ปศุสัตว์ เตรียมเสนอของบประมาณเพิ่มเติม ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 500 ล้านบาท เพื่อมาช่วยเหลือจัดการโรคอหิวาต์หมู ในไทย

10 ม.ค. 2565 – นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญกับการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (เอเอสเอฟ) โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ยกเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ

ทางกรมปศุสัตว์ ได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคเอกชน สถาบันการศึกษา เกษตรกร และองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (โอไออี) และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) เพื่อดำเนินการป้องกันไม่ให้เข้ามาประบาดในประเทศไทย เพราะโรคนี้แม้จะเกิดขึ้นมากว่า 100 ปีแล้ว แต่ยังไม่มียารักษา

จากกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า พบโรคเอเอสเอฟในไทย ทางกรมได้ลงไปตรวจสอบในพื้นที่ ที่มีการเลี้ยงสุกรอย่างหนาแน่นโดยเฉพาะที่ ราชบุรี นครปฐม ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และขอนแก่น รวมถึงลงพื้นที่สำรวจในจังหวัดภาคเหนือ และภาคใต้บางจังหวัด เพื่อค้นหาโรคเอเอสเอฟ โดยใช้วิธีเก็บตัวอย่างในเลือดสุกร และโรงฆ่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรอผลจากสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ คาดว่าจะใช้เวลาในการรอผลตรวจไม่เกิน 2 วัน หลังจากนั้นกรมจะชี้แจงให้สาธารณชนทราบโดยเร็วที่สุด

หากพบการระบาดของเอเอสเอฟ เราจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อให้อุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรในไทย สามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยที่ผ่านมาเมื่อพบความเสี่ยง รัฐบาลอนุญาตให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำลายสุกรทิ้งได้เลย โดยมีค่าชดเชยให้กับรายย่อย ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลมีงบประมาณในการช่วยเหลือผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ประมาณ 1,142 ล้านบาท ทางกรมปศุสัตว์เตรียมเสนอของบประมาณเพิ่มเติม ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อมาช่วยเหลือในส่วนนี้เพิ่มอีก 500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การที่กรมมีห้องปฏิบัติการเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน จะช่วยให้การตรวจโรคในสุกร หรือโรคอะไรก็ตาม หากพบโรคก็จะประสานมาที่กรม เพื่อให้ดำเนินการตรวจโรคอย่างถูกต้องและแม่นยำ เพราะหลังจากที่พบโรคกรมจะต้องแจ้งเรื่องไปยัง องค์การโอไออี ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน