงานหนัก และบางครั้งต้องทำงานช่วงเสาร์-อาทิตย์ด้วย

ส่วนนต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงปัญหาโรค ซึมเศร้าว่า เป็นภาวการณ์เจ็บป่วยที่ต้องเร่งรักษาและป้องกัน เนื่องจากโรคนี้ส่งผลต่อการสูญเสียทั้งชีวิต การงาน การเรียน การเข้าสังคม องค์การอนามัยโลกระบุว่าในปีที่ผ่านมาประชากรโลกเผชิญปัญหานี้ 1 ใน 20 คน และเมื่อป่วยแล้วมีอัตราป่วยซ้ำได้สูงถึงร้อยละ 50-70 ที่น่าวิตกไปกว่านั้นพบว่าโรคซึมเศร้าเป็นต้นเหตุใหญ่ทำให้วัยรุ่นทั่วโลกฆ่าตัวตาย หรือไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป

อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวต่อว่า ประเทศ ไทยมีผลการศึกษาพบวัยรุ่นไทยอายุ 10-19 ปี มีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าสูงร้อยละ 44 หรือมีประมาณ 3 ล้านกว่าคนจากวัยรุ่นที่มีทั้งหมดประมาณ 8 ล้านคน มีอัตราป่วยเป็นโรคนี้ร้อยละ 18 คาดว่าขณะนี้ทั่วประเทศมีวัยรุ่นป่วยด้วยโรคซึมเศร้าแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังเข้าถึงบริการน้อย เนื่องจากลักษณะอาการทางอารมณ์และพฤติกรรมของวัยรุ่นที่ป่วยซึมเศร้าจะไม่เหมือนอาการของผู้ใหญ่ กล่าวคือ อาจมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง ทำร้ายตัวเองหรือคนอื่น มีอารมณ์ก้าวร้าวหรือแปรปรวนง่าย มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่นใช้ยา เสพติด หรืออาจแยกตัว ไม่กล้าเข้าสังคม ทำให้ผู้ปกครอง ครู เข้าใจผิดคิดว่าเป็นปัญหานิสัยเกเร จึงทำให้วัยรุ่นที่มีภาวะซึมเศร้าจำนวนมากไม่ได้รับการช่วยเหลือและนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ที่มีความรุนแรงขึ้นตามมา เช่น ฆ่าตัวตาย ทำร้ายคนอื่น ติดยา เรียนไม่จบ เป็นต้น

“ขณะเดียวกันด้วยลักษณะเฉพาะของตัววัยรุ่นเอง ที่ไม่ต้องการถูกระบุว่ามีปัญหา อาจปฏิเสธการไปรับการรักษา โดยเฉพาะเมื่อเจอผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจ ตำหนิ กรมสุขภาพจิตเร่งแก้ไขปัญหา โดยให้สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ พัฒนาแนวทางการดูแลรักษาวัยรุ่นที่มีภาวะซึมเศร้าให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ เพื่อให้วัยรุ่นที่มีปัญหาได้รับการดูแลตั้งแต่ต้นอย่างทันท่วงที” นต.นพ.บุญเรืองกล่าว

พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กทม. กล่าวว่าวัยรุ่นที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ ซึมเศร้า มี 4 กลุ่มใหญ่ได้แก่ 1. ผู้ที่มีประวัติเป็นคนในครอบครัวเป็นโรคทางจิตเวช เช่น เป็นโรคซึมเศร้า โรคอารมณ์ 2 ขั้ว โรควิตกกังวล สมาธิสั้น 2.มีโรคเรื้อรังทางกาย เช่นโรคมะเร็ง โรคไต 3.ผู้ที่มีปัญหาทางด้านจิตสังคม เช่น อกหัก ใช้สารเสพติด ตั้งครรภ์ ปัญหาการเรียน โดนรังแก ฯลฯ และ 4.กลุ่มที่มีครอบครัวไม่อบอุ่น มีความขัดแย้งในครอบครัว รวมทั้งการเลี้ยงดูที่ขาดการสอนทักษะการจัดการอารมณ์ตนเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน