ตายทะลุแล้ว 167 ศพ สาเหตุ “เมาซิ่ง” ตามด้วยขับรถเร็วเกิน”บุรีรัมย์-มหาสารคาม” มากสุด 5 ศพ ขณะที่ “บิ๊กตู่” ปลื้มประชาชนใช้จ่ายคึกคัก คาดเงินหมุนเวียน 5.7 หมื่นล้าน ตร.ระดมคุมพื้นที่จัดงาน “เคานต์ดาวน์” ผบ.ตร.ย้ำห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าเด็ดขาด จับดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด ส่วน “เขาใหญ่” คึกคัก แห่กางเต็นท์ค้างแรม ร่วมเคานต์ดาวน์

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานว่าการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนทั่วประเทศในช่วงปีใหม่เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะตลาดสดและห้างสรรพสินค้า เนื่องจากประชาชนที่กลับไปเยี่ยมบ้านและพักผ่อนออกไปซื้ออาหารสด นำไปปรุงรับประทานกับครอบครัว นอกจากนี้พบว่ามีประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดและกลับภูมิลำเนา ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ธนาคารออมสินคาดการณ์ว่าผู้มีรายได้น้อยจะจับจ่ายใช้สอยรวมกันประมาณ 57,000 ล้านบาท เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 3,765 บาท ในช่วงเทศกาลนี้

“นายกฯ ดีใจที่เห็นบรรยากาศเช่นนี้ รวมทั้งห่วงเรื่องการขับขี่ยานพาหนะและการเดินทาง จึงขอให้ทุกคนใช้ความระมัดระวัง ช่วยตักเตือนกันเองภายในครอบครัว และปฏิบัติตามคำแนะนำของ เจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา” โฆษกรัฐบาลกล่าว

ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผบก.สันติบาล 3 เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ว่า วันที่ 3 ของการรณรงค์ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร เกิดอุบัติเหตุ 649 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 73 ราย ผู้บาดเจ็บ 688 คน โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 47.92 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 21.88 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ รองลงมาคือรถปิกอัพ

สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ และบุรีรัมย์ 27 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.มหาสารคาม 5 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ 31 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 28-30 ธ.ค. เกิดอุบัติเหตุ 1,702 ครั้ง เสียชีวิต 167 ราย บาดเจ็บ 1,793 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือตายเป็นศูนย์มี 21 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ จ.ศรีสะเกษ และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ จ.บุรีรัมย์

พล.ต.ต.เอกรักษ์กล่าวว่า ศปถ.สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเข้มข้นเส้นทางสายหลักและสายรอง ในช่วงเวลา 16.00-20.00 น. เป็นช่วงเกิดอุบัติเหตุสูง ส่วนเส้นทางโดยรอบสถานบันเทิง และสถานที่จัดงานรื่นเริง ให้จัดชุดสายตรวจดูแลความปลอดภัย ในช่วงเวลา 23.00-02.00 น. เป็นพิเศษ เพื่อป้องปรามดื่มแล้วขับ ให้จังหวัดกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ทุกราย หากไม่สามารถตรวจวัดแอลกอฮอล์ด้วยวิธีเป่าลมหายใจได้ ให้ตำรวจประสานสถานพยาบาลของภาครัฐเจาะเลือดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์แทน เพื่อเพิ่มประสิทธิ ภาพการบังคับใช้กฎหมาย

ส่วน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยดูแลประชาชนเต็มที่ ทั้งตำรวจในเครื่องแบบ นอกเครื่องแบบ และอาสาสมัครร่วมออกปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่จัดงานเคานต์ดาวน์ ที่มีประชาชนมาร่วมเป็นจำนวนมาก โดยเน้นย้ำห้ามยิงปืนเฉลิมฉลอง เพราะจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หากพบการกระทำดังกล่าวจะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด

รองโฆษกตำรวจกล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล หากประสบเหตุ หรือพบสิ่งผิดปกติไม่น่าไว้วางใจให้แจ้งสายด่วน 191 ทั่วประเทศ หรือแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่น police I lert you สำหรับโครงการฝากบ้านกับตำรวจ หรือประชารัฐร่วมใจในปีนี้มีประชาชนเข้าร่วมโครงการกว่า 7,000 หลัง โดยติดต่อสื่อสารกับตำรวจผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ได้โดยตรง

ขณะเดียวกัน ที่ จ.นครราชสีมา บริเวณถนนธนะรัชต์ ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีปริมาณรถยนต์และรถจักรยานยนต์จำนวนมาก มุ่งหน้าขึ้นไปท่องเที่ยวบนเขาใหญ่ ผ่านด่านทางขึ้นบริเวณศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทำให้การจราจรติดยาวกว่า 2 ก.ม. เพราะต้องจอดรถเพื่อเสียค่าธรรมเนียมผ่าน อุทยานฯ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ต้องออกมาให้บริการด้านการจราจรก่อนผ่านประตูด่านเข้าไป และประชาชนจำนวนมากจอดรถเพื่อไหว้สักการะศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ขอพรปีใหม่

นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า มีนักท่องเที่ยวกว่า 30,000 คน พักแรมเขาใหญ่ โดยมีสถานที่กางเต็นท์ 2 จุด ผากล้วยไม้ และลานลำ ตะคอง มีนักท่องเที่ยวจองพื้นที่เต็มหมด อุทยานฯ เปิดจุดกางเต็นท์สำรองอีกแห่ง ที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ตรงข้ามอ่างเก็บน้ำสายศร นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสอากาศหนาวเย็น และจัดให้นักท่องเที่ยวร่วมฉลองเคานต์ดาวน์ 2 จุด บริเวณกางเต็นท์ผากล้วยไม้ และลานกางเต็นท์ลานจอด ฮ. ตรงข้ามอ่างเก็บน้ำสายศร

ด้าน จ.เชียงใหม่ บริเวณอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย พระธาตุดอยสุเทพ และจุดชมวิวบนดอยสุเทพ มีนักท่องเที่ยวแห่ขึ้นไปกราบนมัสการพระธาตุดอยสุเทพกันอย่างคึกคัก และเป็นวันแรกที่แสงอาทิตย์ยามเช้าสอดแทรกทะลุเมฆออกมาได้ ทิวทัศน์สวยงามมาก ส่วนที่ดอยปุยนั้นมีนักท่องเที่ยวพากันไปซื้อของที่ระลึกบริเวณบ้านแม้ว บ้านม้ง

ส่วนที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อ.เมืองเชียงใหม่ จัดงานเทศกาลชมสวน และความสวยงามของไม้เมืองหนาว มีนักท่องเที่ยวเข้าชมจำนวนมากนับแสนคน งานมีไปจนถึงวันที่ 28 ก.พ.2561 โดยเฉพาะทุ่งดอกทิวลิป 6 สี จำนวนกว่าหมื่นดอก และคืนวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ทางอุทยานฯ จัดกิจกรรมเคานต์ดาวน์ พร้อมจุดพลุเฉลิมฉลองอย่างอลังการ

ที่ร.พ.พิจิตร นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-น่าน ชนต้นไม้และพลิกคว่ำที่ อ.บึงนาราง จ.พิจิตร มีผู้บาดเจ็บ 9 คน และบาดเจ็บสาหัส 1 คน อยู่ในห้องไอซียู โดยนายอาคมสั่งการให้กรมการขนส่งทางบกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ 30 วัน และสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการรถคันที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างสอบสวนว่าเกิดจากหลับใน หรือเรื่องอื่น

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ร่วมประชุมและติดตามมาตรการรักษาความปลอดภัย และการจราจรช่วงปีใหม่ โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่าใช้กำลังกว่า 100,000 นายทั่วประเทศ ส่วน บช.น.ใช้ประมาณ 20,000 นาย โดยพื้นที่จัดงาน เคานต์ดาวน์ในกทม.มีทั้งหมด 6 จุด คือศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เอเชียทีค, ถนนข้าวสาร, งานศิลป์แสงแห่งแรงบันดาลใจ, งานหน้าห้างซีดีซี และงานทีบีซี เดอะแบง ค็อก เคานต์ดาวน์ 2018 คาดว่ามีประชาชนมาเข้าร่วม 150,000-160,000 คน คาดว่าที่เซ็นทรัลเวิลด์มีคนมาร่วมมากสุด ประมาณ 100,000 คน ส่วนพิธีสวดมนต์ข้ามปี จำนวน 26 วัด

ที่แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เดินทางมาเพื่อตรวจเยี่ยมศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ เมืองพัทยา โดยเน้นกำชับแผนป้องกันเหตุอาชญากรรม และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงเคานต์ดาวน์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน