สนามบินหาดใหญ่ ยังไม่แจ้งความ ทหารเรือกร่าง รอสอบข้อเท็จจริง ว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย ข้อหาทำให้ผู้โดยสารตกใจหรือการบินปั่นป่วนหรือไม่

ร.ท.ธนันท์รัฐ ประเสริฐศรี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีมีการเผยแพร่คลิปข้าราชการของกองทัพเรือ เมากร่าง พูดคำต้องห้ามภายในท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 21.15น.ของวันที่ 26 ม.ค. โดยในวันนั้น สนามบินได้นำตัวชายคนดังกล่าวไปจัดทำบันทึกประจำวันที่ศูนย์ร่วมรักษาความปลอดภัยภายในท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เพื่อสอบสวนเหตุ โดยชายคนดังกล่าวบอกว่าไม่ได้ตั้งใจพูด พูดเล่นจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ปล่อยตัวไป โดย ทางสนามบินได้ประสานแจ้งเรื่องไปให้กองทัพเรือรับทราบแล้ว

ทั้งนี้ สนามบินยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีชายคนดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจาก จะต้องมีการวิเคราะห์และตีความอย่างละเอียดว่าพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายผิด พระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศพ.ศ. 2558 มาตรา 22 หรือไม่ โดยกำลังพิจารณาว่าคำพูดของชายคนดังกล่าวทำให้ผู้โดยสารภายในสนามบินเกิดความโกลาหล ตกใจ หรือไม่ ผู้โดยสารมีการยกเลิกการเดินทางจากเหตุความไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งเบื้อต้นยังไม่พบว่ามีผู้โดยสารขอออกจากอาคารสนามบินเพื่อความปลอดภัย

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบสัมภาระของชายคนดังกล่าวในการเข้ามาใช้บริการสนามบิน ไม่พบว่ามีการพกอาวุธ หรือวัตถุต้องห้ามอันตรายเข้ามาภายในสนามบิน โดยสามารถผ่านการตรวจค้นได้ตามปกติ ซึ่งอาจจะมองได้ว่าการพูดเรื่องระเบิดดังกล่าวนั้น เป็นพียงคำพูดกล่าวอ้างเท่านั้น ไม่ได้ทำให้เจ้าหน้าที่สนามบินตกใจกลัว คาดว่าภายในวันนี้จะสรุปได้ว่า จะมีการแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่

ร.ท.ธนันท์รัฐกล่าวว่าสำหรับการดูแลผู้โดยสารที่มีอาการมึนเมาไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยด้านการบินนั้น กรณีนี้ สนามบินไม่รู้มาก่อนว่าชายคนดังกล่าวเมา โดยชายคนดังกล่าวได้มีการเข้ามาใช้บริการสนามบินโดยผ่านขั้นตอนการตรวจค้นปกติถูกต้องจึงสามารถเข้าไปใช้บริการสนามบินและเดินทางได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสายการบินว่าจะพิจารณาให้ขึ้นเครื่องบินหรือไม่หากตรวจสอบพบว่าผู้โดยสารมีอาการเมา

รายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศพ.ศ. 2558 มาตรา 22 ซึ่งระบุว่าผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ
ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับถ้าการกระทํานั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบินผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2-6แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน