ศวปถ.เผยมีคนเดินถนนถูกชนกว่า 2.9 พันคนต่อปี จี้ สตช. เพิ่มบทลงโทษชนคนใช้ทางม้าลาย ด้าน รพ.สระบุรี เตรียมขอพระราชทานเพลิงศพ

วันที่ 24 ม.ค.65 นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงกรณีตำรวจควบบิ๊กไบก์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลายเสียชีวิต ว่า แต่ละปีมีคนไทยจำนวนมากได้รับผลกระทบความสูญเสียจากการข้ามถนน ข้อมูลผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปี 2559-2561 ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเป็นคนเดินถนนร้อยละ 6-8 หรือเฉลี่ย 800-1,000 ราย ในแต่ละปี และถ้าดูข้อมูลที่รวบรวมโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าคนเดินถนน ประสบเหตุถึง 2,500-2,900 รายต่อปี โดยกว่า 1 ใน 3 เป็นพื้นที่ กทม.เฉลี่ย 900 รายต่อปี มีปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญคือ

1.ถนนมีลักษณะหลายช่องจราจร เวลาข้ามถนนต้องใช้ระยะเวลาอยู่บนถนนนาน และแม้จะมีบางช่องจราจรหยุด แต่ช่องจราจรด้านในมักจะไม่หยุด 2.เมื่อมีคนข้าม รถในช่องทางชะลอหรือหยุดแต่ช่องจราจรขวาสุดที่ขับขี่ด้วยความเร็วมักไม่ได้ชะลอและอาจมองไม่เห็นกันทั้งสองฝ่าย ทำให้จุดนี้เป็นอีกจุดอันตรายของการข้ามถนนที่มักจะมีผู้เกิดเหตุและเสียชีวิต

“ทุกครั้งที่มีข่าวความสูญเสียที่สังคมให้ความสนใจ ผู้นำและหน่วยงานกำกับจะทำงานเข้มข้นขึ้น ระยะหนึ่งเรื่องก็เงียบไป ขาดการแก้ไขอย่างจริงจัง และหลายครั้งของความสูญเสียก็สรุปสั้นๆ เพียงความประมาท เลินเล่อ ขาดจิตสำนึก หรือด่วนสรุปเพียงคนขี่หรือคนเดินข้ามประมาท หน่วยงานที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้อง ควรต้องสร้างระบบแห่งความปลอดภัย (Safe System) ที่เป็นหลักประกันให้กับสังคม มากกว่าการสั่งการแบบเดิมๆ โดยไม่เกิดระบบจัดการที่เป็นรูปธรรม สิ่งที่สังคมไทยจะดำเนินการควบคู่กันต้องมีระบบเฝ้าระวัง ระบบกำกับติดตาม และที่สำคัญการทวงถามความรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้คนในสังคมต้องพบกับความสูญเสียเหมือนที่ครอบครัวของคุณหมอกระต่ายอีก” นพ.ธนะพงศ์ กล่าว

นพ.ธนะพงศ์ กล่าวต่อว่า ขอเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ดังนี้ 1.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาดำเนินการผลักดันให้ความผิดกรณีชนคนเดินบนทางม้าลาย ต้องมีข้อหา “ขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยทุกครั้ง” พร้อมทั้งปรับปรุงฐานความผิดที่รุนแรงมากกว่าขับรถโดยประมาท เพิ่มการตรวจจับและบังคับใช้ในกรณีไม่หยุดหรือชะลอรถให้คนเดินข้ามทางม้าลาย และมีระบบกำกับติดตามประเมินผลที่สามารถทราบได้ว่ามีการดำเนินงานจริงในแต่ละพื้นที่หลังจากที่มีการสั่งการไปแล้ว

2.ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) พิจารณาดำเนินการกำหนดให้เรื่องความปลอดภัยในการข้ามถนน เป็นวาระที่ ศปถ. ในทุกระดับต้องสำรวจและมีแผนดำเนินการ พร้อมทั้งมีการกำกับติดตามความคืบหน้าและติดตามประเมินผลอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งรายงานผลให้ ครม. รัฐสภา และสาธารณะ รับทราบอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับรายงานความปลอดภัยทางถนนในด้านอื่นๆ

“ศปถ. เพิ่มการสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และความตระหนักถึงความเสี่ยง ตลอดจนส่งเสริมให้มีการเฝ้าระวังหรือแชร์ภาพ คลิป กรณีไม่หยุดให้คนเดินข้ามทางม้าลาย เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมสังคมอีกทางหนึ่ง และส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องการข้ามถนน โดยเฉพาะการคาดการณ์ความเสี่ยงของผู้ที่กำลังข้ามถนน การดึงสติการไม่ละสายตาดูมือถือ ฯลฯ ตั้งแต่เด็กและเยาวชน รวมทั้งประชาชนทั่วไป” นพ.ธนะพงศ์ กล่าว

นพ.ธนะพงศ์ กล่าวอีกว่า ข้อ 3.การแก้ไขเชิงโครงสร้างถนน โดยให้กระทรวงคมนาคม หน่วยงานท้องถิ่น และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ดูแลถนนและโครงสร้างพื้นฐาน ควรเร่งดำเนินการ ดังนี้ 3.1 ถนนที่มีทางข้ามหลายช่องจราจร ให้มีการจัดการความเร็วของรถที่ขับขี่ โดยเฉพาะในเขตชุมชน จุดข้ามทางม้าลาย ควรใช้ความเร็ว 30-40 กม./ชม. เมื่อมีคนข้าม 3.2 เพิ่มระยะเส้นหยุดหรือมีสัญลักษณ์ให้เด่นชัดสำหรับรถที่ต้องชะลอหรือหยุด เช่น เส้นซิกแซ็ก การทำสัญลักษณ์สี เพื่อให้คนข้ามหรือรถสามารถมองเห็นกันมากขึ้น ของคนข้ามทางม้าลายในแต่ละช่องจราจร

3.3กรมการขนส่งทางบก กำหนดเรื่องการชะลอและหยุดให้คนข้ามทางม้าลายไว้ในหลักสูตรและการสอบใบขับขี่ รวมทั้งการคาดการณ์ความเสี่ยงที่จะขึ้นด้วย และข้อคิดสำคัญหนึ่งของกรณีอุบัติเหตุครั้งนี้ คือ การแชร์ถนนให้กับคนเดินเท้า ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางในกลุ่มผู้ใช้รถใช้ถนน และหวังว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในบ้านเราที่ ‘ทางม้าลายจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับคนข้ามถนน’

นพ.อนันต์ กมลเนตร ผอ.รพ.สระบุรี กล่าวว่า ครอบครัวคุณหมอกระต่าย ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นแพทย์และเจ้าหน้าที่ของรพ. ที่เกษียณอายุราชการไปได้กว่า 2 ปี อีกทั้งหมอกระต่ายเคยเป็นแพทย์ใช้ทุน รพ.สระบุรีเมื่อ 6 ปีก่อน ขณะนี้ครอบครัวยังอยู่ระหว่างการทำใจ คาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง และเนื่องจากหมอกระต่าย เรียนสำเร็จแล้วก็ได้สมัครเป็นแพทย์รอการบรรจุของรพ.ตำรวจ เรื่องนี้จึงเป็นรอยต่อ แต่ทางรพ.สระบุรีก็ยินดีช่วยเหลือและขอพระราชทานเพลิงศพให้เป็นกรณีพิเศษ

ด้าน พล.อ.ต.นพ.อิทธิพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ได้มีโอกาสไปร่วมงานศพ ทางแพทยสภาพร้อมให้การช่วยเหลือ แต่ต้องการขับเคลื่อนเรื่องของทางม้าลายเพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับสังคม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน